มือแข็งแรงนั้นเคยจับกระชับแกว่งมีดสั้นเย็นเยือก
มือเดียวกันเคยกุมจอกสุราเยือกเย็นไม่ผิดกัน
ถึงเวลาแล้วที่จักได้รู้จักความอวลอุ่น
ใดเล่าจะอบอุ่นเท่ามือเนียนนุ่มของหญิงคนรัก
เขากุมมือเธอไว้มั่น รับรู้ลึกซึ้งถึงอุ่นอายถ่ายทอดผ่านเกาะกุม
รังสีแผ่กระจายสู่สหาย
"ข้าลิ้มสุรามาทุกชนิดยกเว้นสุราแต่งงาน"
คนฟังเงียบงันไปชั่วขณะจึงเอื้อนเอ่ย
"ข้าเชิญผู้คนมาร่ำสุราทุกชนิด
แต่ยังไม่เคยเชื้อเชิญผู้ใดลิ้มรสสุราแต่งงาน
เพราะแพงนัก
เมื่อชายใดเชิญผู้คนมาดื่มสุราแต่งงาน
เท่ากับเขายอมรับ ว่าเต็มใจที่จะค่อย ๆ จ่ายหนี้บางอย่างไปตลอดชีวิต !
แย่นัก ที่ข้าไม่ปรารถนาทำให้สหายผิดหวัง"
เธอ ... ซุกซบสู่อ้อมอก
~
หญิงในอ้อมแขน
นามเธอหรือจักใช่นามเธอคนนั้น
ผู้เคยสิงสถิตในห้วงสมุทรแห่งความโศกระทมอันเป็นส่วนตัว
บัดนี้ ... ห้วงทุกข์พลันเป็นของเธอผู้ไม่เคยเดินทางมาถึง ...
ณ นิรันดรแห่งเธอเอง
ใครเล่าจักรู้ นิรันดรนั้น ยาวนานเพียงใด แม้แต่เธอ
หากเขาตระหนัก หนึ่งนิรันดรแสนนานได้สิ้นสุดลงแล้ว
~
สหายหัวเราะ ... ไม่ได้หัวเราะเช่นนี้มาเนิ่นนาน
ระลอกคลื่นแห่งความกล้าหาญ มั่นใจ กระเพื่อมในอก
รู้สึกอ่อนวัยลงนัก ฉับพลันเกิดความหวังในมนุษยชาติ
กระทั่งท่อนซุงตายซากกลับมีชีวิต
อำนาจแห่งการหัวเราะยิ่งใหญ่เพียงนี้
สหายไม่เพียงชื่นชมหากรู้คุณ
ไม่ง่ายเลยที่ใครบางคนจะระเบิดหัวเราะที่กล้ำกลืนเก็บไว้เนิ่นนาน
ยิ่งเป็นสิ่งเหลือเชื่อ เมื่อใครสักคนทำให้คนอื่นได้หัวเราะ
โลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งไม่น่าอภิรมย์
ใยไม่ช่วยด้วยการเติมเสียงหัวเราะเล่า
เสียงหัวเราะเช่นเดียวกับน้ำหอม
ไม่เพียงให้ความรื่นรมย์กับตนเท่านั้น
หากยังจรุงใจสร้างสุขให้ผู้คนรอบข้างในโลกของเขาคนนั้น
~
ดอกไม้กระจายกลิ่นหอม
ขณะหนึ่งนิรันดรเพิ่งเดินทางมาถึง
รับรู้ได้ด้วยดวงใจ
โอ นิรันดรนี้จักยาวนานเพียงใด
ใครเล่าจักรู้
การเดินทางจากไปแห่งนิรันดรหนึ่ง
ไม่ผิดการมาถึง เกิดขึ้นในชั่วพริบตา
ถึงเวลานั้น ใจเท่านั้นจักรู้
ถึงกาลสิ้นสุด ...
นิรันดรใดเล่าจักย่างเท้าเข้ามา.
แด่ ซุ่นเสี่ยวอั้ง และ ลี้คิมฮวง แม้ ลิ่มซีอิม สามชีวิตใน "ฤทธิ์มีดสั้น"
คารวะโกวเล้ง มังกรโบราณ มา ณ ที่นี้
.....
มือเดียวกันเคยกุมจอกสุราเยือกเย็นไม่ผิดกัน
ถึงเวลาแล้วที่จักได้รู้จักความอวลอุ่น
ใดเล่าจะอบอุ่นเท่ามือเนียนนุ่มของหญิงคนรัก
เขากุมมือเธอไว้มั่น รับรู้ลึกซึ้งถึงอุ่นอายถ่ายทอดผ่านเกาะกุม
รังสีแผ่กระจายสู่สหาย
"ข้าลิ้มสุรามาทุกชนิดยกเว้นสุราแต่งงาน"
คนฟังเงียบงันไปชั่วขณะจึงเอื้อนเอ่ย
"ข้าเชิญผู้คนมาร่ำสุราทุกชนิด
แต่ยังไม่เคยเชื้อเชิญผู้ใดลิ้มรสสุราแต่งงาน
เพราะแพงนัก
เมื่อชายใดเชิญผู้คนมาดื่มสุราแต่งงาน
เท่ากับเขายอมรับ ว่าเต็มใจที่จะค่อย ๆ จ่ายหนี้บางอย่างไปตลอดชีวิต !
แย่นัก ที่ข้าไม่ปรารถนาทำให้สหายผิดหวัง"
เธอ ... ซุกซบสู่อ้อมอก
~
หญิงในอ้อมแขน
นามเธอหรือจักใช่นามเธอคนนั้น
ผู้เคยสิงสถิตในห้วงสมุทรแห่งความโศกระทมอันเป็นส่วนตัว
บัดนี้ ... ห้วงทุกข์พลันเป็นของเธอผู้ไม่เคยเดินทางมาถึง ...
ณ นิรันดรแห่งเธอเอง
ใครเล่าจักรู้ นิรันดรนั้น ยาวนานเพียงใด แม้แต่เธอ
หากเขาตระหนัก หนึ่งนิรันดรแสนนานได้สิ้นสุดลงแล้ว
~
สหายหัวเราะ ... ไม่ได้หัวเราะเช่นนี้มาเนิ่นนาน
ระลอกคลื่นแห่งความกล้าหาญ มั่นใจ กระเพื่อมในอก
รู้สึกอ่อนวัยลงนัก ฉับพลันเกิดความหวังในมนุษยชาติ
กระทั่งท่อนซุงตายซากกลับมีชีวิต
อำนาจแห่งการหัวเราะยิ่งใหญ่เพียงนี้
สหายไม่เพียงชื่นชมหากรู้คุณ
ไม่ง่ายเลยที่ใครบางคนจะระเบิดหัวเราะที่กล้ำกลืนเก็บไว้เนิ่นนาน
ยิ่งเป็นสิ่งเหลือเชื่อ เมื่อใครสักคนทำให้คนอื่นได้หัวเราะ
โลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งไม่น่าอภิรมย์
ใยไม่ช่วยด้วยการเติมเสียงหัวเราะเล่า
เสียงหัวเราะเช่นเดียวกับน้ำหอม
ไม่เพียงให้ความรื่นรมย์กับตนเท่านั้น
หากยังจรุงใจสร้างสุขให้ผู้คนรอบข้างในโลกของเขาคนนั้น
~
ดอกไม้กระจายกลิ่นหอม
ขณะหนึ่งนิรันดรเพิ่งเดินทางมาถึง
รับรู้ได้ด้วยดวงใจ
โอ นิรันดรนี้จักยาวนานเพียงใด
ใครเล่าจักรู้
การเดินทางจากไปแห่งนิรันดรหนึ่ง
ไม่ผิดการมาถึง เกิดขึ้นในชั่วพริบตา
ถึงเวลานั้น ใจเท่านั้นจักรู้
ถึงกาลสิ้นสุด ...
นิรันดรใดเล่าจักย่างเท้าเข้ามา.
แด่ ซุ่นเสี่ยวอั้ง และ ลี้คิมฮวง แม้ ลิ่มซีอิม สามชีวิตใน "ฤทธิ์มีดสั้น"
คารวะโกวเล้ง มังกรโบราณ มา ณ ที่นี้
.....
