เขาเดินทางมาคนเดียว
บนหนทางโดดเดี่ยวของคนฝัน
ดึงดันไต่ภูผาสูงชัน
มือจิกเท้ายันประจันโจม
ทานพุ่งสู่ทิศเบื้องหน้า
แข็งขืนฝืนฝ่าพายุโหม
ไม่หรอก ... ไม่มี ... ดนตรีประโคม
อาจสายลมเล้าโลมเพียงบางครา
.
ฟ้าฝนไม่เป็นใจ
น้ำตาไหลปนฝนจากหม่นฟ้า
อิดโรยน่าสมเพชเวทนา
ใยชีวิตข้า เป็นเช่นนี้ !
.
.
.๒.
บนยอดเขาสูง
แปลกนกยูงรำแพนแสนรุ้งสี
ดอกไม้ป่าเบ่งบานล้านมาลี
กล่นเกลือนหลากมณีทั่วศีขริน
อะไรคือสิ่งที่ต้องการ
เพื่อคิดหาญคว้าจันทร์จากผาหิน
เพื่อยืนยันว่านกเปลี่ยวเดี่ยวโบยบิน
มาถึงถิ่นเงาแสงแห่งนิรันดร์
.
ต้องการอะไรจากที่นี่
เขาผู้มีเฉพาะกาลระหว่างฝัน
ปรารถนาปลิดเด็ดเมล็ดพันธุ์
ของเพียงหนึ่งบุษบันไปหว่านลง
.
ค่ำแล้ว ...
ดาษดวงแก้วพริบพริบระยิบผง
ดาริกาบรรเลงเพลงทรนง
เจาะจง ... แด่ชายบนยอดภู
.
เงี่ยฟัง
งามโน้ตเพลงพรูพรั่งสองข้างหู
อุระเอมเอิบอาบซาบวิญญู
แม้ไม่รู้ดอกไม้ฝันนั้นอยู่ไหน
ชีวิตคือการแสวงหา
จะเร็วช้าพรักพร้อมย่อมพบได้
คือการตอบคำถามผ่านทำไม ?
มองเข้าไปในไม่รู้ สู่ทิศทาง
.
ดอกไม้นั้นอยู่ไหน ?
อุดมคติแห่งหัวใจใคร่สะสาง
ผ่านวันคืนหวั่นไหวในเลือนลาง
เคว้งคว้าง อ้างว้าง กลางเวลา
.
เหลือบเห็นหยาดน้ำตาจากดาวหนึ่ง
วาบแสงซาบซึ้งซึ่งค้นหา
หยดลงบนหนึ่งบุษบา
อีกน้ำฟ้าหล่นมาในอุ้งมือ
.
.
.๓.
เห็นดอกไม้นั่นไหม ?
นั่นดอกไม้ใช่ไหมตระกองถือ
ทะเลในพายุโถมโหมกระพือ
หรือคือ เงียบง่าย คลายเงื่อนปม
.
ในอุ้งมือทั้งสอง
ประคับประคองชมชื่นหรือขื่นขม
หัวเราะ ร้องไห้ หรือไม่อภิรมย์
ยกขึ้นดอมดม หรือนิ่งงัน
.
เขาผู้เดินคนเดียวชายเปลี่ยวเปล่า
ผ่านหงอยเหงา โศกเศร้า แข็งขัน
ถดถอย ต่อสู้ ฝ่าฟัน
เขาคนนั้นเห็นสิ่งใด ในอุ้งมือ ?
.
*****
ใครอุ้มตือ?
ตอบลบ(จาก ไซอิ๋ว)
๑.
เขาเป็นหมูถือคมเคียว
บนหนทางโดดเดี่ยวของถังซัมจั๋ง
ดึงดันไต่ภูผาสูงร้องเสียงดัง
อู๊ด อู๊ด น่ากลัวจะพัง พระถังลั่น เย็นไว้โยม
มาติดตามพระถังซัมจั๋ง
เห้งเจียก็เก่งดังพายุโหม
พระถังท่องมนต์ โอม...โอม..
เย็นไว้นะโยม ตือโป๊ยก่าย นา
.
ฟ้าฝนไม่เป็นใจ
ปีนผาสูงใหญ่ โดนฟ้าผ่า
เป็นหมูไหม้เกรียมน่าเวทนา
ใยชีวิตข้า เป็นเช่นนี้ !
.
.
.๒.
