3.
แม้ในความเป็นจริงยายหลานไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอก
ทางออกย่อมมีอยู่เสมอเพียงแสวงหา
หากยายผู้ชรายืนยันว่าปรารถนาจะหลับตาตายอย่างสงบในบ้านหลังนี้
คำอ้อนวอนจึงถูกเก็บกลืนไว้ในห้วงลึก
หญิงสาวได้แต่ปรนนิบัติยายอย่างดีที่สุดเท่าที่เธอทำได้
ความห่วงใยที่มีต่อยายผู้นอนหายใจรวยระรินอยู่ต่อหน้า
ไม่ได้เบียดบังช่วงเวลาที่เธอพะวักพะวงถึงนกน้อยเพื่อนยาก
อา ความห่วงใย ไม่อาจเว้นไว้เสียจากผู้ที่มองไม่เห็น
เงินทองที่เก็บออมได้นั้นมีไม่น้อย
หากมิใช่เพราะฮัมมิ่งเบิร์ด หมู่ผึ้งตัวเล็ก ๆ และผีเสื้อ
สวนแห่งนี้คงไม่มีดอกไม้หายาก
ดอกไม้ที่มีสีต่างออกไป สีบนดอกไม้ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนย่อมเป็นที่ต้องการ
ดอกไม้เหล่านั้นเดินทางทั้งใกล้และไกลไม่เหมือนเธอ
ยายเคยพูดถึงแสงสีขาว ยายบอกเธอว่าแสงสีขาวเกิดจากสีทุกสีรวมกัน
แสงสีขาวแทนความรักบริสุทธิ์
ในความบริสุทธิ์นั้นรวมทุกสีเข้าไว้ด้วยกัน
แม่สีทั้งสาม และสีที่อยู่ระหว่างนั้น
ชีวิตของเธอกับยายมีเกินอยู่เกินกินก็เพราะสีที่ผสมกันขึ้นมา
สีบนดอกไม้ที่สีเหล่านั้นไม่เคยอยู่มาก่อน
ฮัมมิ่งเบิร์ดยังคงผสมเกสรดอกไม้เพื่อหญิงสาว
มันจึงต้องดูดกินน้ำรสขมจากดอกไม้ที่น้ำตาหญิงสาวหลั่งรด
น้ำพิษทำให้มันอ่อนแรงลงทุกวัน กระนั้นยังฝืนทน
นกน้อยลอบทำงานได้ไม่ยาก
หญิงสาวจะออกมาในสวนเฉพาะยามเช้าและยามเย็น
เมื่อรดน้ำต้นไม้ เธอได้อยู่กับตนเอง
เธอจึงร้องไห้ได้อย่างเสรี
น้ำตาที่กลั้นเก็บไว้ข้างในมีมากจนล้นออกมาไม่มีหมด
ทุกครั้งที่ฮัมมิ่งเบิร์ดแอบเห็นหญิงสาวร้องไห้ มันก็ร้องไห้ไปกับเธอด้วย
น้ำพิษที่มันดูดกินจึงถูกปลดปล่อยออกมา
ทั้งสองร้องไห้เพื่อประทังชีวิตไปวัน ๆ
เช่นเดียวกับหญิงสาวทำเพื่อยาย
ฮัมมิ่งเบิร์ดทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อเธอ
มันได้แต่หวังว่าปาฏิหารย์จะมีจริง
ปาฏิหารย์ไม่มีอยู่จริง !
