Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


26.11.53

ขอบคุณชีวิต (ผีเสื้อบินเข้ามาในห้อง) Gracias a la Vida




1.

เธอไม่อาจพูด เธอไม่อาจเงียบ
ผีเสื้อบินเข้ามาในห้อง ระหว่างม่านมู่ลี่ไม้ไผ่กับบานหน้าต่างกระจก

ผีเสื้อตัวนี้เลื่อมลายน้ำเงินฟ้าครามงามแปลกตา

คลับคล้ายคลับคลาคลื่นทะเลซัดเข้าสู่ฝั่งในคืนแรม

ขอบปีกแตะแต้มฟองคลื่นขาว

เพื่อนชาวญี่ปุ่นเคยบอกว่า"ผีเสื้อเป็นตัวแทนแห่งจิตวิญญาณ

เมื่อผีเสื้อบินเข้ามาอยู่ระหว่างหน้าต่างและม่านไม้ไผ่

คนที่รักที่สุดกำลังเดินทางมา...
ไม่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ กำลังจะตาย หรือตายจากไปแล้ว

จัดเตรียมบ้านเรือนไว้ให้พร้อม"

ช่อดอกไม้ใบไม้สดใหม่เพิ่งตัดจากต้นควรเบิกบานอยู่ในแจกัน

น้ำหวานคั้นจากผลไม้ป่า ก็น่าจะเต็มเปี่ยมอยู่ในเหยือกแก้ว

เวลาจะติดปีกบินไปอย่างรวดเร็ว

ไม่ช้า เสียงกระดิ่งหน้าประตูรั้วจะดังขึ้น

คนที่รักที่สุดกำลังจะมา !

หากคำเอ่ยอ้างของเพื่อนเป็นจริง

เธอรู้ดีว่าใคร !


"โอ ที่รักของฉันจ้ะ" เธอพูดกับแม่บ้าน

“ฉันจะออกไปเด็ดดอกไม้ป่ามาเต็มตระกร้า เก็บลูกไม้ป่าหอมหวาน

ทั้งราสเบอร์รี่ ดริวเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ทั้งสีแดงสีดำ มาใส่ไว้ในโถแก้ว

ลงไปเอาไวน์แดงจากห้องใต้ดินมาเตรียมไว้ให้พร้อม

เย็นนี้เราจะทานเนื้อทอด ราดด้วยซ๊อสข้นสีน้ำตาล

กับมันฝรั่งหัวเล็กต้นฤดู”

2.

เธอเดินเร็วผ่านสวนน้อย ข้างนอก ดอกแอ๊ปเปิ้ลส่งกลิ่นหอมหวานชื่นใจ
เสียงกีต้าร์หวานแว่วมาจากบ้านสีขาวหลังโน๊น
“กราเซียส อา ลา วีดา” โดยเมอร์ซีเดส โซซ่า รินล้นเติมเต็มจิตวิญญาณ

ชายโดดเดี่ยวผู้ดำดิ่งด้วยกตัญญูรู้คุณ

ขอบคุณชีวิต ขอบคุณ และ ขอบคุณ

ไม่ว่าชีวิตจักเป็นเช่นไร


ฤดูใบไม้ผลิเริ่มขึ้นเมื่อเกือบสองเดือนมาแล้ว ผลไม้ป่ากำลังสุกงอม

มวลดอกไม้เบ่งบานหอมอวลอยู่บริเวณชายป่าหว่างต้นหญ้าเขียวขจี

โอ กราเซียส อา ลา วีดา ขอบคุณชีวิต


3.

ดอกไม้ป่าสีเหลือง สีส้มและสีฟ้าม่วงแซมด้วยใบสีเขียวสดชื่นอยู่ในแจกันดินเผาสีทราย

เหยือกแก้วใสใส่น้ำสีแดงคั้นจากลูกราสเบอร์รี่

ลูกพลัมป่าและลูกไม้เล็กสีแดงสีดำ ผิวสดเต่งตึงดุจอัญมณีในตะกร้า

ทุกสิ่งที่จัดเตรียมเปล่งประกายสดใสในริ้วสายประกายทองที่ส่องผ่านหน้าต่างกระจกเข้ามา

วันในฤดูใบไม้ผลิยาวขึ้นเสมอ กลางคืนมาเยือนในยามดึกและมีอายุสั้น

เธอนั่งกอดเข่าอยู่บนเบาะนุ่มที่ขอบหน้าต่างหนา สายตาทอดมองสู่ประตูรั้วที่เปิดกว้าง

ปรารถนาเห็นเขาก้าวเดินอย่างสง่างามมาตามทางยาวสู่ตัวบ้าน

ผีเสื้อยังอยู่ที่นั่น คล้ายมันเองก็รอการกลับมาของเขาอยู่เช่นกัน


4.

ร่างที่เดินโขยกเขยกใกล้เข้ามาทำให้นึกถึงต้นหลิวแล้งน้ำเนิ่นนาน
เหมือนเสื้อสักหลาดเก่าขาดซอมซ่อ

รอถูกตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไว้ใช้สอยขัดเครื่องทองเหลือง

เหมือน
....เหมือนขี้ผึ้งละลายจากแท่งเทียนบนเชิงช่อ

เหมือนขี้เถ้าในเตาผิงหลังไฟมอด

โอ...ความฝันของชายเดินทาง

เรือของเขาอับปางลงเสียแล้ว


เธอไม่อาจพูด

เธอไม่อาจเงียบ

"ขอบคุณชีวิต ไม่ว่าจักเป็นเช่นไร"
ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ

ที่เขายังไม่ตาย.




*

*แรงบันดาลใจจากคำว่า"Gracias a la Vida" ในเพลงชื่อเดียวกัน
ร้องโดย Mercedes Sosa
เนื้อร้องและทำนองโดย Violetta Parra
ที่นำมาวางไว้ในบล้อก
 Follow link below for Spanish Lyrics with English & Thai translations.
เนื้อเพลงภาษาสเปน คำแปลภาษาอังกฤษและไทยอยู่ที่ลิงค์นี้ค่ะ
http://jasminemoment.blogspot.com/2011/12/gracias-la-vida-thank-you-to-live.html

ต่อไปจะนำเนื้อร้องทั้งภาษาสเปน อังกฤษ และที่แปลเป็นไทยโดยจัสมินมาลงนะคะ ^^

15 ความคิดเห็น:

  1. บทกวีบทนี้ทำให้ย้อนนึกถึง รางวัลของเดือนที่ลง ได้หนังสือมาอ่าน "สเตฟเฟนโวล์ฟ" ถ้าจำไม่ผิด เพราะได้มาหลายเล่ม ^^

    นึกถึงบางคำวิจารณ์ คนหนึ่งบอกว่า "อยากบอกว่าชอบมากครับ จัสมิน เหมือนอ่านทั้งบทกวีและเรื่องสั้นชั้นดี
    ผมคิดว่า ...
    จะเป็น part แรก และมีต่อ ... ก็น่าสนใจ
    พอ ๆ กับ จบลงแค่นี้ ซึ่ง ( สำหรับผม ) ก็ชอบแล้ว เพราะคิดต่อได้มากมาย"

    อีกคนว่า "มาอ่านครับผม
    เพราะพริ้ง งดงาม มีพลัง ภาพสวย น่าทาน"

    อีกคนว่า "ลักษณาการประดุจดังเรื่องสั้น" & "บนสวรรค์ชั้นอักษรา เรื่องสั้นและบทกวีคือสิ่งเดียวกัน"

    อีกคน "ดอกรักผลิบานแล้ว ด้านทิศตะวันตก
    ฉันจะรอพรุ่งนี้ด้านทิศตะวันออก
    เธอหละ..
    ชอบงานคุณ จัสมิน"

    อีกคน "ผมชอบงานชิ้นนี้มาก และผมคลั่งไคล้เสียง Mercedes Zoza นัก ร้องชาวชิลีคนนี้มากครับ ขอบคุณที่นำบรรยากาศป่าละเมาะ ความเชื่อเรื่องผีเสื้อของค นญี่ปุ่น พ่อที่กลับมาหลังการเดินทางที่ล้มเหลว ลูกสาวที่น่ารัก และเพลงของเมอซีเดส เพลงนี้มาประกอบกันเป็น - ขอบคุณชีวิต ไม่ว่าจักเป็นเช่นไร - กราเซียส อา ลา วีดา!

    อีกคน "อา ขอบคุณชีวิต ไม่ว่าจักเป็นเช่นไร
    ข้าพเจ้าก็ขอน้อมรับบทเดินทางนี้ด้วยความยอมยินและยินดี
    Donna Donna Donna Donna ..."& " ตอนนี้พอผมอ่านงานของคุณจัสมินผมรู้สึกเหมือนมีเสียงของคุณจัสม ินอ่านให้ฟังอยู่ด้วยเลยครับ

    คุณจัสมินทั้งเขียนดีและอ่านบทกวีได้ดีมากเลยครับ มีทั้งอารมณ์และพลัง
    เธอไม่อาจพูด เธอไม่อาจเงียบ ...
    แต่เธอสามารถบอกเล่าความรู้สึกออกมาให้สัมผัสและรับรู้ได้จากคว ามทรงจำและความจริงใจ"

    อีกคน"มาร่วมดีใจ นับไปนับมา พี่มาเขียนร่วม 1 ครั้ง
    เป็นไปได้ไงเนี่ย สงสัยช่วงนั้น ขาลง...
    ก็ขอให้รักษาคุณภาพของกระทู้... ไว้ด้วยนะครับ ทุกๆคน"

    เก็บมาอ่านเอง อ่านแล้วยิ้ม ^^
    ท่านพี่เห็นเล่นกันมาก เป็นห่วงกลัวกระทู้เสีย

    กวีหนุ่มได้รับรางวัลบทกวียอดเยี่ยมแห่งปี "บุหงายาวี" ก็มาเขียนร่วม จะเอามาลงเก็บไว้

    ในกระทู้จะมีคนซนอยู่สอง คือ นะกะ !
    อีกคนไม่รู้ว่าใคร ^^
    จำไม่ได้

    ...

    ตอบลบ
  2. เอาบทกวีของ Pablo Neruda มาโปรยไว้ก่อน
    จะตามมาเขียนวันหลังครับ :)

    "Cuerpo mas puro un ola,
    sal que lava la linea,
    y el ave lucida
    volando sin raices."


    เรือนกายบริสุทธิ์กว่าเกลียวคลื่น,
    เกลือชะล้างห้วงน้ำชายฝั่ง
    และวิหคจรัสแสง
    โบยบินโดยไร้รากหยั่งดิน.

    ตอบลบ
  3. ...ได้รับข้อมูลเกี่ยวข้องกับเพลงนี้จากมนุษย์แปลกหน้า
    ที่เป็นประโยชน์มาก ได้แก้ไขทำหมายเหตุไว้ในกระทู้แล้วนะคะ

    สองวันก่อนหน้านี้ พบว่า ไวโอเลต้าผู้ประพันธ์เพลง ขอบคุณชีวิต
    ได้ฆ่าตัวตายสาเหตุเพราะผิดหว้งเรื่องความรัก
    ทำให้รู้สึกหดหู่ อยากถามเธอว่า คุณเขียนเพลงอย่างนี้แล้ว คุณทำทำไม
    บอกติสต์ ติสต์ค้นข้อมูลมาได้ดังนี้ค่ะ

    "Violeta Parra committed suicide with a gunshot to her head in 1967,
    because of her depression over the break up of her relationship with Gilbert Favre."

    เช้านี้ตื่นมานอนคิดประเด็นนี้ อืม แต่เพลงของเธอก็ได้ให้มุมมองในทางบวก
    เป็นเพลงประจำชีวิตของ Mercedes Sosa ผู้เป็นที่ชื่นชอบไปทั่วโลก
    ติสต์บอกว่า หลังเกิดแผ่นดืนไหว ก็ใช้เพลงนี้นำเงินมาช่วยเหลือชิลี
    ก็ขอขอบคุณติสต์ไว้ ณ ที่นี้ค่ะ

    เนื้อเพลงทั้งสเปนิช อังกฤษ และที่แปลไทยขออีกวันสองวันนะคะ
    ที่แปลไว้ยังดีได้กว่านี้ค่ะ ^^

    จัสมิน


    ~

    ตอบลบ
  4. ๐ ศศิชอบบทกวีบทนี้นะจัส
    ๐ แต่คนอื่นชมยาวๆแล้ว
    ๐เลยบอกสั้นว่าชอบบบบมากกกกก

    รักเพื่อนผู้ทิ้งเราไปนอนซะแล้ว
    ศศิก้อเหนื่อยเหมือนกันเนอะจ้ะ

    ตอบลบ
  5. Gracias A La Vida by Violeta Parra

    Gracias a la vida, que me ha dado tanto.
    Me dió dos luceros, que cuando los abro.
    Perfecto distingo lo negro del blancoen
    el alto cielo su fondo estrellado,
    en las multitudes
    el hombre que yo amo.
    Gracias a la vida,
    que me ha dado tanto.

    Me ha dado el oído que en todo su anchoIt
    Graba noche y día grillos y canarios
    Y la voz tan tierna de mi bien amado

    Gracias a la vida, que me ha dado tanto.
    Me ha dado el sonido y el abecedario.
    Con él las palabras que pienso y declaro,
    “Madre,” “amigo,”hermano,” y luz alumbrando
    La ruta del alma del que estoy amando.

    Gracias a la vida, que me ha dado tanto.
    Me ha dado la marcha de mis pies cansados.
    Con ellos anduve ciudades y charcos,
    Valles y desiertos, montañas y llanos,
    Y la casa tuya, tu calle y tu patio.


    Gracias a la vida, que me ha dado tanto.
    Me dió el corazón, que agita su marco.
    Cuando miro el fruto del cerebro humano,
    Cuando miro al bueno tan lejos del malo.
    Cuando miro el fondo de tus ojos claros.

    Gracias a la vida, que me ha dado tanto.
    Me ha dado la risa, me ha dado el llanto.
    Así yo distingo dicha de quebranto,
    Los dos materiales que forman mi canto,
    Y el canto de ustedes que es el mismo canto.
    Y el canto de todos que es mi propio canto.


    translated by William Morin

    Thank you to life, which has given me so much.
    It gave me two beams of light, that when opened
    Can perfectly distinguish black from white
    And in the sky above, her starry backdrop,
    And from within the multitude 
    The one that I love.

    Thank you to life, which has given me so much.
    gave me an ear that, in all of its width
    Records— night and day—crickets and canaries,
    Martillos, turbinas, ladrillos, chubascos
    Hammers and turbines and bricks and storms,
    And the tender voice of my beloved

    Thank you to life, which has given me so much.
    It gave me sound and the alphabet.
    With them the words that I think and declare:
    “Mother,” “Friend,” “Brother” and the light shining.
    The route of the soul from which comes love.

    Thank you to life, which has given me so much.
    It gave me the ability to walk with my tired feet.
    With them I have traversed cities and puddles
    Valleys and deserts, mountains and plains.
    And your house, your street and your patio.

    Thank you to life, which has given me so much.
    It gave me a heart, that causes my frame to shudder,
    When I see the fruit of the human brain,
    When I see good so far from bad,
    When I see within the clarity of your eyes…


    Thank you to life, which has given me so much.
    It gave me laughter and it gave me longing.
    With them I distinguish happiness and pain
    The two materials from which my songs are formed,
    And your song, as well, which is the same song.
    And everyone’s song, which is my very song.

    ตอบลบ
  6. ช่างเปราะบางเหลือเกิน,
    ราวเปลือกหอยกาบแก้วปะการังค้างเติ่งเวิ้งว้างกลางห้วงสมุทร

    ระลอกคลื่นใต้น้ำ
    ร่างเราลอยคออยู่ที่นั่น
    และที่นั่น, และที่นั่น, ..

    แม้จะว่ายทวนกระแสธารสักหมื่นไมล์
    พันกิโล สี่โคตรมหาสมุทร
    ร้อยพันทะเลสาบ หรือแสนเวิ้งน้ำ
    ก้าวข้ามเกลียวคลื่นบิ้วตัวเป็นริ้วริ้วถะโถมใส่
    แค่เพียงลมหวิวก็ปลิวปลาย; ดิ่งจมสู่ก้มบึ้ง
    ทั้งหัวใจเรานั่น
    ทั้งวิญญาณเรานั่น
    โดยปราศจากการฉุดรั้ง
    และหลีกเร้นใดใด ..

    ก้อนหินถามว่า;
    ดาวประกายพรึกก็ถามว่า;
    เรือเดินสมุทรอับปางชั่วกัปกัลป์ถามว่า;
    และเสื้อชูชีพหลวมหลวมตัวหนึ่ง
    สิ่งใดหนอสิ่งใด
    เปราะบางเสียเหลือเกินสิ่งใด.