บนยอดเขาเตี้ย
ปีนลงดีไหมเนี่ย แล้ววิ่งหนี
ทิ้งพระถังไว้ แล้วเผ่นหนีไปให้ดีๆ
จะได้สุขีไม่รอเวลาที่ ร่วงลงดิน
อะไรคือสิ่งที่ต้องการ
ข้าวปลาอาหาร หรือถ่านหิน?
มองลงไปในผาลึก อื้อ หือ....อยากเป็นหมูโบยบิน
แต่กลัวตกไปแล้วสิ้น ...หมดกัน หมดกัน
.
ต้องการอะไรจากที่นี่
ปีนเขาลูกนี้ดั่งความฝัน
เป็นหมูลำบาก ต้องตรากตรำทั้งวัน
ใครใช้ให้ปีนขึ้นมากัน? อยากจะลง
.
ค่ำแล้ว ...
หิวผักกาดแก้ว คอก็แห้งเป็นผง
หันไปมองพระถัง เราเป็นดั่งหมูทรนง
แต่ถ้าร่วงลง คงเป็นหมูแบน
.
เงี่ยฟัง
เสียงกล้ามเนื้อดัง ทั้งสองแขน
อาจหาญชาญชัย เป็นหมูแมนๆ
แต่หันไปเจอรังแตน แทบปีนไม่ไป
ชีวิตคือการแสวงหา
ปีนขึ้นเขาเสียดฟ้าจะหาอะไรได้
ฟ้าฟาดเปรี้ยงๆ ขอเดี้ยง จะทำยังไง?
แขนเมื่อย ปวดใจ เป็นหมูไร้ทิศทาง
.
ยอดเขาอยู่ไหน ?
ปีนผานี้ไป จนฟ้าจะสาง
ยุงก็กัด กัดทีก็เจ๊บ จนต้องคราง
เคว้งคว้าง อ้างว้าง บ้านร้าง หมูขอลา
.
เหลือบเห็นหยาดน้ำตาจากหมูตนหนึ่ง
หยดผ่านจมูกซึ่ง น่าค้นหา
หยดลงบนหนึ่งกีบหมู อุบาทว์ลูกตา
อีกน้ำฟ้าหล่นมาในอุ้งมือ
.
.
.๓.
เห็นพื้นนั่นไหม ?
หมูอยากกระโดดลงไปไม่ยึดถือ
กระโจนไปแล้ว หมูแก้ว ใครจะอุ้มตือ?
เอาละ หมูจะกระพือ กีบโต้ลม
.
ในอุ้งมือทั้งสอง
ปล่อยการประคอง ขอร่วงลงไปผสม
กับก้นหินผา ช่างน่าอภิรมย์
ถ้าตกน้ำก็คงไม่มีใครงม หมูเงียบงัน
.
เอาละ กระโดดดีกว่า
หมูนี้ขอลา บินไปดั่งความฝัน
อู๊ด อู๊ด หมูนี้บินพลัน
พระถังร้องลั่น ใครจะอุ้มตือ ?
........
แป้ด...
หมูแบน
...
ตอบลบเขียนซะจนตัวตาย จากหมูบิน กลายเป็นหมูแบน
.. เอาคำมาเรียงล้อ
.... ไม่ ได้ ความ
.. แปลว่า อ่านไม่รู้เรื่อง
...... เฮ้อะ !
ในแต่ละวัน
ตอบลบลมหายใจใหม่ต่อไฟให้ยืนหยัด ทีละลมหายใจเข้าออกทบทวนพิจารณา
ภารกิจข้างหน้า มีเวลาเป็นหมุดหมายให้เคลื่อนที่
ลมหายใจหนึ่งเข้าไกล้วันหวังได้อีกหนึ่ง
พ้นวันหนึ่งเพื่อเข้าไกล้ไปอีกวัน
หอมกลิ่นเวลานาทีหอมหวาน
ไม่ยื้อไว้หากผ่านไปก็เสียดายได้สักพอเห็นค่า
ไม่ฟูมฟายเกินกว่าจะก้าวเดิน
ผ่านวันให้พ้นวัน
รักษาชีวิตไว้ทำหวัง
ปลูกดอกไม้เพื่อนับจังหวะคืนวันอันเป็นรูปธรรมสัญลักษณ์
เมื่อวานดาวกระจายร่วงกลีบไปสามดอก
สิบห้าวันแล้วสินะ
เวลาอยู่ในอุ้งมือ ชีวิตอยู่ในอุ้งหวังและภารกิจอยู่ในอุ้งใจอันเปี่ยมรัก
อืม
โดยผู้ร่วมเขียน
ว้าว อ่านบทกวีเขียนร่วม
ตอบลบนิ่ง
อย่างหนักแน่น
วินาที ... ที่ถูกแย่งยื้อ หรือมีค่า
ตอบลบเรา นิ่งงันอยู่ในเวลา
และเวลา นิ่งงันอยู่ในความเงียบ
ชีวิต ... คิดคล้ายเส้นใยบางบาง
บนระยะทางที่เกินกว่าห่าง
ที่ทางอยู่หนใด ?
