Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


21.1.56

คุณจะถือร่มให้ฉันไหม 2 / Will you hold my umbrella ? 2

ตอน 2 ฉุกเฉิน / Emergency Call



ใกล้ยูเทอร์นเข้าไปทีละนิด ๆ ๆ
ฉันมองฝ่าสายฝนหนาหนักไปฝั่งตรงข้าม
ซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่ใกล้แค่นี้แต่เหมือนฝันอันแสนไกล
โอ๊ะนั่น ! นายคนนั้นเพื่อนบ้านผู้แปลกแยกนี่นา
เขาเรียกน้องสาวคนเดียวว่ายัยบ๊อง
ยัยบ๊องเพื่อนฉัน หาแนวร่วมระหว่างมื้ออาหารแสนอร่อย
ที่สมควรเก็บปากเก็บคำไว้เคี้ยวอย่างเดียว
หล่อนกลับแกล้งทำคำหล่น หลุดปากเรียกฉันว่ายัยโบ๊ะ !
ฉันรู้แหล่งที่มาทันที
ยกย่องกันไม่เบา ให้ฉันได้เป็นทั้งโก๊ะและบ๊อง

อย่ารู้เลยนะว่าจากวินาทีนั้นฉันเรียกเขาว่าอะไร
เขาน่ะเหรอ ได้ยินเต็มสองหูทีเดียว
ปลายวันหยุดเดือนมกรา หมาของฉันหลุดออกไปเจอเขาจูงหมาออกมาพอดี
มันพุ่งเข้าใส่ 
ฉันร้องเรียกเขาด้วยสมญาที่ตั้งให้
หลุดปากเรียกออกไปโดยไม่รู้ตัว
ไม่รู้ตัวจริง ๆ

"หลุดปาก"เป็นลักษณะกริยาหนึ่งของมนุษย์ที่ไม่อาจระบุได้ชัดเจนว่า เป็นคุณหรือเป็นโทษ

"คราวหน้าเรียกหมานะครับ" เขาบอกหลังปล่อยให้หมาเล่นสู้กันพอหอมปากหอมคอ


เขามีรถไว้จอด ถ้าใครถาม เขาคงบอกว่าลดภาวะโลกร้อน
เขา เดินไปตามถนนอย่างสบายในวันฝนตกหนัก ไม่มีร่ม ไม่มีเสื้อกันฝน
คงจะไปซื้อของเข้าบ้านเหมือนฉัน
ฉันมองรถติดเป็นแถวข้างหน้า สังเวชตัวเองที่ติดแหง่กอยู่ในรถ
จะเป็นเรื่องน่าเศร้าถ้าฉันไปถึงทีหลังคนที่เดินอยู่ฝั่งโน้น

โอ้ ฉันมาถึงก่อนเขา ก็มัวแต่ทอดน่องอยู่นี่
รถที่จอดอยู่ใกล้ตัวตึกกำลังออกพอดี ฉันรีบเข้าไปจ่อ
อย่างน้อยตัวฉันก็ยังแห้ง ส่วนเขาเปียกโชก


ที่ ๆ รถจอดห่างจากตัวตึกประมาณยี่สิบเมตร
ฉันเปิดประตูหน้าแล้วเปิดประตูหลังเพื่อหยิบร่ม
เมื่อเช้า น้อง ๆ ที่ติดรถไปโรงเรียนคงหยิบขึ้นไปวางไว้ข้างหลัง

ลมแรงกลายเป็นพายุ ฉันหลับหูหลับตาคว้าร่มแล้วล็อครถ
ลมยื้อร่มของฉันแทบหลุดมือ ฉันไม่ยอมปล่อย สู้ยิบตา
ฉันกางร่มได้ ฉันทำสำเร็จ !

แต่แล้วลมก็ทำร่มทรงดอกไม้คว่ำเป็นดอกไม้หงายบานแฉ่งลู่ลม
ฉันยังไม่ยอมแพ้ จะสู้ให้ถึงที่สุด
"ให้ผมช่วยมั้ยครับ" เสียงเขาผู้มีสมญานาม
ฉันส่ายหัว "ไม่ต้องค่ะ" ฉันเปล่งเสียงสู้เสียงลมฝน
แต่เขาก็ช่วยอยู่ดี
ร่มกลับมาอยู่ในรูปทรงปกติแล้ว
ฉันเกร็งแขนสู้ลมแรงจนเจ็บ
เขายังไม่แยกไป ฉันถามเขาว่า "คุณจะถือร่มให้ฉันไหม"
เขารับร่มไป หุบมัน แต่ยังคงถือไว้
"อย่ากางร่มในวันลมแรง"
ฉันไม่ปริปาก
"แผนดี ๆ มีไว้ให้ล้มเลิกเมื่อฟ้าฝนไม่เป็นใจ"
"อะไรนะคะ"
"เปียกแล้วจะหยิบร่มทำไม ถ้ารีบวิ่งเข้าไปจะเปียกน้อยกว่านี้มาก"
"นั่นซี" ฉันหัวเราะตัวเองอย่างกลั้นไม่อยู่ทำเขาหัวเราะไปด้วย


ระหว่างจับจ่าย "คุณมีรถไว้จอด"
"บรรเทาอาการโลกไข้ขึ้นครับ"
นั่นไงว่าแล้ว ...
"มีไว้ไม่ขับ" 
"เผื่อยายเป็นอะไรดึก ๆ"
"อ๋อ ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน"
"ครับ เผื่อฉุกเฉิน"


แล้วเรื่องฉุกเฉินก็เกิดขึ้นกลางดึกคืนนั้น
เขาไข้ขึ้นสูง หอบ หายใจไม่ออก คนที่บ้านที่มียาย แม่ และน้อง ไม่มีใครขับรถเป็นสักคน
ยัยบ๊องโทร.หาฉันให้ช่วยขับรถพาพี่ชายไปโรงพยาบาล
ฉันกระโดดแต่งตัว
.. แล้วคว้าร่ม


*

 

3 ความคิดเห็น:

  1. 555

    นางเอกน่ารัก

    แต่คนเขียนนางเอกน่ารักกว่า

    ^^

    ตอบลบ
  2. จริงเหรอคะ

    ^^

    ตอบลบ
  3. จริงค่ะ

    MinMintra

    ตอบลบ