    ตอบลบ
  7. เกลียวคลื่นบิ้วตัว ........บิ้ว?

    55555

    จงใจหรือสะกดผิด อือ

    ไฉนจัสไม่เห็น


    ^^

    ตอบลบ
  8. เวลาอ่านงานดีๆแล้วจันจะทึ่งค่ะ
    ทึ่งว่า คนเขียนเขียนได้อย่างไร
    ทึ่งว่ามนุษย์ อักษร สามารถสร้างงานศิลปะงดงามได้ขนาดนี้เชียวหรือ

    พี่จัสเขียนได้ยังไงคะ ?

    ตอบลบ
  9. จันทร์ถามว่า เขียนได้ยังไง?
    พี่จัสตัดสินใจตอบแบบยาวนะคะ..

    เลียวนาร์โด ดาวินชี่ว่าไว้
    "ความเรียบง่ายคือที่สุดของความช่ำชอง"
    และ "ความเป็นธรรมชาติคือที่สุดของความช่ำชองนั้น"

    พี่จัสไม่ใช่นักเขียนที่ช่ำชอง
    แต่พี่จัสรักธรรมชาติ ความเรียบง่ายจึงอาจเข้ามาอยู่ในงาน
    เมื่อธรรมชาติอยู่ด้วย จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ดูเหมือน คนเขียนช่ำชอง
    นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่ง

    ที่อาจเป็นเหตุผลต่อมา คือชีวิต
    ชีวิตเป็นสัจธรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
    และชีวิตก็เป็ความเรียบง่ายที่ไม่เรียบง่ายอย่างหนึ่ง
    สิ่งที่จับมาเขียนก็จากสุขทุกข์ ประสบการณ์
    สิ่งที่พบเจอและเห็น สิ่งที่ฟังและได้ยิน
    สิ่งที่เผชิญและรู้สึก

    ไม่มีบทกวีบทใดของพี่จัสที่ไม่มีความจริง
    และไม่มีบทใดที่ขาดจินตนาการ
    เหมือนเราติดปีกให้ความคิดและความรู้สึก
    และมีท้องฟ้ากว้าง ๆ ให้บิน
    บางครั้งเรานำความงามที่จดจำมาเล่า
    บางครั้งในทางตรงข้าม

    อาจเป็นความจริงอย่างน้อยสองข้อที่ทำให้งานออกมาเป็นงานของ จัสมิน

    ที่ใช้คำว่า'อาจ'ก็เพราะพี่จัสไม่พยายามอธิบายงานเขียนตนสักเท่าไร
    มีแต่ 'พอใจ' หรือไม่เท่านั้นค่ะ

    ธราามชาติกับสัจธรรม คือความสามัญเรียบง่ายผ่านความช่ำชอง
    ส่วนความจริงและจินตนาการ คือเสน่ห์ของงานเขียนที่พี่จัสโปรดปราน

    เงียบ ง่าย และ ลึก ค่ะ ^^

    ตอบลบ
  10. ~ต่อจากข้างบนค่ะ~
    เมื่องานที่เราโปรดปรานเป็นอย่างนั้น..
    งานก็เลยออกมาในแนวคล้ายคลึง

    ส่วนงานแปลกใหม่ หรือ การตลบกลับ
    พี่จัสก็ชอบ แบบ ตื่นใจ ค่ะ

    งาน "ขอบคุณชีวิต ไม่ว่าเป็นเช่นไร"
    รับอิทธิพลมาเต็ม ๆ จากเพลง "กราเซียส อา ลา วีดา"
    ที่ฝังรอยจารึกไว้ในใจโดยรู้ตัวค่ะ
    เราจึงมองชีวิตอย่างนี้

    การเลือกฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนัง มีอิทธิพลมากค่ะ
    โดยเฉพาะที่ที่เราได้พบเยิห็นได้ยินได้ฟังในวัยเด็ก

    ส่วนคนที่เปิดเพลงดัง ๆ คือพ่อค่ะ พ่อไม่โดดเดี่ยวเหมือนในบทกวี
    ฉากในบทกวีก็มาจากท้องทุ่งและป่าละเมาะในเมืองหนาวค่ะ
    บ้านก็ใช่

