Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


26.12.54

ขอบคุณชีวิต - Gracias A La Vida - Thank You To Life

Oil on canvas "She's so Beautiful" by Irene Sheri


(บทกวีแปล)

ขอบคุณชีวิตที่ให้มามากมาย
สองลำแสงยามเมื่อฉันลืมตา สามารถแยกดำออกจากขาวได้อย่างชัดเจน
ฉันเห็นท้องฟ้า ฉากหลังของหมู่ดาว
และท่ามกลางผู้คนอนันต์ ฉันเห็นคนที่ฉันรัก

ขอบคุณชีวิต มากมายจริงๆสิ่งที่มอบให้
ฉันได้รู้จักเสียงต่างๆ ผ่านคืนวัน
ฉันฟัง ฉันได้ยิน ฉันจดจำ
เสียงจิ้งหรีด นกขมิ้น ฆ้อน กังหันลม เสียงหมาเห่า เสียงพายุ
และเสียงแสนอ่อนโยนของคนที่ฉันรัก

ขอบคุณชีวิตที่ให้มามากมาย
เสียงพูด ตัวหนังสือ
ถ้อยคำที่ใช้คิดและป่าวประกาศ
แม่ เพื่อน พี่น้อง
สว่างวาบ
ซาบซึ้งถึงรากเหง้าและจิตวิญญาณ
จุดกำเนิดแห่งรัก


ขอบคุณชีวิต ที่ทำให้ฉันยังคงย่างก้าว แม้สองเท้าเมื่อยล้า
ผ่านสิ่งขวางหน้า ฝ่าหลุมบ่อในหลายเมือง
ผ่านชายหาด ทะเลทราย จากภูเขาสู่ที่ราบ
จนถึงบ้านของเธอ ถนนของเธอ ระเบียงบ้านของเธอ


ขอบคุณชีวิตที่มอบหัวใจ ให้ฉันรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง
เมื่อเห็นผลพวงอันเกิดจากมันสมองของมนุษย์
หัวใจ ทำให้ฉันเห็นและแยกแยะความดีออกจากความชั่ว
เมื่อฉันมองเข้าไปในความเจิดจ้าจากประกายตาเธอ


ขอบคุณชีวิตที่ให้มามากมาย หลากหลายเสียงหัวเราะและความโหยหา
สองสิ่งที่แยกความสุขออกจากความเจ็บปวด
สองสิ่งซึ่งก่อร่างเพลงของฉัน
เพลงของเธอ
...บทเพลงเดียวกัน
และบทเพลงของพวกเธอทุกคน
คือที่สุดแห่งบทเพลงของฉัน


*

Gracias A La Vida นี้ประพันธ์ขึ้นโดย Violeta Parra กวีหญิงนักเคลื่อนไหว นักเดินทาง นักดนตรีและนักเล่าเรื่องชาวชิลี
เพลงภาษาสเปนนี้โด่งดังไปทั่วโลกด้วยการนำเสนอของนักร้องดังจากชิลี Mercedes Sosa
นำภาพของทั้งสองมาลงไว้พร้อมเนื้อเพลงภาษาสเปนและภาษาอังกฤษ พร้อมลิงค์เพลงที่ร้องทั้งสองคน
ภาพวาดโดย Irene Sheri มีชื่อว่า เธอช่างงดงาม
เลยใช้โอกาสนี้ลงภาพสุตรีผู้งดงามอีกสองคน
เมอร์ซิเดส โซซ่า
และ
ไวโอเลต้า พาร์ร่า


Gracias A La Vida Lyrics written by Violeta Parra

http://www.youtube.com/watch?v=WyOJ-A5iv5I&feature=related
Sung by Mercedes Sosa


Mercedes Sosa



Gracias a la vida, que me ha dado tanto.
Me dió dos luceros, que cuando los abro.
Perfecto distingo lo negro del blancoen
el alto cielo su fondo estrellado,
en las multitudes
el hombre que yo amo.
Gracias a la vida,
que me ha dado tanto.

Me ha dado el oído que en todo su anchoIt
Graba noche y día grillos y canarios
Y la voz tan tierna de mi bien amado

Gracias a la vida, que me ha dado tanto.
Me ha dado el sonido y el abecedario.
Con él las palabras que pienso y declaro,
“Madre,” “amigo,”hermano,” y luz alumbrando
La ruta del alma del que estoy amando.