"น้ำมิตรเกิดจากการสั่งสม แต่ความรักอุบัติอย่างกระทันหัน ... น้ำมิตรต้องผ่านการทดสอบของกาลเวลา แต่ความรักมักเกิดในชั่วพริบตา ชั่วพริบตานั้นเจิดจ้าจำรัสปานใด สวยสดงดงามเพียงไหน จักคงอยู่เป็นนิรันดร์" (โกวเล้ง)
ตอบลบติดตามเรื่องเล่าและมุมมองส่วนตัวในกระทู้นี้นะคะ
จะนำมาลงเรื่อย ๆ ^^
.....
แรงบันดาลใจมาจากบทกวีบทหนึ่งที่ทำให้ต้องศึกษาและต้องเขียน
ตอบลบคนเขียนมีฝีมือมาก เขียนร่วมกันมาจนนับไม่ถ้วน ...
ตัวหนังสือมันรักกัน
กระนั้นความรู้สึกที่ถ่ายทองสู่บทกวี เป็นของเรา
^^
การสิ้นสุดและการเริ่มต้นแห่งหนึ่งนิรันดร
ตอบลบ..
ชอบมาก
มากๆเลยค่ะ
ขอบคุณใครดีคะ โกวเล้งดีมั้ยนะ?
เป็นว่าขอบคุณทุกตัวหนังสือ
ทุกภาษา ทุกหน้ากระดาษ
ที่ทำให้สารนี้มาอยู่บ้านนี้และอยู่ตรงนี้ค่ะ
^^
จันทร์ตะวัน
นิรันดร์ใดเล่าจักย่างเท้าเข้ามา
ตอบลบเมื่อคนรักของฉันกำจายกลิ่นหอมชื่น
เช่นมวลดอกกุหลาบผลิบานแซมท่ามกลาง
คมหนามแฝงเร้นรอบกาย
ดวงตาหรี่แคบจนปิดสนิท
สูดกลิ่นจินตภาพเดียวที่เพียงพบในความมืดมิด
เธอ, ผู้เป็นคนรักของฉัน
ยังคงงดงามแม้ในยามผลัดใบ.
..ลมหนาวราวมีดคมกริบ ถือพสุธากว้างใหญ่ต่างเขียง เห็นชีวิตทั้งหลายเป็นปลาเป็นเนื้อ หิมะโปรยปรายทั้งแผ่นฟ้าแผ่นดิน ใช้ห้วงเวหาต่างเตาหลอม ละลายทุกสรรพสิ่งให้กลายเป็นสีเงิน ...
ตอบลบหิมะใกล้หยุดตก ลงยังไม่สงบ รถม้าคันหนึ่งแล่นมาจากทิศอุดร ล้อรถหมุนวนบดทำลายหิมะน้ำแข็งแตกกระจาย แต่ไม่อาจบดทำลายความอ้างว้างวังเวงของแผ่นฟ้าแผ่นดิน
... ภายในรถแม้อบอุ่นยิ่ง สุขสบายยิ่งแต่การเดินทางครั้งนี้ยาวไกลเกินไป เงียบเหงาเกินไป เขารู้สึกเหนื่อยหน่าย มิหนำบังเกิดความรังเกียจ ในชีวิตของเขาเกลียดชังความเงียบเหงาที่สุด แต่กลับอยู่กับความเงียบเหงาเป็นนิจสิน
... ชีวิตคนความจริงเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ไม่ว่าผู้ใด ล้วนอับจนปัญญา
... ขวดสุราว่างเปล่าแล้ว เขาค่อย ๆ ล้วงมีดเล็ก ๆ เล่มหนึ่ง เริ่มแกะสลักท่อนไม้ท่อนหนึ่งเป็นรูปคน คมมีดบางและคมกริบ นิ้วมือของเขาเรียวยาวและมีพลัง
ภายใต้ฝีมือแกะสลักอันชำนาญ เกิดรูปเหมือนของหญิงนางหนึ่ง ใบหน้าและลายเส้นอ่อนช้อยและงดงาม คล้ายมีชีวิตก็มิปาน
เขามิเพียงให้ลายเส้นอันรัดรึงใจ หากยังให้ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณแด่'เธอ' ด้วยฃีวิตและจิตวิญญาณของเขา ได้มลายหายไปอย่างเงียบงันใต้คมมีดนั้น ...
