ฉันชอบมองไปไกล ๆ ไกลเท่าที่สายตาจะมองถึง
ในระดับสายตา ฉันพบผู้คน
บางขณะเวลา ฉันเลือกสถานที่บางแห่งเพื่อนิ่งมองผู้คนสัญจรผ่านไปผ่านมาอย่างไม่เบื่อหน่าย
เลยระดับสายตาขึ้นไป ฉันพบสิ่งก่อสร้าง บ้าน ตึกแถว
เลยขึ้นไปอีก ฉันเห็นสายไฟระโยงระยางจากเสาหนึ่งไปอีกเสาหนึ่ง
และไม้ใหญ่ที่กิ่งก้านเคยยื่นเข้าไปใกล้สายไฟถูกตัด
แขนขาขาดยืนต้นเรียงรายเป็นแถว
เลยขึ้นไป ฉันเห็นตึกสูง ตึกระฟ้า
สิ่งเหล่านั้นบดบังความว่าง
ฉันจึงมองสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
สายตาที่แสวงหาความว่าง ย่อมพบความว่าง
ณ ที่สูงสุดเท่าที่ดวงตาจะมองถึง
ท้องฟ้า
ความว่างที่ไม่ว่างเปล่า
ความว่างทำให้จิตใจสงบ ความสงบก่อเกิดแรงบันดาลใจ
ณ ที่แห่งนั้น ความจริงและจินตนาการหลอมรวมเป็นบางสิ่ง
บางสิ่งที่เมื่อบังเกิดขึ้นแล้วทำให้เป็นสุข
มีสถานที่บางแห่งบนพื้นโลกที่ทำให้ฉันได้สัมผัสความโล่งว่าง
ฉันชอบไปที่นั่น ต้นไม้ใหญ่ยืนต้น
ต้นยางนาใหญ่ขนาดสามคนโอบ ต้นไทรที่มีหนวดยาวสีน้ำตาล
สนามหญ้ากว้างเขียวและทางเดินแคบ ๆ คดเคี้ยว
สะพานข้ามสระบัวที่ทำให้นึกถึงสะพานไม้ของโมเนย์
ที่นั่น ฉันยังสามารถมองท้องฟ้าทั้งในแนวดิ่งและแนวนอน
แนวดิ่งผ่านเงาไม้ แนวนอนผ่านทะเล
ที่นั่น ฉันรู้ว่าฉันจะพบใคร
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและชื่อของเขาก็โผล่บนหน้าจอพร้อมกัน
ฉันรับสาย
"โทรหาผมมีอะไรหรือเปล่า"
ฉันไม่แสดงความแปลกใจ และไม่พูดอะไร
ใครที่ฉันจะพบที่นั่นคือชายที่อยู่ในโลกที่กลับกัน
คุณสมบัติของเขาอยู่ที่ความสามารถเสมือนจะ"สวมรองเท้าของคนอื่น"ได้ทุกครั้งที่ต้องการ
การทำเช่นนั้นทำให้อีกฝ่ายต้องสวมรองเท้าของเขา
หรือในทางกลับกัน
การทำเช่นนั้นทำให้อีกฝ่ายต้องสวมรองเท้าของเขา
หรือในทางกลับกัน
ซึ่งหมายความว่า เขาจะสะท้อนการกระทำของฉันออกมาอย่างชัดเจน
ด้วยการ"สลับที่กัน"
เมื่อ "สลับที่กัน" ฉันจะเห็นภาพสะท้อนการกระทำและผลที่เกิดขึ้นจากมุมมองของเขา
บางครั้งการสลับที่ทำให้ฉันสะท้อนใจ บางครั้งสลดใจ เสียใจกับการกระทำของตัวเอง
แต่ฉันไม่ร้องไห้
จิตใจฉันไม่ได้กระด้างเย็นชา แต่เป็นเพราะมัวแต่ไล่เรียงสิ่งที่เขาพูดกับสิ่งที่ฉันได้ทำลงไป
การสลับที่บ้างและไม่สลับที่บ้างทำให้ฉันงงงวย
บ่อยครั้งใจฉันผ่อ หัวใจลดขนาด ทิ้งที่ว่างโหวงเหวงไว้ในอก
แต่ฉันไม่ร้องไห้
จิตใจฉันไม่ได้กระด้างเย็นชา แต่เป็นเพราะมัวแต่ไล่เรียงสิ่งที่เขาพูดกับสิ่งที่ฉันได้ทำลงไป
การสลับที่บ้างและไม่สลับที่บ้างทำให้ฉันงงงวย
บ่อยครั้งใจฉันผ่อ หัวใจลดขนาด ทิ้งที่ว่างโหวงเหวงไว้ในอก
กระนั้นไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ
ทุกครั้งที่ใครก็ตามสวมรองเท้าของคนอื่น คน ๆ นั้นต้องถอดรองเท้าของตัวเองออกเสียก่อน
และเมื่อใครคนหนึ่งทำให้คนอีกคนหนึ่งสวมรองเท้าของเขา
เขาต้องพร้อมที่จะสวมรองเท้าของอีกฝ่ายด้วย
"คุณน่าจะสวมรองเท้าของฉันมั่ง"
"ผมสวมมันอยู่"
ฉันก้มมองเท้าของตัวเองในรองเท้าใหญ่ ๆ ของเขา
เหลือบมองรองเท้าของฉันที่ถอดทิ้งไว้บนผืนหญ้า
มันยังอยู่ที่นั่น
เขาต้องพร้อมที่จะสวมรองเท้าของอีกฝ่ายด้วย
"คุณน่าจะสวมรองเท้าของฉันมั่ง"
"ผมสวมมันอยู่"
ฉันก้มมองเท้าของตัวเองในรองเท้าใหญ่ ๆ ของเขา
เหลือบมองรองเท้าของฉันที่ถอดทิ้งไว้บนผืนหญ้า
มันยังอยู่ที่นั่น
ตรงโน้นมีแผ่นหิน มันไม่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน
ฉันเดินเข้าไปมองและอ่านตัวหนังสือ
มันจารึกไว้ว่า
ฉันเดินเข้าไปมองและอ่านตัวหนังสือ
มันจารึกไว้ว่า
มรณะ 30 พฤศจิกายน 2008
ชาตะ 1 ธันวาคม 2008
และข้างล่างคือชื่อของฉันเอง
ในโลกที่กลับกัน การเกิดกับการตายไม่แตกต่าง
ชื่อก็ไม่แตกต่าง
เพราะทุกอย่างคือการสลับที่กัน
*
นามธรรมที่สัมผัสและรู้สึกได้
ตอบลบแอ็บสแตร็ค
ชอบมากค่ะเรื่องนี้
ให้บรรยากาศแบบกึ่งๆ
มีเสน่ห์ในแบบของงานเขียนนี้เอง
MinMintra