    ความจริง และ จินตนาการ

    แต่แรกที่เขียนไว้ คนที่กลับมาคือ 'พ่อ' ของหญิงสาวค่ะ

    ^^

    ตอบลบ
  11. ดีจังเลยที่พี่จัสเขียนเล่าอย่างนี้
    ชอบมากๆ
    ขอบคุณมากๆค่ะ

    "ธรรมชาติกับสัจธรรม คือความสามัญเรียบง่ายผ่านความช่ำชอง
    ส่วนความจริงและจินตนาการ คือเสน่ห์ของงานเขียนที่พี่จัสโปรดปราน

    เงียบ ง่าย และ ลึก "จัสมิน

    ...

    เป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ
    ความไม่ธรรมดาในความสามัญ เป็นความพิเศษ
    บทกวีของพี่จัสมีเสน่ห์และความพอดี
    ความพอดีนี่สำคัญมาก
    เมื่อคนอ่านเกิดความพอดีที่ตรงกัน ก็เกิดคนเขียนในดวงใจพลัน

    เขียนต่อไปนะคะพี่จัส
    ^^

    ตอบลบ
  12. ดีใจที่เจอน้องจันทร์ คนอ่านที่เกิดความพอดีที่ตรงกันค่ะ

    ดีใจ

    เขียนต่อไปค่ะจันทร์

    :D

    ตอบลบ
  13. ขอบคุณชีวิต จากเพลง Gracias a la Vida โดย Mercedes Sosa แปลโดย จัสมิน

    ขอบคุณชีวิตที่ให้มามากมาย
    ขอบคุณดวงตาทั้งสอง ซึ่งเพียงลืมตามอง
    แยกขาวจากดำชัดเจน
    สวรรค์ ฉากหลังระยิบระยับประดับดาว
    ท่ามกลางผู้คนคณานับ

    ... ฉันได้เห็นเธอ ผู้เป็นที่รัก

    ขอบคุณชีวิตที่ให้มามากมาย
    ฉันรู้จักเสียงต่าง ๆ ฉันฟัง และได้ยิน
    จดจำคืนวัน เสียงจิ้งหรีด นกขมิ้น
    เสียงฆ้อน กังหันลม หมาเห่า พายุ
    และเสียงแสนอ่อนโยนของเธอ ผู้เป็นที่รัก

    ขอบคุณชีวิตที่ให้มามากมาย
    เสียงและตัวอักษร
    ถ้อยคำเพื่อนึกคิดกู่ก้อง ร้องประกาศ
    แม่ เพื่อน พี่น้อง แสงสว่างวาบ

    รากเหง้าจิตวิญญาณ ต้นกำเนิดก่อเกิดรัก


    ขอบคุณชีวิตที่ให้มามากมาย
    เท้าอ่อนล้าของฉันยังก้าวย่าง
    ผ่านหลายเมือง หลายหลุมบ่อ
    ชายหาด ทะเลทราย ภูเขาและที่ราบ
    สู่บ้านของเธอ ถนนที่เธออยู่

    สู่ระเบียงบ้านของเธอ ผู้เป็นที่รัก

    ขอบคุณชีวิตที่ให้มามากมาย

    มอบห้วใจ ให้ฉันได้หวั่นหวาด

    เมื่อเห็นผลพวงแห่งมันสมองมนุษย์

    เมื่อฉันเห็นความแตกต่างระหว่างดีชั่ว

    และความแจ่มกระจ่างในดวงตาเธอ


    ขอบคุณชีวิตที่ให้มามากมาย

    เสียงหัวเราะ ความโหยหา ฉันได้รู้จัก

    สองสิ่งที่แบ่งแยกความสุขออกจากความเจ็บปวด
    สองสิ่งที่สรรค์สร้างเพลงของฉัน ซี่งเป็นเพลงของเธอ

    เพลงเดียวกัน

    และบทเพลงของพวกเธอทุกคน

    คือที่สุดแห่งบทเพลงของฉัน

    ขอบคุณชีวิต ... ที่ให้มามากมาย


    ~

    ตอบลบ
  14. ให้

    เขียนไว้ที่บล้อกค่ะ


    MinMintra

    ตอบลบ
  15. ไปเห็นแล้วเมื่อคืน

    ^^

    *

    ตอบลบ