จาก "ฤทธิ์มีดสั้น" ของ โกวเล้ง
"เขา" คือ ลี้กิมฮวง
"เธอ" คือ "ลิ่มซีอิม"
... บทกวีของติสต์ทำให้ใจอ่อนโยน
เฃ่นเดียวกับเมื่ออ่านถ้อยคำของมังกรโบราณ
มีผู้คัดลอกมาให้อ่าน และพิมพ์เพิ่มจากหนังสือที่เสาะหา
หวังแบ่งปัน ก่อเกิดการสรรค์สร้าง เป็นแรงบันดาลใจ
กับตัวเองและเพื่อนเขียนคนอื่น ๆ ค่ะ ...
ขอบคุณติสต์มากนะคะ จะเขียนต่ออย่างแน่นอน
หวังว่าจันทร์จะได้อ่าน และอาจเขียนร่วมนะคะ
... เชื้อเชิญคนอยากเขียนทุกคนค่ะ ...
ขอบคุณผู้แนะนำหนังสือชุดนี้
และผู้ให้แรงบันดาลใจให้เกิดบทกวี
...
ปรบมือจริงๆค่ะ
ตอบลบขอบคุณพี่ลินที่นำข้อความดีๆเหล่านี้มาไว้ที่บ้านแห่งนี้
สอนอะไรหลายอย่าง ทั้งในมิติงานเขียนและในมิติชีวิต
^^
----------
สวัสดีติสต์ด้วยนะ
เขียนดีค่ะ
^^
จันทร์ตะวัน
คมมีดแกะสลัก
ตอบลบหญิงสาวในท่อนไม้
รอยยิ้มของเธอคือความเคยคุ้นของธรรมชาติ
ใบหน้าของเธอคือความงดงาม
ยามกระแสธารเริ่มไหลทวนสู่ที่สูง
ร่างของเธอสงบนิ่ง
ท่ามกลางหินผา ป่าเขา
เขา,
ผู้ไม่เคยขยับ นอกจากเสียงหัวใจที่ถวิลหา
ความเป็นพรหมจรรย์ของหิมะ
เมื่อทั้งป่าพลันขาวโพลนอย่างมหัศจรรย์
และมีดของเขาเลือนหายไปช้าๆ
เช่นเดียวกับ ขอนไม้
ความเดียวดาย
และรอยยิ้มบนใบหน้า
เขาและเธอ
สลบไสลอยู่บน..
... เขาและเธอสลบไสลอยู่บน ... ติสต์เขียน ..
ตอบลบทิ้งการบ้านไว้ ... ใช่ว่าไม่ไหว
ฉันถามทำไม ... ไยมาท้าทาย
เธอจุดจุดจุด .... ไม่สุดความหมาย
อยู่อยู่ส่งพาย ... ขวนขวายนำเรือ
นั่งนับจับยาม .... ตอบความยากเหลือ
ขอบคุณจุนเจือ ... เหลือบ่ากว่าแรง
โกวเล้งไอ้ย้า .... บอกว่าแอบแฝง
คงให้แจกแจง ... เคลือบแคลงจงใจ
คนหนึ่งไม่ตอบ ... สอบถามไม่ได้
เธอจงช่วยไป .... ได้เข้าใจกัน
ยินดียินดี ....... ไม่มีเหหัน
คว้าปากกาพลัน ... ยินดียินดี
^^
...