มีเวลาสำหรับทุกข์ และงานฉลอง
ยามนี้ต่างกอดตระกองความหวั่นไหว
หมุดเวลาเปล่งความหมายฉายแสงใจ
ต่างเดินหน้ามาไกล ... ไม่ถึงวัน
วันนั้นจะเป็นอย่างไร ?
เหมือนไหม หรือไม่เหมือน ฝัน
จะทำได้ไหม รักษาไว้ ซึ่งกันและกัน
ไม่หวาดหวั่น เผฃิญหน้า ไม่ว่าปัญหาใด ?
เวลาผ่านเลบ หรือยื้อยุด ฟูมฟาย
อีกหนึ่งวันที่เสียดาย ไม่เสียขวัญ
ประทับบางความหมาย ไว้นึกถึง ในบางวัน
เก็บไว้ในห้วงนิรันทร์ ในห้วงคำนึง
~
อ่านแล้วค่ะ
ตอบลบTT ไม่ถามว่าพึ่งเขียนหรือเขียนไว้เมื่อไหร่
บทกวีไม่มีเวลา
บนเส้นทางของคนชอบเขียน
ตอบลบมีดอกไม้แห่งบทเรียนเขียนคุณค่า
สิ่งพิเศษเหตุการณ์ผ่านเวลา
ถ่ายทอดด้วยอักษราประสาเรา
บทกวีในห้วงกาลอาจไร้กาล
ชีวิตคนต่างพบพานทั้งเราเขา
กระแสธารช้าแรงแสงและเงา
กระแสลมหนักเบาเท่าเท่ากัน
มีเวลาดมดอมหอมกุหลาบ
มีเวลาหวานอาบซาบกลิ่นฝัน
มีเวลาทุกข์ถมซมคืนวัน
กลืนยาขมรักษาขวัญปันแรงใจ
ต่างก้มหน้าก้มตาทำสิ่งรัก
ต่างปกปักถนอมฝันไม่สั่นไหว
อุปสรรคขัดขวางบนทางไกล
ยังหวังได้คำปลอบโยนคนกันเอง.
บทนี้อบอุ่น ธรรมของมนุษย์
ตอบลบเอาไปไว้ข้างบนเลยเนอะจัส
^^
*ในอุ้งมือ* บทกวีเขียนร่วมในกระทู้นี้ของจัสมินที่บ้านใหญ่ หวังจะเอาหลายๆบทของหลายๆเพื่อนเขียน มาเก็บไว้อ่านในบ้านของตัวเอง
ตอบลบ...
ในแต่ละวัน
ลมหายใจใหม่ต่อไฟให้ยืนหยัด ทีละลมหายใจเข้าออกทบทวนพิจารณา
ภารกิจข้างหน้า มีเวลาเป็นหมุดหมายให้เคลื่อนที่
ลมหายใจหนึ่งเข้าไกล้วันหวังได้อีกหนึ่ง
พ้นวันหนึ่งเพื่อเข้าไกล้ไปอีกวัน
หอมกลิ่นเวลานาทีหอมหวาน
ไม่ยื้อไว้หากผ่านไปก็เสียดายได้สักพอเห็นค่า
ไม่ฟูมฟายเกินกว่าจะก้าวเดิน
ผ่านวันให้พ้นวัน
รักษาชีวิตไว้ทำหวัง
ปลูกดอกไม้เพื่อนับจังหวะคืนวันอันเป็นรูปธรรมสัญลักษณ์
เมื่อวานดาวกระจายร่วงกลีบไปสามดอก
สิบห้าวันแล้วสินะ
เวลาอยู่ในอุ้งมือ ชีวิตอยู่ในอุ้งหวังและภารกิจอยู่ในอุ้งใจอันเปี่ยมรัก
โดย หทัยสินธุ
*