Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Tales; The Sewing Maiden and The Shoemaker แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Tales; The Sewing Maiden and The Shoemaker แสดงบทความทั้งหมด

10.4.53

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอนจบ The sewing maiden and the shoemaker(จบ)


Marc Chagall's "Ballet Rusee"

ชายช่างทำรองเท้าหยิบเศษด้ายขึ้นดู
“เธอกำลังเย็บเสื้อสีน้ำตาล สีเดียวกับเสื้อที่ฉันสวมใส่
... เธอเย็บเสื้อตัวใหม่ให้ฉันใช่ไหม ? "

“อย่าหลงตัวเองไปเลย” .

“เธอกำลังเย็บเสื้อตัวใหม่ที่ฉันไม่ต้องการ
เสื้อขาดเป็นริ้วของอัศวินผู้ผ่านสมรภูมิโชกเลือด
ตัวนี้ต่างหาก ที่ฉันปรารถนา
คนดีของฉัน ... เย็บเสื้อตัวใหม่ต่อไป
และนำมันไปขายเพื่อใช้ซื้อถ่านหิน
รู้ไหม เธอทำให้ฉันเป็นสุข”

“แต่เธอต้องหาเสื้อตัวใหม่ให้เจอ นี่เป็นข้อแม้ !”

"จะเป็นข้อแม้ได้อย่างไร ในเมื่อฉันไม่ต้องการเสื้อตัวใหม่
สื้อตัวที่ฉันต้องการ ฉันสวมมันอยู่แล้วนี่ไง”

เขายกตะเกียงขึ้นวางบนโต๊ะ จับเธอนั่งลงบนเก้าอี้ และสวมรองเท้าคู่ใหม่ให้
... ดึงสองมือให้ลุกยืน
จากนั้นเขาพาเธอเต้นรำไปในห้องเล็ก ๆ
ด้วยเสียงเพลงของหัวใจ ... ที่ไม่มีผู้ใดได้ยิน

“แต่เธอต้องหาเสื้อตัวใหม่ให้พบ ! ”

“ไม่นะหญิงสาว ลืมเสื้อตัวนั้นเสีย
เพียงคิดถึงความรักของเรา
แม่หายดีแล้ว กำลังจดจ่อ
รอฟังเสียงระฆังวิวาห์ที่จะดังขึ้นในไม่ช้า ...”

“เธอจะใส่เสื้อขาดตัวนี้จริง ๆ หรือ ?”

“แน่นอน ฉันจะสวมใส่มันเข้าพิธีวิวาห์ !
เสื้อตัวนี้มีค่าเพราะหัวใจรักของเธอ !”

..


หญิงเย็บผ้า เย็บเสื้อตัวใหม่จนเสร็จ ขายมันไปไม่ใช่เพื่อค่าถ่านหิน
หากเพื่อซื้อแถบผ้าสวยเรียบสีน้ำตาล มาตกแต่งซ่อมริ้วเสื้อตัวเก่าที่ฉีกขาด
เสื้อตัวนี้ไม่ปุปะ กลายเป็นเสื้อแปลกตา ที่ใคร ๆ ต่างมาสั่งตัดเย็บ
และเธอก็ตัดเย็บให้พวกเขา
แม้ไม่มีเสื้อตัวใดจะเหมือนเสื้อแห่ง “อุปสรรค”
ไม่มีเสื้อตัวใดงามแปลกตาเท่าเสื้อตัวนั้นอีกแล้ว
มันเป็นเสื้อที่มีเรื่องราว !

เสียงระฆังโบสถ์ดังเหง่งหง่าง
เจ้าสาวและเจ้าบ่าวจูงมือออกมาด้วยกัน
เจ้าสาวสวมรองเท้าคู่สวย และเจ้าบ่าวสวมเสื้อคลุมตัวงาม
อุปสรรคผ่านพ้นไปแล้ว
แต่เขาทั้งสองยังอยู่ ...
เคียงข้างกันและกัน.



~

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 12 The sewing maiden and the shoemaker

12

 Marc Chagall; Above the Town (Au Dessus de la Ville)


“ฉันขอโทษ ...” ชายช่างทำรองเท้ากล่าวอย่างสำนึกผิด

“เคยได้ยินเสียงฉันบ้างไหม
ขณะฉันสนทนาอยู่กับดวงดาว ...
คืนหงอยเหงาเศร้าสร้อยคล้อยเคลื่อนไปช้า ๆ
เวลา ปฎิเสธเข็มนาฬิกา ยื่นมือเข้ามาชักชวน
เคยได้ยินฉันบ้างไหม ชายช่างฝัน
ดอกไม้ไหวหวั่นที่ริมสวน
สิ้นแล้ว หมดแล้วทั้งมวล
ไม่ทบทวนเก่าใด ... 
สิ้นแล้ว หัวใจของวันวาน"

“เราผูกพันกันด้วยรัก ตั้งแต่แรกรู้จัก จนบัดนี้
ความรักเมื่อเกิดแล้วยากจะดับ ...”
 
“โอ ลอยลับดับไป เช่นเทียนไขให้ประกายเปล่งปลั่งเพียงชั่่วยาม
ไปเถิด ฉันจะปิดประตู” 
 
“ทำไมห้องจึงมืดนัก ทำไมตะเกียงถึงอยู่บนเก้าอี้ ?
... เสื้อรุ่งริ่งนั่น ... เสื้อตัวนั้นนี่นา !” 
 
“ใช่ ! เสื้อตัวนั้น เสื้อที่ฉันพบมันจมอยู่ในหล่มโคลนสกปรก
คนใจร้ายไม่เห็นคุณค่าของมัน” 
 
“ฉันไม่อาจรู้ว่าเป็นเสื้อที่เธอตัดเย็บ”
ช่างทำรองเท้าก้าวยาว ๆ ผ่านเธอผู้งุนงงเข้าไปในบ้าน
เขาคว้าเสื้อขึ้นมาสวม
“ฉันจะสวมใส่เสื้อตัวนี้ เช่นอัศวินผู้ผ่านสงครามมาโชกโชน
เสื้อขาดเป็นริ้วประกาศชัยชนะ
เธอจะปะติดปะต่อมันขึ้นมาอีกครั้ง
เสื้อยังไม่ตายและฉันยังมีชีวิต
เธอเล่า อยากเป็นจอมใจอัศวินเสื้อขาดคนนี้ไหม”
 
เธอไม่ตอบ ...
 
ช่างทำรองเท้าเหลือบมองตะเกียง เขาเดินเข้าไป
... บนพื้นมีกรรไกร มีเศษด้ายเต็มไปหมด
เขาหันมองเธอ แววตาตื่นตะลึง
“นี่เธอหนาว จนต้องนั่งเย็บผ้าใต้โต๊ะเชียวหรือ ? ”
 



~

9.4.53

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 11 The sewing maiden and the shoemaker (11)

11.

Beautiful Earth


ชายช่างทำรองเท้ายืนอยู่ที่นั่น ในมือกอดถุงผ้าไว้แน่น
จะไม่ยอมสูญเสียรองเท้าคู่นี้ไปอีกแล้ว
จนกว่าสัญลักษณ์ความรักของเขา
จะตกอยู่ในการครอบครองของเธอผู้เป็นเจ้าของ

หญิงเย็บผ้าเล่า เธอจะทำอย่างไรได้
นอกจากก้มหน้า ปรายตาคู่สวยแสนเศร้าขึ้นมอง
แววตาตัดพ้อต่อว่า หากยังค้นหา ... คำตอบ
สิ่งที่เห็น ... คือแววตาทดท้อ สำนึกผิด
และคำขอโทษ

สายตาสองคู่สอดประสาน กระนั้น มิได้มีถ้อยคำใดเอ่ยออกมา
ร้อยพันถ้อยคำต่างแก่งแย่งจนไม่อาจกล่าวออกมา


อากาศหนาวจับจิต หิมะกำลังโปรยปราย
เธอเคยเห็นมันเป็นผงน้ำตาลไอซ์ซิ่งบางเบา
ซึ่งเหล่าเทพธิดาโปรยลงมาจากฟ้า
หากเวลานี้ มันเป็นได้เพียงหิมะ !

เธอผู้ไม่ผิด ไม่เชื้อเชิญเขาเข้าบ้าน !
โอ เธอกำลังจะปิดประตู
เขาก้าวเข้าขวางประตู
จะไม่ปล่อยให้ช่วงเวลานี้หลุดลอย..