น้องจันทร์ พี่จัสดีใจที่มาอ่านส่วนหนึ่งของงานโกวเล้งนะคะ
ตอบลบพี่เองก็เพิ่งมารู้จักคำและความของเขาเมื่อกลางปีที่แล้วนี่เอง
ถ้าน้องจันทร์สนใจ พี่จัสจะมาเล่าต่อ เพราะเคยเสวนาไว้ในบอร์ดกวี
เป็นที่อิ่มเอม
รังสีอำมหิตของบุรุษฉายฉาบไปทั่วงานของเขา
แต่กระนั้น โกวเล้งยังใจกว้างแจกแจงลักษณะที่เป็นคุณและโทษของบุคคลไว้ชัดเจน
รวมทั้งสตรีที่มีหลายแบบ อย่างลิ่มซีอิม ก็เป็นสตรีที่ทนทาน ที่เชื่อในความอดทน และทำตามชายที่รักอย่างไม่ลืมหูลืมตา เราย่อมติดตามจุดจบของเธอในหนังสือ เพราะน่าสนใจ
ซุ่นเสี่ยวอั้งเธอมีดี มีความอดทน แต่เธอใช้ไปอีกทางที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงกับลิ่มซีอิมค่ะ เธอคนนี้สุดท้ายคือหญิงที่แต่งงานกับลี้กิมฮวง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าชีวิตเธอหลังจากนั้นจะเป็นยังไง เพราะจบลงตรงนั้นค่ะ
หนังสือมีสี่เล่ม ยังไม่ได้จับอ่านอย่างแท้จริงเลย ดีที่รู้ว่ามีหนังสือที่น่าสนใจรออยู่
แต่คำคมเต็มแน่นเลยค่ะ คำคมที่ดี ไม่ว่าแปลเป็นภาษาอะไรก็ดีทั้งนั้นเลย ... อ่านเจอคำภาษาอังกฤษทำเอาสะอึกหลายครั้ง เช่นที่นำมาลงไว้ข้างบนค่ะ
จันทร์ไม่ถามเหรอคะว่า เจ้าของบทกวีที่พี่จัสไปเขียนร่วมตั้งชื่อจีนให้พี่จัสว่าอะไร ? อยากบอกจะแย่ ...
...
พี่จัสคะ เจ้าของบทกวีที่พี่จัสไปเขียนร่วมตั้งชื่อจีนให้พี่จัสว่าอะไรคะ
ตอบลบอยากรู้ค่ะ
^^
_______________
รออ่านงานต่อกวีของพี่จัสกับติสต์
ติสต์ฮ่าอ่ะ
มีจุดๆ ให้ต่อด้วยอ่ะ
ฮ่าๆ
:)
... ขอบคุณที่ถามค่ะน้องจันทร์ ...
ตอบลบรออยู่ตั้งนาน ..
ชื่อที่ได้มาคือ ดรุณีเหมยหิมะ ค่ะ
ชื่อจีน เหมยเซียวเสาะโกวเนี้ย
เซียว แล้วยัง เสาะ อีกแน่ะ
แต่ความจริงเป็นอย่างนั้น
ดีใจที่ เซียว และ เสาะ
บอบบางระวังแตก ^^
...
ความจริงของเขา หาใช่ของโลก
ตอบลบเขาและเธอสลบไสลอยู่บนผืนหญ้าหนา
ภายใต้หลังคาใบไม้และดอกไม้เบ่งบาน
ฟ้าอมม่วงแสนหวานสั่นไหว...กระซิบกระซาบ
ขณะความเงียบ เงี่ยฟังเสียงเพลงสายลม
หากนิทรานี้ยาวนานนัก หรือรักจักยาวนาน
เพียงในฝัน
ดังนั้น ดวงใจเธอพลันตื่นฟื้นแม้เปลือกตามิเผยอเปิด
ยินเสียงเริงระบำส่ายสะบัดของภูติพราย
เธอจึงปิดเปลือกตาสนิท
พิษร้ายจากหนึ่งความจริงของโลก ปะทุ
ข้างนอกนั้นคือป่าหนาม
ข่มขวัญภยันตรายไม่อาจคาดเดา
ไม่ผิดคนตาบอด เธอไม่อาจมอง
แต่เธอเห็น
เขาลืมตาตื่น มองเธอผู้เขาเฝ้าสลักเสลาอยู่นานปี
แตะต้องได้เพียงรูปเหมือนทำจากท่อนไม้ใต้คมมีด
จากร้านเหล้าริมถนนสายเล็กสายนั้น
คืนแล้วคืนเล่า เขาเฝ้าเงยหน้ามองรูปเงาเธอ
วูบไหวผ่านม่านหน้าต่าง
ระวังยาม ไม่ให้อันตรายคุกคามกรายกล้ำ
เวลานี้เธอปลอดภัยอยู่ในรวงรังอันสมควร
เขาทอดสายตามองเธอผู้เป็นที่รัก ผู้มิจักเป็นเจ้าของ
ไม่ขยับ...เพียงจับจ้อง
ความรักที่มีต่อเธอเปรียบประหนึ่งฟองไข่ไก่
เขาจะอยู่อย่างไร หากทำหล่นแตกกระจาย
ความสุข มาเยี่ยมเยือนผ่านความเดียวดาย
หลังแกะสลักท่อนไม้ไร้ชีวิตเป็นรูปเหมือนของเธอ
เท่านั้น เพียงเท่านั้น ...
ปรายตามองไกล
แววตาว่างเปล่าจับอยู่ที่ทีท่าเริงร่ายของภูติพราย
... เคยคุ้น
เขาลุกขึ้นก้าวเดินตรงไป ...
โดย เหมยเซียวเสาะโกวเนี้ย (ดรุณีเหมยหิมะ)^^
...
..
.
มาอ่านแล้ววว
ตอบลบชอบจัง ไข่ไก่ :))
ว้าวววว ... ดีใจจังที่ติสต์ชอบ ไข่ไก่ .
ตอบลบความรักของเขาเปรียบดังไข่ไก่
หากแตะต้องทำตกหล่นแตกกระจาย
แล้วเขาจะอยู่อย่างไร ?
~
ต่อกวีกันซาหนุกจังค่ะ
ตอบลบคนอ่านก็ยิ้มเลยสิคะงานนี้
ชอบ
^^
จันทร์คะ ...
ตอบลบพี่จัสรอเขียนต่อบทกวี เธอ ฉัน และบ้าน กับจันทร์อยู่
แต่ก็รู้ว่ายุ่ง เขียนบทกวีต่อกันแล้วสนุก
อย่างใน หนึ่งนิรันดร ก็ต้องคิดเยอะ ในแต่ละบท
เขียนกับติสต์ ก็ไม่รู้ว่าเธอจะพาไปในทิศทางใด
เลยยิ่งสนุกใหญ่
ที่สำคัญ บทกวีมีเรื่องเล่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ชอบมากเลยค่ะ
อยากให้มาทุกวัน แต่ก็เกรงใจ รู้ว่าจันทร์ยุ่ง
...
น้ำมิตรเกิดจากการสั่งสม แต่ความรักอุบัติอย่างกระทันหัน ... น้ำมิตรต้องผ่านการทดสอบของกาลเวลา แต่ความรักมักเกิดในชั่วพริบตา ชั่วพริบตานั้นเจิดจ้าจำรัสปานใด สวยสดงดงามเพียงไหน จักคงอยู่เป็นนิรันดร์(โกวเล้ง)
ตอบลบประทับใจ แรงบันดาลใจ และ บทกวีที่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจนี้
ไม่เคยอ่านงานโกวเล้ง แต่จะอ่าน
เห็นว่าอยู่ไหน
เป็นชุด
จะไหวมั้ยเนี่ย
ฮ่าๆๆๆๆ
มุมมองมังกรเดียวดาย โกวเล้ง
ตอบลบจัสก็เห็นด้วย เราไม่ใช่คำว่าทำไมกับความรัก
เมื่อคิดหารเหตุผล มักจะกลายเป็นอย่างอื่น
ดีใจที่ศศิชอบ
"น้ำมิตรเกิดจากการสั่งสม แต่ความรักอุบัติอย่างกระทันหัน ... น้ำมิตรต้องผ่านการทดสอบของกาลเวลา แต่ความรักมักเกิดในชั่วพริบตา ชั่วพริบตานั้นเจิดจ้าจำรัสปานใด สวยสดงดงามเพียงไหน จักคงอยู่เป็นนิรันดร์"(โกวเล้ง)
จัสเขียน...
ตอบลบเราไม่ใช้คำว่าทำไมกับความรัก
เมื่อคิดหาเหตุผล มักจะกลายเป็นอย่างอื่น
..ที่ไม่ใช่ความรัก
^^