เช้าวันนี้ขณะหญิงสาวกำลังรดต้นไม้ นกน้อยที่แอบมองก็หล่นร่วงลงบนผืนหญ้า
หญิงสาวผวาเข้าไปช้อนมันขึ้นมาแล้วพามันเข้าไปในบ้าน
เธอห่อร่างน้อยไว้ในผ้านุ่ม ๆ ที่อบอุ่น
ไม่ถามไม่พูดคำใด ได้แต่ทำเสียงปลอบประโลมที่ไม่ใช่ถ้อยคำ
เธอเหยาะเกลือลงในน้ำเพื่อให้แร่ธาตุ ผสมน้ำหวานเป็นกลูโคสเพื่อให้กำลัง
นกน้อยพยายามดูดกินเพื่อให้เธอคลายใจ
มันมีความสุขที่ได้อยู่ในอุ้งมือเธอ ดูดกินน้ำหวานจากช้อนที่เธอป้อนให้
หญิงสาวหยิบตะกร้าถักใบเล็ก ๆ วางมันลงไป แล้วพาเข้าไปในห้อง
บอกกล่าวกับยายว่า
"นกน้อยไม่ยอมไปไหน ยังผสมสีใหม่ ๆ ดั่งจิตรกรป้ายพู่กันจุ่มสีลงบนดอกไม้
หนูเห็นดอกไม้สีแปลก ๆ ใหม่ ๆ ในสวนของเรา
ตอนนี้มันป่วยหนัก หนูขอนำมันมาพักอยู่ด้วยกัน"
"ยายรู้ว่าหนูแอบไปร้องไห้สงสารยายทุกวัน
ยายรู้ ว่าหนูรดน้ำต้นไม้ไปร้องไห้ไป
ยายทำให้หลานตรอมใจ
และนกน้อยตัวนี้ก็ตรอมใจไม่ผิดกัน"
"ไม่ใช่ยายหรอก แต่เป็นความไข้"
"หลานเอ๋ย โรคเรื้อรังที่ยายเป็นไม่อาจรักษา
หากเป็นหมอเทวดาก็ต้องมีปีก"
ดวงตาหญิงสาวเต็มไปด้วยคำถาม
"อย่าตั้งความหวัง สิ่งที่จะช่วยยายได้นั้น มีเพียงคนเดียวที่เคยนำมันมารักษาคนจนหาย
แต่ชายคนนั้นตายจากไปนานแล้ว"
"ยาขนานใดจะช่วยยายได้"
"น้ำหวานจากเกสรดอกไม้บนผาหินปูนสูงลิบลิ่ว ยอดเขาที่มีนามว่าความหวัง
นอกจากเขาผู้ตายจากยังไม่มีใครอื่นเดินเท้าไปถึง"
นกน้อยฮัมมิ่งเบิร์ดฟังคำยายเล่าและจดจำไว้ขึ้นใจ
บางที
ปาฎิหารย์อาจมีอยู่จริง
อาหารที่หญิงสาวป้อนให้ยายด้วยความรัก ช่วยยายไม่ได้
แต่น้ำหวานที่เธอป้อนฮัมมิ่งเบิร์ดด้วยความรัก ช่วยมันได้
"เจ้าแข็งแรงขึ้นเมื่อไร ควรจะบินไปหาน้ำหวานจากที่อื่น เพื่อวันหนึ่งที่ไม่รู้เมื่อไร
เราจะได้พบกันอีก"
นกน้อยรักษาตัวอยู่ที่บ้านสาวชาวสวนจนแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ
จนวันหนึ่ง
มันออกบินไกล ไปอย่างมีทิศทาง
แล้วมันก็กลับมา
ลบล้างความตรอมตรมที่ห่มคลุมคนในบ้าน
น้ำหวานจากดอกไม้บนผาหินปูนบนยอดเขาแห่งความหวัง ยังเยียวยารักษามันด้วย
ฮัมมิ่งเบิร์ด หญิงสาวและยายไม่ได้เป็นเพียงสามชีวิตที่เชื่อว่า...
ปาฎิหารย์มีอยู่จริง
หากเช่นเดียวกับผู้คนนับไม่ถ้วนบนดาวเคราะห์สีฟ้าดวงนี้
และคนที่สร้าง "คำ" ว่า "ปาฏิหารย์" ขึ้นมาบนโลก
คำที่ถูกจารึกไว้ในพจนานุกรม
...
ทุกวันนี้ลูกหลานฮัมมิ่งเบิร์ดน้อยยังคงผสมสีจากเกสร
เพื่อชาวสวนดอกไม้และผลไม้ที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง
เช่นเดียวกับฮัมมิ่งเบิร์ดตัวนั้น
ที่ยังคงผสมเกสรดอกไม้ให้สาวชาวสวน
อย่างน้อยก็ในความทรงจำ
*