“ฟังก่อน ... ฉันนำรองเท้ามาให้
รองเท้าที่เกิดจากใจคนฝัน
ละอองน้อยนิดแห่งรักนิรันดร์
ปลายเชือกนามความผูกพัน ที่ฉันมอบแด่เธอ
กระนั้น ... คุณค่าอยู่ที่หัวใจ
เพราะทุกนาทีผ่านไปนั้น ฉันเห็นแต่เธอ
แม่เทพธิดา !
ที่หายไป มิได้หลบลี้หนีหน้า
หากเผชิญปัญหา ไม่อาจรักษาของขวัญ
จึงได้แต่โศกาจาบัลย์
ปล่อยความทุกข์บั่นทอน
กัดกร่อนไปวันวัน”


“ใยเธอทำลายเสื้องาม
สัญลักษณ์ความรักของฉัน
ใยไม่ถนอมหัวใจกัน
ใยบั่นความฝัน ! ”

“คนดี ... ฉันไม่รู้ว่าเป็นเสื้อที่เธอตัดเย็บให้ฉัน
เสื้อตัวนั้นมาจากมือคนเอาแต่ได้
ฉันโมโห กรีดขาดโยนทิ้งพลัน
สุดอดกลั้น คนให้นั้นขู่ซื้อรองเท้าของเธอไป”
“แล้วทำไมไม่มาหา ใช้วาจาแถลงไข
ทำไมจึงเงียบหายไป
ทำไมเธอจึงไม่..กอดคอร้องไห้ด้วยกัน ! ”



~

5.4.53

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 10 The sewing maiden and the shoemaker (10)







10.

เสียงเคาะประตูกระชากหญิงเย็บผ้าออกมาจากภวังค์โศก

เธอตื่นตะลึง

โอ ใครมาล่ะนั่น !หรือจะเป็นเจ้าของบ้านเช่า

ไม่ ! เขาจะไม่ได้เห็นเสื้อตัวนี้ !

เร็วเท่าความคิด มือคว้าเสื้อแล้วลุกขึ้น วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต !

ผนังหนาถูกทำไว้เป็นที่ซ่อนของมีค่า

เธอพบช่องนี้ขณะทำความสะอาดวันย้ายเข้ามา

ของมีค่าที่เธอไม่เคยมีให้ต้องซ่อน

นอกจากเสื้อตัวนี้

เธอเปิดฝาไม้ที่เรียบสนิทกลืนกับแผ่นไม้

แผ่นไม้นี้ติดกับพื้นและตั้งฉากกับผนังห้อง

เธอใส่เสื้อที่ยังเย็บไม่เสร็จเข้าไปข้างใน ปิดฝา

จ้องมองอย่างสำรวจตรวจตรา

ต้องไม่มีอะไรผิดพลาด !


ยกมือขึ้นป้ายน้ำตา เอามือลูบชุดที่สวมใส่

เสื้อผ้าเก่า ๆ ยู่ยี่เพราะนั่งขดทำงานอยู่ใต้โต๊ะ

ซอยเท้าตรงไปเปิดประตู ...

เขายืนอยู่ที่นั่น !




~


หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 9 The sewing maiden and the shoemaker (9)





9.

หญิงเย็บผ้า ก้มหน้าลงซุกซบเข่า ร่ำไห้อย่างไม่เคยมาก่อน

นับจากวันที่พบเสื้อในหล่มโคลนที่เกิดจากหิมะละลาย

เธอเลิกร้องไห้

เก็บกักไว้เนิ่นนาน

... นานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์

จนหลงคิดว่าจะไม่มีวันร้องไห้อีก

แต่แล้ววันนี้ก็มาถึง

วันร้องไห้ !

ร้องเสียให้พอ !


โอหัวใจดวงน้อยละห้อยเหลือ

เหมือนลอยเรืออยู่ในทะเลกว้าง

มองไปทางใดไม่เห็นทาง

มีแต่ความลัวลางและร้างเลือน


ชีวิตเหมือนเรือน้อยลอยบนคลื่น

ท่ามฟื้นตื่นความไม่มีที่ไม่เหมือน

ความทรงจำเหยียบย่ำคอยย้ำเตือน

สะท้อนสะเทือนส้อยเศร้าใต้เงาดำ


น้ำตาเอ๋ยไหลมาให้หมดหมด

แล้วจำจดเอาไว้ให้อิ่มหนำ

รู้จักแล้วใช่ไหมใจเจ้ากรรม

รู้เจ็บช้ำแล้วใช่ไหม ... ใจเอย


~

4.4.53

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 8 The sewing maiden and the shoemaker (8)

