เขาและเธอต่างเกิดมาในเอกภพที่มีค่าคงที่ทางฟิสิกส์
ทว่า...
“เหรียญมีสองด้าน ถึงจะมีทางเลือกแค่ทางเดียว เราก็ยังมีโอกาสที่จะเลือกหรือไม่เลือก” บทสนทนาค้างเติ่งมาชั่วขณะ เขากำลังขับรถพาเราสู่จุดหมาย บ้านริมแม่น้ำน้อย
ฉันเงียบงัน หากความคิดตื่นฟื้นไม่ยินยอม “ความรู้สึกทางคณิตศาสตร์ของเราต่างกัน เหรียญมีสามด้าน ด้านที่แคบที่สุด เราลืมเลือน”
“เราไม่ได้ลืมด้านที่สามหรอกครับ แค่พูดกันต่อๆมาอย่างงั้น เหรียญที่ตั้งอยู่บนขอบไม่ช้าก็ล้ม ด้านที่มีพื้นที่มากกว่าจะแสดงตัว”
“แต่ด้านนึงจะหายไป เหรียญจะหยุดอยู่กับที่”
“คุณว่าอะไรสำคัญกว่า”
“การเคลื่อนไปข้างหน้า ด้านที่แคบที่สุดขับเคลื่อนเหรียญทั้งเหรียญ แล้วเราก็เห็นเหรียญทุกด้าน"
“ผมพูดถึงโอกาสในทางเลือก คุณพูดถึงอะไร”
“เราพูดถึงสิ่งเดียวกันนะคะ”
“ยากนะครับที่ใครจะประคองตัวอยู่บนด้านที่แคบที่สุด”
“เคลื่อนไปข้างหน้ากับสิ่งสำคัญไม่กี่อย่างในชีวิต ยาก แต่ก็ทำอยู่”
“เหรียญที่อยู่นิ่งๆ ยังไงก็เป็นเหรียญที่มีทั้งสามด้าน อย่าลืมนะครับ” เขาเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้
“ปรากฎการณ์นี้เหลือเชื่อจริง บางอย่างที่สำคัญเกิดขึ้น”
“หืม”
“เราไงคะ”
การเคลื่อนไปข้างหน้าชะงักงัน ฝูงเป็ดโผล่ออกมาจากพงหญ้า ในความเป็นจริง เราหยุดรถเพื่อให้เป็ดแม้เพียงตัวเดียวข้ามถนน ไม่เป็นไร บ้านริมน้ำยังรอเราอยู่ ถ้าเราไม่เปลี่ยนใจ
เขาพูดถูก เหรียญที่นอนแอ้งแม้งถึงยังไงก็ยังเป็นเหรียญ รถหยุด เราตั้งเหรียญขึ้นมาใหม่ เหรียญหมุนไปข้างหน้าเช่นเดียวกับรถที่แล่นไปบนทาง
ไม่ว่าในแนวดิ่งหรือแนวนอน เหรียญยังไงก็เป็นเหรียญวันยังค่ำ
*
คืนนั้น รุ่งสางเพิ่งถึงหมู่เกาะโซโลมอน มืดมนจนฉันไม่คิดว่าคืนดึกจะมืดมนได้กว่านี้
ฉันปล่อยหมาทั้งห้าออกไปในสวน หล่อดี นักกระโดดสูง ฉายาหมาละครสัตว์ ดีดตัวขึ้นไปแตะขอบบนประตูรั้ว แล้วหายลับ
เวลาหยุดพัก เข็มนาฬิกาเหมือนหยุดเดิน
หล่อดีกลับมาพร้อมปีศาจนามความเจ็บปวด มันอวดศักดาผ่านเสียงร้องโหยหวน ปฏิเสธแสงสว่างและการแตะต้องของความรัก
หมาของฉันร้องจนหมดแรง มันกำลังเดินทางสู่ดินแดนใหม่ที่ไม่มีฉัน ความหวังฝากไว้กับรุ่งสางที่อ้อยอิ่งอยู่ควีนส์แลนด์
ตื่นกลัว เศร้าสร้อย ความตายก่อนเวลา...ฉันรู้จักมันดี
น้ำตาแรกใกล้จะหยด สัญญาณหนึ่งก็มาถึง
“คุณทำให้ผมตื่น เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
แสงเช้าขับไล่ความมืดมิด ผ้าห่มที่มองไม่เห็นของเขาห่อหุ้มฉัน น้ำแข็งข้างในละลาย กลายเป็นน้ำผึ้งอุ่นอุ่นใต้แดดบ่าย
ยามพระอาทิตย์ค้างเติ่งเหนือแผ่นดินอื่น เราเฝ้ารอรูปธรรมของยามเช้า แม้ฉันตระหนักดีว่ายามเช้าได้มาถึงแล้ว
*
ทรามวัย หมายิ้มสวยถูกปีศาจลมชักเข้าสิง มันทำให้ทรามวัยแข็งเกร็ง ตากลับ มันเอาของเหลวจำนวนมากออกจากร่าง มันทำให้ชัก มันทำให้หยุด ทำให้เดินวนเป็นวงกลม แล้วชักอีก ปีศาจเงียบหายไปนานหลายเดือน
คืนนั้น กรุงเทพอยู่ใต้แสงดาว รุ่งสางยังอยู่เหนือบริสเบน ปีศาจกลับมาเล่นงานเหยื่อของมันถึงแปดครั้ง ฉันกอดทรามวัยและปีศาจในตัวมันไว้
สัญญาณเรียกดังขึ้น ...จากเขา "ปลุกผมทำไมครับ มีอะไร” เสียงชัดเจนอยู่ข้างหู “ทรามวัยจะปลอดภัย มันจะไม่เป็นไร คุณจะไม่เป็นไร”
ในชั่วขณะระหว่างความเป็นความตาย ไม่มีคำหวานใด หวานยิ่งไปกว่าความอ่อนโยนที่ทำให้ฉันอุ่นใจอยู่ในความเชื่อ
เช้าที่มาถึงก่อนเช้า
*
คืนนี้สำหรับฉัน กรุงเทพกำลังชะเง้อชะแง้รอเช้าใหม่อย่างกระวนกระวาย คืนวิกฤตอีกคืน มีเราเท่านั้นที่รู้ว่าสัญญาณผ่านดวงดาวยังถึงกันไหม
ฉันเชื่ออย่างเต็มหัวใจ คนรักกันจะรับรู้ทันทีเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับอีกคน