Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คำถ้อย Tenderly แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คำถ้อย Tenderly แสดงบทความทั้งหมด

2.11.57

ดวงดาวคือกุหลาบที่อยู่บนฟ้า (อีทิสังฉันท์ ๒๐) / Stars: Roses of The Sky


กุหลาบอังกฤษ ชาริฟา อัสมา แสนหอม / English Rose Sweet Fragrant "Sharifa Asma"


หากนภามิแย้มอุษาวิไล

พิสุทธิ์อรุณจะเริ่มไฉน

... นภาเอย


นาฬิการะบุทิวาเฉลย

ฤ รัตติกาลมิยอมละเลย

... ระบายสี


ดาริกาประดับตะเกียงมณี

สล้างสลัวนิภาวิถี

... ก็เนิ่นนาน


คอยจะเดินจะเพลิน ณ อุทยาน

ละลานตระการกุหลาบสถาน

ฤดีวาด


พลันอรุณสมัยสะอ้านสะอาด

และปฐพีก็งามวิลาส

กุหลาบเอย


*

หมายเหตุ*

อีทิสังฉันท์ 20 เป็นฉันท์ที่มีจังหวะกระแทกกระทั้น ฉะนั้นจึงใช้แต่งบรรยายความรัก ความวิตก และความโกรธ

หนึ่งบทมี 20 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 9 พยางค์ 
วรรคสอง 8 พยางค์ 
 และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ 
 ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก

ลักษณะครุ-ลหุ คือ  
ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ
ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ 
ลหุ-ครุ-ครุ




29.7.56

ห้องสีวานิลลา / Vanilla Room


Vanilla Rose

เราต่างคนต่างเดินทาง
บนคนละเส้นทาง
เดียวกัน

ถนนสายชีวิต

เราต่างคนต่างมีนาฬิกา ที่เดินไปช้า ๆ
นาฬิกาของเรา
เดินไปตามมาตรฐานของนาฬิกาหรือเปล่านะ
 นาฬิกาของผู้ไม่เร่งรัดกับปลายทาง


เช้านี้ คุณอาจนั่งทอดหุ่ยจิบกาแฟอยู่ที่ร้านริมทางเท้า
ขณะฉันกำลังปิ้งขนมปังและอุ่นเนยอยู่ในครัวที่บ้าน
กาแฟใส่นมปรากฏอยู่ในอนาคตกาลใกล้ ๆ
ใกล้เท่ากับการกระพริบตาถี่ ๆ ไม่กี่ครั้ง


แดดเช้า ค่อย ๆ คืบคลานผ่านหน้าต่างกระจกเข้ามา
ผนังห้องสีวานิลลากลายเป็นสีกลีบดอกการเวก คุณจะบอกอย่างนั้น
ส่วนฉันจะบอกว่า ห้องเปลี่ยนเป็นสีแสงแดด
แต่ไม่ว่าใครจะเรียกว่าอย่างไร
ห้องก็เป็นห้องสีเหลืองสดใสที่มีแสงแดดส่องสว่าง


ตัวหนังสือของฉันกำลังบอกว่าสบายดี
คำว่าสบายดีคงไม่ผิวเผินจนเกินไป
ถึงแม้มันจะเป็นคำตอบที่คุ้นชินตามมาตรฐานสามัญ
ฉันก็ไม่อาจเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น


เราต่างคนต่างเดินทาง
ในห้วงยามเช่นนี้ ฉันรู้สึกว่า
เรากำลังเดินทางไปด้วยกัน




*





20.3.56

ขณะหนึ่งในความสันโดษ / In My Solitude



ขณะหนึ่งในความสันโดษ
แว่วท่วงทำนองของเพลงบางเพลง
ฮึมฮัมเนื้อร้องไม่ปะติดปะต่อ
จดจ่ออยู่กับบางการจดจำ
ตัวโน้ตรายเรียงครบครัน
แต่บางถ้อยคำ
ขาดหาย


เพลง
ยังคงเป็นเพลง
บรรเลงแทรกความเงียบงันท่ามกลางความสันโดษอันนุ่มนวล


นานเกินไปไหมที่ไม่ได้ยินเสียงหัวใจตนเอง
นานเท่าไรที่ไม่ได้รู้สึกรู้สมลมหายใจเข้าออก
วันช่างรีบลน คนช่างเร่งร้อน
เมืองช่างสับสน 
จิตคนหวั่นไหว
 ไฉนเลยจะได้ยินเพลงตน
แม้เพียงขณะหนึ่งแห่งช่วงเวลา


ความสันโดษที่มาถึงจึงเสมือนโอกาสสะท้อนภาพตน
พินิจเหตุการณ์ผันผ่าน หายใจเข้าออก
ขณะรับรู้ว่า หัวใจเต้นไปช้า ๆ
และสม่ำเสมอ