Village in Winter by Eversen Andrianus

 ห้องหม่นเศร้า อึมครึมไร้ชีวิตชีวา

ประตูหน้าต่างถูกปิดแน่นหนา

หญิงสาวซุกตัวเย็บผ้าอยู่ช่องว่างใต้โต๊ะ

พึ่งพาแสงตะเกียงดวงเล็กที่ตั้งไว้บนเก้าอี้

จะไม่ให้ใครเห็นเสื้อตัวใหม่

เหรียญเงินที่ได้มาจากเจ้าของบ้านเช่าหน้าเลือดถูกใช้ไปเป็นค่าผ้า 

แถบตกแต่งเสื้อคลุมและกระดุมเม็ดสวยเสื้อตัวใหม่นี้จะงดงามมาก คัดสรรค์มาแต่ของดี

ของดี ๆ ที่เคยยืนมองตาละห้อย

ของดี ๆ ที่เสื้อตัวเก่าไม่มี

เสื้อตัวเดิมสวยงามด้วยฝีเข็มบนตะเข็บ ที่เธอเฝ้าเย็บเฝ้าเลาะ จนไม่มีที่ติ

ไม่มีแถบผ้าตกแต่ง กระดุมก็เรียบง่าย ราคาถูก


น้ำตาไหลเมื่อนึกถึงชายคนรัก ...

ไม่ใช่เพียงเพราะเสื้อฉีกขาดรุ่งริ่ง แขวนไว้เตือนใจ

... เขาไม่เคยเหยียบย่างมาเยี่ยมเยียน

สิ้นแล้วความห่วงหาใยดีต่อหญิงที่เธอเคยบอกรัก ครั้งแล้วครั้งเล่า

ช่างใจดำเหลือเกิน ...

ร้องไห้? ทะเลในใยไม่เหือดแห้ง


 

เสื้อที่เฝ้าระวังไม่ให้เปื้อนเลือด เวลานี้กลับเปื้อนน้ำตา

รินไหลไม่เลือกเวลาเลย



ความเศร้าไม่ผิดกับความรัก มาถึงโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว สั่งให้เริ่มก็ไม่ได้ ให้หยุดก็ไม่ได้

เสื้อตัวแรกตัดเย็บด้วยใจรัก

หากเสื้อตัวนี้ตัดเย็บด้วยใจเศร้า

 

ห้วงความคิดอึงอล คำพูดหญิงชราแว่วมาให้ได้ยิน

“หากความรักเช่นเดียวกันนี้ มากจากชายอื่น เจ้าจะเรียกว่าความรักไหม”

เธอส่ายหัว " ไม่ ! ไม่ ! ความรักไม่อาจมาจากที่ใด แต่จากหัวใจฉันเอง”


~

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 7 The sewing maiden and the shoemaker (7)


A small village in Bulgaria by Matro Marini

7.

เจ้าของร้านเครื่องหนังใหญ่ที่สุดในเมืองนั่งมองรองเท้าที่ถูกส่งคืนจากพระราชวัง ยิ่งมองยิ่งเกิดโทสะนั่งไม่ติด แน่นอน คนใหญ่โตอย่างเขาไม่ใช้คนผิด !คนผิดคือช่างทำรองเท้าโง่เง่านั่นต่างหาก ! ถ้าขนาดรองเท้าใหญ่ขึ้นอีกนิดเดียว ป่านนี้เขาคงรับเงินจากเจ้าหญิงมาเรียบร้อย ที่สำคัญ รองเท้าที่ข่มขู่ซื้อมา ซอมซ่อจืดชืด เคียงข้างรองเท้าจากดินแดนโพ้นทะเลที่นายพลเรือนำมาถวาย เขาเสียหน้า ในฐานะผู้โปรดปรานของราชสำนัก แต่คนมั่งมีอย่างเขา ย่อมมีอิทธิพลอยู่เป็นธรรมดา อย่างน้อยก็ต่อชายช่างทำรองเท้าผู้ต่ำต้อย !
~ ช่างทำรองเท้าก้มมองรองเท้าที่ถูกเขวี้ยงลงบนพื้นเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นวางบนโต๊ะอย่างทนุถนอม สำหรับผู้ไม่ต้องการ มันช่างไร้ค่าเสียจริง ไม่รู้หรอกหรือว่ามันมีความหมายต่อเขาเพียงใด รองเท้าคู่สวย คงมีชีวิตจิตวิญญาณของมันเอง จึงเดินทางกลับมาหาเขา กลับมาหาเธอ เจ้าของที่แท้จริง
~..
.

