ฟรีด้า คาห์โล ศิลปินชาวเม็กซิกัน
"พวกเขาคิดว่าฉันเป็นเซอเรียลลิสท์ แต่ฉันไม่ใช่ ฉันไม่เคยวาดความฝัน ฉันวาดความจริงของฉันเอง"
"They thought I was a Surrealist, but I wasn't, I painted my own reality."
ภาพวาดตนเองใส่สร้อยคอหนามและนกผึ้ง กับลิงและแมว โดย ฟรีด้า คาห์โล
Frida Kahlo,
Self-portrait with Thorn Necklace and Hummingbird, Nikolas Muray Collection, Harry Ransom Center, The University of Texas at Austin
ฟรีด้า คาห์โลเกิดที่เม็กซิโกซิตี้ในวันที่ 6 กรกฎาคม 1907 และสิ้นชีวิตในวันที่ 13 กรกฎาคม 1954 เมื่ออายุ 47
ชีวิตเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทางร่างกายนับแต่อายุหกขวบด้วยโรคโปลิโอ
ขาขวาลีบเล็กถูกซ่อนไว้ภายใต้กระโปรงยาวที่มีสีสันสดใส
ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่ออายุสิบแปด รถโดยสารที่เธอนั่งชนกับรถรางอย่างแรง
ฟรีด้าบาดเจ็บสาหัส
กระดูกสันหลัง ไหปลาร้าและกระดูกเชิงกรานหัก
กระดูกขาขวาแตกร้าว เท้าถูกบดขยี้ ไหล่หลุด
อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้เธอต้องผ่าตัดใส่เหล็กดามและเข้าเฝือกทั้งตัว ต้องอยุ่โรงพยาบาลถึงสามเดือน
เธอฝึกเดินและเผชิญความเจ็บปวดตลอดมา
ฟรีด้าเข้าผ่าตัดถึงสามสิบห้าครั้ง
อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ต้องเลิกเรียนหมอ และเริ่มอาชีพจิตรกร
"เมื่อฉันออกจากโรงพยาบาลสองเดือนนับจากนี้ มีสามสิ่งที่ฉันอยากทำ วาด วาด วาด"
"When I left the hospital two months from now, what I want to do: paint, paint, paint."
|
Frida Kahlo, The Accident, 1926, Pencil on paper, 7.8" x
10.6", Collection of Juan Coronel, Cuernavaca, Mexico.
ภาพ"อุบัติเหตุ" โดย ฟรีด้า คาห์โล ค.ศ. 1926 ดินสอบนกระดาษ | | |
|
"ฉันไม่ได้ป่วย ฉันแค่แตกหัก ฉันมึความสุขที่ยังมีชีวิตตราบฉันยังสามารถวาดภาพได้"
"I am not sick, I am broken. But I am happy to be alive as long as I can paint."
"ฉันวาดภาพตัวเองเพราะส่วนใหญ่แล้วฉันอยู่คนเดียว เพราะฉันรู้จักตัวเองดีที่สุด"
"I paint myself because I am so often alone and because I am the subject I know best."
"เท้า ฉันจะต้องการมันไปทำไม ถ้าฉันมีปีกไว้บิน"
"Feet, what do I need them for if I have wings to fly."
เธอพบ ดิเอโก ริเวร่า ศิลปินชื่อดังแห่งเม็กซิโก
เขาแต่งงานมาแล้วสองหนและมีอายุมากกว่าเธอยี่สิบปี
ทั้งสองแต่งงานกันในปี 1929 ฟรีด้าอายุยี่สิบสอง
ชีวิตสมรสลุ่ม ๆ ดอน ๆ นับแต่ทั้งสองแต่งงานกัน
เธอเป็น "ตัวเล็ก" ของเขา และเขาเป็น "เจ้าชายกบ" ของเธอ
ฟรีด้า และ ดิเอโก / Frida & Diago
"ทำไมฉันถึงเรียกเขาว่า มร.ดิเอโกน่ะหรือ ก็เพราะเขาไม่เคยและไม่มีวันเป็นของฉัน เขาเป็นของตัวเอง"
"Why do I call him Mr.Diego? He will never was nor ever will be mine. He belongs to himself."