Gracias a la vida, que me ha dado tanto.
Me ha dado la marcha de mis pies cansados.
Con ellos anduve ciudades y charcos,
Valles y desiertos, montañas y llanos,
Y la casa tuya, tu calle y tu patio.


Gracias a la vida, que me ha dado tanto.
Me dió el corazón, que agita su marco.
Cuando miro el fruto del cerebro humano,
Cuando miro al bueno tan lejos del malo.
Cuando miro el fondo de tus ojos claros.

Gracias a la vida, que me ha dado tanto.
Me ha dado la risa, me ha dado el llanto.
Así yo distingo dicha de quebranto,
Los dos materiales que forman mi canto,
Y el canto de ustedes que es el mismo canto.
Y el canto de todos que es mi propio canto.


*

Sung by Violeta Parra

Gracias A La Vida Lyrics, translated into English by William Morin


Thank you to life, which has given me so much.
It gave me two beams of light, that when opened
Can perfectly distinguish black from white
And in the sky above, her starry backdrop,
And from within the multitude
The one that I love.
Thank you to life, which has given me so much.
gave me an ear that, in all of its width
Records— night and day—crickets and canaries,
Martillos, turbinas, ladrillos, chubascos
Hammers and turbines and bricks and storms,
And the tender voice of my beloved

Thank you to life, which has given me so much.
It gave me sound and the alphabet.
With them the words that I think and declare:
“Mother,” “Friend,” “Brother” and the light shining.
The route of the soul from which comes love.

Thank you to life, which has given me so much.
It gave me the ability to walk with my tired feet.
With them I have traversed cities and puddles
Valleys and deserts, mountains and plains.
And your house, your street and your patio.
Thank you to life, which has given me so much.
It gave me a heart, that causes my frame to shudder,
When I see the fruit of the human brain,
When I see good so far from bad,
When I see within the clarity of your eyes…


*


They're beautiful, Violetta & Mercedes.


14.12.54

จุดกำเนิด อาจลูกไฟจากกองฟิน


นิรันดรแห่งบทกวี?


อาจลูกไฟลอยวาบยามอาบหนาว

อาจวิบวับแสงดาวที่พราวฟ้า

ผกายจันทร์รุ้งพรายในสายตา

อาจจากบทสนทนาที่เรามี


ผ่านเวลาผันผายสายน้ำล้น

ผ่านยินยลสุขโศกโลกเปลี่ยนสี

ผ่านหน้าปัทม์นาฬิกาวินาที

นิรันดรแห่งบทกวีอยู่ที่ใด


ความกลมกล่อมที่กลมกลืน

ยังรอคอยวันคืนอยู่ใช่ไหม

นิรันดรเลือกสรรค์นิรันดร์ใด

ควรสถิตย์อยู่ข้างใน นิรันดร


อาจลูกไฟลอยวาบแล้วซาบซึ้ง

อาจต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งเล่าสอน

อาจหนึ่งบทสนทนาหนึ่งบทตอน

บังเกิดหนึ่งนิรันดรแห่งบทกวี




*

ต้อง โดย WestwindPanras



อาจประกายพลุไฟวันใจกรุ่น
เสียงหัวเราะอุ่นๆบนภูผา
กลางแวดล้อมผู้คนบทสนทนา
อาจก่อเกิดปุจฉาที่เงียบงัน

ว่าฟุ้งๆพลุ่งพล่านผ่านกาลสาย
หาความหมายผ่านชีวิตผ่านคิดฝัน
ผ่านรอยทางไขว่คว้าหานิรันดร์
ผ่านทั้งนั้นทั้งสิ้นผ่านดินฟ้า

ผ่านความจริงผ่านความหวังที่ฝังราก
ผ่านหินสากดินแร้งแสวงหา
ผ่านที่เป็นที่ไปยังที่มา
แล้วถ่ายทอดด้วยภาษาที่อาทร

คือต้องตาต้องใจในความคิด
มองชีวิตเข้าใจข้างในสอน
เกินสามัญบนสามัญแห่งสัญจร
ภาพสะท้อนความรู้สึกผ่านตรึกตรอง

คือเรียบง่ายลึกล้ำน้ำคำปราชญ์
ไม่เปล่ากลวงเทสาดดาษจองหอง
ไม่รักชังกรีดกราดทาสเงินทอง
หากด้วยท่วงทำนองของความรัก



*