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 6 The sewing maiden and the shoemaker (6)

6.

A village under the Sun

เจ้าของร้านทำรองเท้าใหญ่ที่สุดในเมืองโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง
... รองเท้าถูกส่งคืนมาจากราชสำนัก
รองเท้างดงาม สวยจับตาจับใจเจ้าหญิง
หากสวมใส่ไม่ได้
รองเท้าคู่นี้เล็กไป !
โชคชะตาเล่นตลกกับเขา
ผู้เคยเป็นที่โปรดปราน
รองเท้าอีกคู่เดินทางมาไกล
นายพลเรือนำมันกลับมาจากโพ้นทะเล
รองเท้าปักร้อยด้วยพลอยและมุก
งดงามกว่าคู่นี้มากนัก
แต่ที่สำคัญที่สุด
...เจ้าหญิงสวมใส่ได้พอดี !
โอ
ความพอดีที่สำคัญ !
อัศจรรย์แห่งความพอดี !
~

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน5 The sewing maiden and the shoemaker (5)

Village in Winter by Alfred Sisley


5.

อาจมิใช่เพียงความหนาวมือหญิงสาวถึงสั่น
เข็มเย็บผ้าแทงขึ้นแทงลงแม้ในแสงแห่งวัน
กระนั้นมือสั่นเทายังเฝ้าผิดพลาด
เข็มทิ่มลงปลายนิ้วถลอกเป็นขุย ... 

หยดเลือดซึมเป็นเม็ดกลมเหมือนปลายเข็มหมุด
เธอรีบซับ
เสื้อคลุมตัวนี้ต้องไม่มีรอยเปื้อน !
 
เหตุใดจึงตระหนกเพียงนี้
ก็เขานะซีที่ปรากฎในห้วงคิด
ช่างมีอิทธิพลเหนือเวลาและที่ทาง
ทุกการเคลื่อนไปของเข็มนาฬิกา
เขา ... อยู่ที่นี่เสมอ

~

2.4.53

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 5 The sewing maiden and the shoemaker (4)


The Lovers, Irisquilt by Iris Sonnenschein
4.

ค่ำแล้ว หญิงเย็บผ้าปรายตาแสนเศร้าผ่านหน้าต่างมองฟ้า ท้องฟ้าสีน้ำเงินเช้มเกือบดำ ... 
 คืนไร้จันทร์ ความมืดคืบคลานเข้ามาครอบคลุมแม้ความนึกคิด  
หัวใจไหว ๆ รู้สึกรู้สม คล้ายถูกเคลือบด้วยไขเทียนหนาหนักที่เพิ่งคลายความร้อน  
อึดอัดจนต้องเดินไปเปิดประตู  ก้าวออกไปยืนอยู่ในสวนเล็กหน้าบ้าน  
แสงจากโคมไฟบนเสาเหล็กสีดำข้างถนน เผื่อแผ่แสงจางลงมาบ้าง 
 เธอจับตามองดวงไฟกลมสีเหลืองนวล บอกตัวเองว่า ... “คืนนี้ จันทร์เต็มดวงลอยต่ำเหลือเกิน” 
หญิงสาวคว้ากำลังใจจากดวงไฟที่ไม่เกี่ยงงอน



อากาศเย็นจนตัวสั่นหญิงเย็บผ้ากลับเข้าไปในบ้าน 
เธอจุดตะเกียงแล้วหยิบผ้าเนื้อหนาสำหรับตัดเย็บเสื้อตัวใหม่วางลงบนโต๊ะ  
เสื้อตัวใหม่นี้จะถูกเก็บไว้เป็นความลับ .

 ฉันเย็บเสื้อตัวแรกเพื่อชายคนรัก เสื้อที่ฉันตัดเย็บจนเสร็จ
เสื้อที่ทุกคนเห็นแล้วชื่นชมว่างดงาม
 เสื้อที่ฉีกขาดเป็นริ้ว ขณะนี้แช่อยู่ในน้ำสบู่  
  
ฉันจะเย็บเสื้อตัวใหม่และเชื่อว่าจะทำสำเร็จอีกครั้ง !