ในปี 1938 เมื่อฟรีด้าอายุได้สามสิบเอ็ด ดีเอโก้ได้รับการว่าจ้างให้ไปวาดจิตรกรรมฝาผนังในสหรัฐอเมริกา
ทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน
สีปีผ่านไป ดิเอโก้ยังมีความสุขดีแต่ฟรีด้าคิดถึงบ้านและรู้สึกย่ำแย่
เกิดภาพวาดตนเองบนเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐ
|
Frida Kahlo, Self-portrait on the Borderline Between Mexico and
the United States, 1932, Oil on metal, 12 1/2" x 13 3/4", Collection
of Mr. and Mrs. Manuel Reyero
|
เดือนตุลาคม 1938 ฟรีด้าได้แสดงงานเดี่ยวของเธอในนิวยอร์ค
มร. กู๊ดเยียร์ ประธานพิพิธภัณฑ์แห่งศิลปะสมัยใหม่ต้องการซื้อภาพวาด"ฟูแลงแชงและฉัน" (Fulang-Chang and I) ฟูแลงแชงเป็นชื่อลิงของเธอ
แต่ภาพนั้นมีคนจองไว้แล้ว
เขาจึงว่าจ้างให้วาดภาพที่คล้ายคลึง
อาทิตย์ต่อมา ภาพ "ตัวเองกับลิง" ก็เสร็จสิ้น
|
Frida Kahlo, Self-portrait With Monkeyม 1938
|
Frida Kahlo, The Suicide of Dorothy Hale, 1939, Oil on masonite, 60.4 × 48.6 cm. – The Phoenix Art Museum, Phoenix, Arizona, US
ปี 1939 เธอวาดภาพ"การฆ่าตัวตายของโดโรธี เฮล"ที่ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตึก
ปี 1939 ฟรีด้าและดิเอโก้หย่าขาดจากกัน
เกิดภาพวาด "สองฟรีด้า" (The Two Fridas)
|
Frida Kahlo, The Two Fridas, 1939, Oil on canvas, 67" x
67", Collection of the Museo de Arte Moderno, Mexico City | | |
|
|
|
|
"ฉันพบอุบัติเหตุรุนแรงสองครั้งในชีวิต ครั้งแรกเมื่อรถที่ฉันนั่งถูกรถรางชน อุบัติเหตุครั้งที่สองคือดิเอโก้"
"I had two grave accidents in my life, one in which a street car knocked me down, the other is Diago."
หลังจากหย่าร้างกันได้เพียงปีเดียว ทั้งสองก็คืนดีและอยู่ด้วยกันจนเธอตายจากไป
แต่ชีวิตสมรสมีปัญหาตลอดมา ดิเอโก้เป็นชายเจ้าชู้ และฟรีด้าเองก็มีสัมพันธ์กับทรอทสกี้
คอมมิวนิสท์ที่ถูกเนรเทศออกจากรัสเซียมาพร้อมภรรยา
ในปีเดียวกันนั้น เธอได้รับคำเชิญไปแสดงภาพที่ปารีส ฝรั่งเศส
พิพิธภัณฑ์ลูว์ฟได้ซื้อภาพ "เดอะ เฟรม" (The Frame)
เธอจึงเป็นศิลปินเม็กซิกันแห่งศควรรษที่ยี่สิบคนแรกที่งานของเธอได้ขายให้แก่พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของโลก
เธอวาดภาพทั้งหมด 143 ภาพ เป็นภาพวาดตัวเอง 55 ภาพกับสัญลักษณ์แทนความเจ็บปวดทางกายและทางใจที่เกิดขึ้นในชีวิต
"ฉันไม่เคยวาดความฝัน ฉันวาดความจริงของฉันเอง"
ช่วงสุดท้ายของชีวิต ฟรีด้าอยู่กับความเจ็บปวดอย่างยิ่งยวด ขาขวาถูกตัดออกถึงเข่าเพราะบาดทะยัก
เธออ่อนแอเปราะบางด้วยโรคปอดอักเสบ
สองสามวันก่อนสิ้นชีวิต เธอเขียนไว้ในสมุดบันทึกว่า
"ฉันหวังว่าทางออกจะรื่นรมย์ และฉันหวังว่าจะไม่กลับมาอีก"
(I hope the exit is joyful and I hope never to return. Frida)
เธอสิ้นใจในวันที่ 13 กรกฎาคม 1954
ต่อมา ดิเอโก้เขียนไว้ในบันทึกประวัติขีวิตว่า
วันที่เธอตายเป็นวันที่เศร้าที่สุดในชีวิตของเขา
และ
เขาได้ตระหนักว่า ส่วนมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตของเขาคือความรักที่มีต่อเธอ
บ้านสีฟ้าหรือ The Blue House บ้านพักอาศัยของเธอตั้งแต่เกิดจนตาย
ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์สถานเพื่อแสดงภาพวาดและงานศิลป์อื่น ๆ ของเธอ
ภาพวาดตนเองในชุดกำมะหยี่ในปี 1926 อายุสิบเก้า
Self-portrait in a velvet dress: Frida Kahlo, 1926
References;
http://en.wikipedia.org/wiki/Frida_Kahlo
http://www.pbs.org/weta/fridakahlo/index.html