วางถ้อยคำลงบนเพลงตน
ไม่มีถ้อยคำใดขาดหาย
เปี่ยมด้วยความหมายอยู่ในท่วงทำนอง
ณ ขณะหนึ่งแห่งความสันโดษแสนอ่อนโยน






*




1.8.55

เพลงจากบ้านขาว Prelude to A Song



เดินทางไกลคราวนี้ มีคำใดมาฝาก
ชั่วขณะที่จากพราก มีอะไรมาเล่า
แม้คาดหวัง กระนั้นไม่อาจคาดเดา
ใจมันฟู ๆ เบา ๆ
เหมือนสำลี


เพิ่งรู้
การจากพรากที่ดีนั้นมีอยู่
มีไว้ให้เหลียวดู ไม่ใช่เบือนหน้าหนี
วงกลมบนปฏิทิน เห็นแล้วยิ้มได้บางที
พรุ่งนี้เปลี่ยนชื่อทุกที
...ที่ตื่นมา


คราวเดินทางไกล
จำได้ตรึงใจ ใครห่วงใยห่วงหา
สายลมวกวนพัดพา
ต้อนรับกลับมา
สู่รวงรัง


เช่นกัน สายลมรำเพย
 ถ้อยเอื้อนเอ่ยจากคนข้างหลัง
 เรือน้อยลอยเลียบฝั่ง

อีกครั้ง อีกกี่ครั้ง

ยังเยือน




*

6.7.55

เมื่อฟังเพลงฟ้า Sky Sings The Blues

Bangkok City in the morning light by Stephen Greenwood

ขอบฟ้าที่คุณเห็นเหมือนที่ฉันเห็นหรือเปล่า
แสงฟ้าของคุณเล่า อับเฉาหรืออบอุ่น
มีบ้างไหมเวลาอ่อนไหวละไมละมุน
ละเลียดกาแฟไอกรุ่นในอุ่นมือ


แรงลมพัดพาก้อนเมฆหนามาเกือบทุกเย็น
ฝนสาดกระเซ็นเหมือนเปียกเปื้อนตัวหนังสือ
มองกระดาษตรงหน้า ฉันมองความเป็นอยู่่คือ
มองดินสอปลายทื่อ ๆ
มอง ...




Chaopraya Riverside, Bangkok, Thailand



มองฟ้า มองน้ำ มองเมือง มองคน 
มองตน
เมืองอลวน ผู้คนตอกย้ำร่ำร้อง
เสียงตนเงียบงัน
ฝนทิ้งสายเนืองนอง
เสียงน้ำ เสียงเรือล่อง
แสงทองส่องเรือใบไม้



Bridge in Bangkok by Stephen Greenwood

ขอบฟ้าที่คุณเห็น เหมือนที่ฉันเห็นหรือเปล่า
เสียงที่เราได้ยินเล่า เหมือนกันไหม
สันติสุข ซ่อนซุกอยู่หนใด
ส่วนที่หายไป อยู่ที่ไหนในฝูงชน




กรุงเทพ กรกฎาคม 2012


*



Bangkok sky in the evening by Jasmine in September 2012










2.11.54

บทกวีข้างถ้วยชา




รอหรือไม่ใครบอกไว้ในไม่ช้า

ข้างข้างถ้วยน้ำชาใกล้หน้าหนาว

ก่อนตะเบบูญ่าแต้มฟ้าพราว

เจือหมอกขาวบทกวีที่คุณวาง


ม่วงดอกน้อยเล่าว่าคุณมาเยี่ยม

วันน้ำเปี่ยมแสงเรื่อเมื่อยามสาง

เฝ้าวนเวียนก้าวย่างช่างเปราะบาง

ท่ามโอบอ้อมอ้างว้างกลางดอกใบ


คล้ายมาเก็บรายละเอียดละเลียดรส

กาแฟขมยังสดในกาไหม

กาแฟหวานถ้วยนี้ฝีมือใคร

ชากาแฟอื่นใดไม่ถามกัน


เก็บดอกไม้จากป่าเอามาฝาก

เป็นเพื่อนยากม่วงเช้าราวปลอบขวัญ

คล้ายเดือนปีที่ผ่านไปให้รางวัล

ของกำนัลเผื่อกาลที่ผ่านมา


ฝันใครหรือเคลื่อนไหวในดงปีบ

พรูดอกปีบใบเขียวใครเหลียวหา

นางพรายน้อยหยอกเย้าเคล้าลมพา

แทนเสียงหนึ่งสกุณาที่เคยชิน


ระเบียงนี้เก้าอี้ที่เคยนั่ง

รอยวันยังฝังแน่นเช่นแผ่นหิน

ทุกก้าวย่างประทับลงบนผืนดิน

คือทั้งสิ้นทั้งปวง


... ที่หวงไว้


ในโลกแสนเดียวดาย

เราจะเกิดและตายหลายครั้งไหม

หรือเกิดมาเพื่อจะรู้ว่ามีใคร

อยากให้เราหายใจไปนานนาน


*