เธอมองเสื้อตัวแรกในอ่างที่มุมห้อง
ย้อนนึกถึงเหตุการณ์วันก่อน ชายอ้วนผู้มั่งมีเจ้าของบ้านเช่าผู้โหดร้ายมาเก็บค่าเช่า เขาเห็นเสื้อตัวนี้และขอซื้อ
ฉันปฏิเสธ เขาเกิดโทสะข่มขู่ จะขับไล่ออกจากบ้านโกโรโกโสหลังนี้ 
ฉันต่อสู้ทุกวิถีทาง
จนกระทั่งเขาบอกว่า
เสื้อตัวนี้เป็นของกำนัลเธอ ช่างทำรองเท้าผู้มีฝีมือที่สุดในเมือง ...
รองเท้าที่เธอทำคู่ควรกับเจ้าหญิงเท่านั้น
ฉันถึงได้ยอม ... 

เธอผู้เป็นที่รัก ... ทุกรอยตัดและฝีเข็มบนเสื้อตัวนั้น เสมือนคำมั่นสัญญา

ฉันจะไม่ประหวั่นพรั่นพรึงอีกต่อไป จะตั้งอกตั้งใจตัดเย็บเสื้อตัวใหม่ 
 หากผู้ใดตระหนักรู้คุณค่าของความตั้งใจ
 หากโชคดี เขาจักสวมใส่ได้พอเหมาะ 
 และหากเธอย้อนทวนมาทวงสิทธิ์
 เธอจักต้องพยายามหนัก

สิ่งซึ่งถูกซุกซ่อน เธอต้องค้นหา 
สิ่งที่ค้นพบ ต้องพอดี

 
*

1.4.53

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 4 The sewing maiden and the shoemaker (3)




 4.

ในวันสามัญ ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ แสนสามัญแห่งนี้
เสียงร่ำไห้ของหญิงสามัญ สวรรค์จักได้ยินหรือไม่ ไม่มีผู้ใดรู้
แต่มันดังถึงหูหญิงชราหมอยาประจำหมู่บ้าน ผู้ไม่รั้งรอเข้าไปถามไถ่

หญิงเย็บผ้าปรายตาเปียกชื้นอัสสุชลขึ้นมอง
น้ำตาหยดหนึ่งตกต้องแสงอาทิตย์ยามเย็นเกิดประกายวาบ
หัวใจเธอนั้นไม่ผิดเสื้อคลุมฉีกขาดในอ้อมแขน
เสื้อคลุมที่ทำด้วยใจพิสุทธิ์ บัดนี้เปื้อนเปรอะเลอะเทอะเป็นขยะจมโคลน

“เสื้อที่ตัดเย็บด้วยความรักเพื่อชายผู้เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ต้องการ
“แต่เจ้าได้เย็บเสื้อคลุมตัวนี้จนเสร็จไม่ใช่หรือ”
เธอพยักหน้าน้ำตาพรู
บนใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งกาลเวลา ดวงตาหญิงชราฉายแววปราณี 
“ความรักที่เจ้ารู้จัก หากมาจากคนอื่น ยังคงเป็นความรักไหม” 

วินาทีนั้น หญิงเย็บผ้ารับรู้ความจริงบางอย่าง
คลับคล้ายเธอสามารถเข้าใจมันทั้งหมด

ถ้าใครจับตาจ้องมองเธออยู่ ใครคนนั้นจักมองเห็น
บางอย่างของความจริงและบางอย่างของความรัก

ผู้จับตาจ้องมองด้วยดวงใจเปิดกว้าง จักสรุปได้ว่า 
เสียงร่ำไห้ของหญิงเย็บผ้า ... 
ได้เดินทางไปถึงสวรรค์


*

31.3.53

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 2และ 3 The sewing maiden and the shoemaker (2)


Village in Winter by Matija Jama

2
(โดย คุณใหม่)


หลังผ่านหลายชั่วคืนอันอุตสาหะ
ท่ามกลางความสงบวิเวกแสนสันโดษ
ชายช่างทำรองเท้านั่งประดิษฐ์ประดอยงานฝีมือชิ้นเยี่ยมของเขา
กลางแสงจันทราและลมหนาว
จากค่ำจันทร์อิ่มดวงถึงคืนดาวพร่างพร้อย
งานที่สวยงามจากใจสวยงามและมุ่งหวังสู่คืนวันที่สวยงาม
ก็สำเร็จลงเมื่อกลุ่มดาวไถเคลื่อนคล้อย
กลุ่มลูกไก่กรูเกรียวไล่จับกันไปลับฟ้า
และแก่ก่ำดั่งโกเมนเอกแห่งดาวพระอังคารโชนดวงขึ้นสูง
เขาหลับไปอย่างเป็นสุข . . .
เพียงส่วนเสี้ยวนาฑีเดียว ก่อนที่ดาวปาริชาติจะชิงดวงดาวพระอังคาร !!

~~~

อรุโณทัยพรายพร่างห่มผืนดินเหมันตฤดู
อย่างยิ้มแย้ม ... ช่างทำรองเท้านำรองเท้าไปผึ่งในแสงแรกบนรั้วไม้
เสียงไอโขลก ๆ จากแม่ผู้ชราดังมาจากในบ้าน
เขาผละไปดูแลแม่ผู้เป็นเพียงดวงประทีปเดียวแห่งชีวิต


"สวัสดีช่างทำรองเท้า"
ชายอ้วนลอดประตูเข้ามาพร้อมเสียงทักทาย
"รองเท้าข้างนอกนั้นโปรดขายแก่ฉันผู้เป็นเจ้าของร้านเครื่องหนังโตใหญ่ 
และเป็นตัวแทนแห่งเจ้าหญิง
ซึ่งไม่อาจหารองเท้าถูกใจเพื่อสวมใส่ไปงานเต้นรำประจำปีได้
แม้ได้ค้นแล้วจากร้านรองเท้าทั่วแว่นแคว้น
ทรงเกรี้ยวกราดช่างรองเท้าประจำราชสำนักและข้าราชบริพารมาหลายเพลาแล้ว
หวังว่าท่านคงเข้าใจ"

"ฉันมิอาจขายให้ท่านได้
นี่เป็นรองเท้าเพื่อหญิงสาวของฉัน
หญิงสาวผู้เป็นที่รักยิ่งของฉัน
ท่านโปรดเข้าใจ"

"งานเลี้ยงจะเริ่มในอีกเพียงไม่กี่ราตรี
และไม่เคยมีใครขัดพระทัยเจ้าหญิงได้
ฉันจะกลับมาที่นี่อีก
... ท่านเอง น่าจะเข้าใจ"


~~~~
.

... ชายเจ้าของร้านเครื่องหนังกลับมาอีก
มาพร้อมคำบัญชาแห่งเจ้าหญิง
สนธยากาลคลี่คลุมอย่างเศร้าสร้อย
จันทร์ดับ 
หมู่ดาวทั้งปวงก็เร้นแสงราวจะพ่ายเงื้อมเงารังสีของดาวมฤตยูจนหมดสิ้น
มืดมนอนธกาลไปหมดทั้งบ้านน้อยและหัวใจ


*


3.


รองเท้าถูกนำกลับไปแล้ว
รองเท้าที่ตัดตามรูปขนาดเท้าของหญิงคนรัก
รองเท้าคู่สวยที่สุดในเมืองเล็กๆแห่งนี้

ชายอ้วนมอบเงินก้อนโตให้ช่างทำรองเท้า
"อย่าคิดมาก แม่ท่านป่วยเรื้อรังหนักหนา โปรดใช้เงินนี้พาไปรักษาตัว
...และฉันมีเสื้อคลุมสวยงามตัวหนึ่งอยู่ที่ร้าน
ขอมอบให้ท่านเป็นสินน้ำใจ
เพื่อท่านจะได้ผ่านฤดูหนาวแสนเยียบเย็นนี้ไปได้อย่างเป็นสุข"

"นั่นเป็นรองเท้าเพื่อหญิงสาวของฉัน
หญิงสาวผู้เป็นครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณฉัน
ซึ่งพวกท่านไม่อาจเข้าใจ"

... รองเท้าได้ถูกนำกลับไปแล้วพร้อมทั้งหัวใจของเขา

"ลูกรักหายไปไหนมา" แม่เฒ่าผู้ชราถาม
"ฉันไปเช่าเกวียนมา จะพาแม่ไปหาหมอ"
หญิงชราชี้ไปยังเสื้อคลุมตัวหนึ่ง
"คงมีใครมาหาเจ้าตอนที่แม่ยังหลับอยู่แล้วไม่กล้าปลุก
จึงวางเสื้อคลุมไว้บนที่นอนของเจ้า
พร้อมกับดอกไม้
ช่างเป็นเสื้อคลุมที่สวยงามเสียจริง
ใครคนนั้นคงนำเสื้อมามอบให้เจ้าแต่ไม่พบ"

"เจ้าหมูอ้วนสกปรก ! ข้าไม่ต้องการของของเจ้า !!"
ช่างทำรองเท้ามองเสื้อแล้วร้อง
ความโศกเศร้าพลิกกลายเป็นโทสะ
เขากรีดเสื้อเป็นทางยาวด้วยใบมีด
แล้วขยำไปขว้างทิ้งใส่เขรอะโคลนหน้าบ้าน
คล้ายหัวใจเองก็โดนเชือดเช่นกัน

บ่ายจัด ในท่ามฝุ่นควันคละคลุ้ง
ที่คล้ายรอยเกวียนตะกุยทิ้งไว้ด้วยขุ่นมัว
หญิงเย็บผ้านั่งกอดเสื้อคลุมขาดและเปื้อนโคลนไว้แน่นอก
ร่ำไห้
หัวใจแตกสลาย


*

27.3.53

หญิงเย็บผ้ากับชายช่างทำรองเท้า ตอน 1 The sewing maiden and the shoemaker (1)





 

 1
ในห้องขมุกขมัวและหนาวเหน็บ
หญิงเย็บผ้าร้อยด้ายเข้าไปในรูเข็มอย่างยากลำบาก
เธอยกปลายเส้นด้ายขึ้นแตะลิ้น ขมวดปลายให้แหลมๆ
อา ในที่สุด

เธอมุ่งมั่นเย็บเสื้อให้คนรัก เสื้อที่สวยที่สุด ทั้งนุ่มทั้งอบอุ่น เหมาะสมจะอยู่บนร่างของเขา
เธอไม่แน่ใจว่าเสื้อตัวนี้จะออกมาอย่างใจ
ได้แต่บอกตัวเองว่า ทำให้ดีที่สุด
หน้าที่เธอคือเย็บเรื่อยไปจนกว่าจะเสร็จ

ชายช่างทำรองเท้าตัดหนังชามัวร์ตามขนาดเท้าของคนรัก
เขาสนเข็มด้วยด้ายเหนียว
รองเท้าคู่นี้ต้องทนทาน ใช้งานได้นานปี
เขาจะติดพลอยแอมเบอร์สีอำพันลงบนหนังสีเขียวอ่อนอมเทา
มันต้องเป็นรองเท้าคู่สวยที่สุดในเมืองเล็กๆแห่งนี้
ที่สำคัญมันต้องใส่สบาย เกือบไร้น้ำหนัก
เขานึกเห็นภาพเธอเยื้องกรายเต้นรำในวันแต่งงาน
เขาไม่แน่ใจว่าเมื่อทำรองเท้าเสร็จแล้วจะได้อย่างใจเขาไหม
กระนั้น เขาก็ก้มหน้าก้มตาทำมันต่อไปให้ดีที่สุด
หญิงเย็บผ้ามองผ่านหน้าต่างไปยังท้องฟ้า
ก้อนเมฆหม่นดำบดบังแสงตะวันเจิดจ้า
หากลำแสงหนึ่งลอดผ่านก้อนเมฆลงมา
ลำแสงสีอำพันอันชายคนรักเลือกประดับบนรองเท้า
รองเท้าที่เขาหวังนักหนาว่าจะเป็นรองเท้าคู่สวย
เธอมองไปยังลำแสงนั้นแล้วอธิษฐาน
"ลูกต่อพระบิดาเจ้าผู้สถิตอยู่ในสรวงสวรรค์
ลูกขอมอบวันนี้ ชีวิตของลูก ชีวิตของผู้เป็นที่รัก
การงานของลูก และเสื้อที่กำลังเย็บอยู่นี้
ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์
ไม่มีอันตรายใดๆ
มีแต่ความดีงามในพระเจ้า
เพราะเมื่อสิ่งใดอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์แล้ว
ก็เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์
และเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น"
เธอกอดเสื้อตัวนั้นไว้แนบอก
ซบนิ่งอิงแอบอยู่ในรมณียรสแห่งรักลึกล้ำนั้น

*