Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


20.3.56

ขณะหนึ่งในความสันโดษ / In My Solitude



ขณะหนึ่งในความสันโดษ
แว่วท่วงทำนองของเพลงบางเพลง
ฮึมฮัมเนื้อร้องไม่ปะติดปะต่อ
จดจ่ออยู่กับบางการจดจำ
ตัวโน้ตรายเรียงครบครัน
แต่บางถ้อยคำ
ขาดหาย


เพลง
ยังคงเป็นเพลง
บรรเลงแทรกความเงียบงันท่ามกลางความสันโดษอันนุ่มนวล


นานเกินไปไหมที่ไม่ได้ยินเสียงหัวใจตนเอง
นานเท่าไรที่ไม่ได้รู้สึกรู้สมลมหายใจเข้าออก
วันช่างรีบลน คนช่างเร่งร้อน
เมืองช่างสับสน 
จิตคนหวั่นไหว
 ไฉนเลยจะได้ยินเพลงตน
แม้เพียงขณะหนึ่งแห่งช่วงเวลา


ความสันโดษที่มาถึงจึงเสมือนโอกาสสะท้อนภาพตน
พินิจเหตุการณ์ผันผ่าน หายใจเข้าออก
ขณะรับรู้ว่า หัวใจเต้นไปช้า ๆ
และสม่ำเสมอ


วางถ้อยคำลงบนเพลงตน
ไม่มีถ้อยคำใดขาดหาย
เปี่ยมด้วยความหมายอยู่ในท่วงทำนอง
ณ ขณะหนึ่งแห่งความสันโดษแสนอ่อนโยน






*




12.3.56

ฟรีด้า คาห์โล / Frida Kahlo

ฟรีด้า คาห์โล ศิลปินชาวเม็กซิกัน

"พวกเขาคิดว่าฉันเป็นเซอเรียลลิสท์ แต่ฉันไม่ใช่ ฉันไม่เคยวาดความฝัน ฉันวาดความจริงของฉันเอง"
"They thought I was a Surrealist, but I wasn't, I painted my own reality."


ภาพวาดตนเองใส่สร้อยคอหนามและนกผึ้ง กับลิงและแมว โดย ฟรีด้า คาห์โล
Frida Kahlo, Self-portrait with Thorn Necklace and Hummingbird, Nikolas Muray Collection, Harry Ransom Center, The University of Texas at Austin


ฟรีด้า คาห์โลเกิดที่เม็กซิโกซิตี้ในวันที่ 6 กรกฎาคม 1907 และสิ้นชีวิตในวันที่ 13 กรกฎาคม 1954 เมื่ออายุ 47
ชีวิตเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทางร่างกายนับแต่อายุหกขวบด้วยโรคโปลิโอ
ขาขวาลีบเล็กถูกซ่อนไว้ภายใต้กระโปรงยาวที่มีสีสันสดใส

 ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่ออายุสิบแปด รถโดยสารที่เธอนั่งชนกับรถรางอย่างแรง
ฟรีด้าบาดเจ็บสาหัส
กระดูกสันหลัง ไหปลาร้าและกระดูกเชิงกรานหัก 
กระดูกขาขวาแตกร้าว เท้าถูกบดขยี้ ไหล่หลุด
อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้เธอต้องผ่าตัดใส่เหล็กดามและเข้าเฝือกทั้งตัว ต้องอยุ่โรงพยาบาลถึงสามเดือน
เธอฝึกเดินและเผชิญความเจ็บปวดตลอดมา
ฟรีด้าเข้าผ่าตัดถึงสามสิบห้าครั้ง
อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ต้องเลิกเรียนหมอ และเริ่มอาชีพจิตรกร

"เมื่อฉันออกจากโรงพยาบาลสองเดือนนับจากนี้ มีสามสิ่งที่ฉันอยากทำ วาด วาด วาด"
"When I left the hospital two months from now, what I want to do: paint, paint, paint."


Frida Kahlo, The Accident, 1926, Pencil on paper, 7.8" x 10.6", Collection of Juan Coronel, Cuernavaca, Mexico.
ภาพ"อุบัติเหตุ" โดย ฟรีด้า คาห์โล ค.ศ. 1926 ดินสอบนกระดาษ


"ฉันไม่ได้ป่วย ฉันแค่แตกหัก ฉันมึความสุขที่ยังมีชีวิตตราบฉันยังสามารถวาดภาพได้"
"I am not sick, I am broken. But I am happy to be alive as long as I can paint."

"ฉันวาดภาพตัวเองเพราะส่วนใหญ่แล้วฉันอยู่คนเดียว เพราะฉันรู้จักตัวเองดีที่สุด"
"I paint myself because I am so often alone and because I am the subject I know best."

"เท้า ฉันจะต้องการมันไปทำไม ถ้าฉันมีปีกไว้บิน"
"Feet, what do I need them for if I have wings to fly."


เธอพบ ดิเอโก ริเวร่า ศิลปินชื่อดังแห่งเม็กซิโก
เขาแต่งงานมาแล้วสองหนและมีอายุมากกว่าเธอยี่สิบปี
ทั้งสองแต่งงานกันในปี 1929 ฟรีด้าอายุยี่สิบสอง
ชีวิตสมรสลุ่ม ๆ ดอน ๆ นับแต่ทั้งสองแต่งงานกัน
เธอเป็น "ตัวเล็ก" ของเขา และเขาเป็น "เจ้าชายกบ" ของเธอ


ฟรีด้า และ ดิเอโก / Frida & Diago

"ทำไมฉันถึงเรียกเขาว่า มร.ดิเอโกน่ะหรือ ก็เพราะเขาไม่เคยและไม่มีวันเป็นของฉัน เขาเป็นของตัวเอง"
"Why do I call him Mr.Diego? He will never was nor ever will be mine. He belongs to himself."


ในปี 1938 เมื่อฟรีด้าอายุได้สามสิบเอ็ด ดีเอโก้ได้รับการว่าจ้างให้ไปวาดจิตรกรรมฝาผนังในสหรัฐอเมริกา
ทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน
สีปีผ่านไป ดิเอโก้ยังมีความสุขดีแต่ฟรีด้าคิดถึงบ้านและรู้สึกย่ำแย่
เกิดภาพวาดตนเองบนเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐ


Frida Kahlo, Self-portrait on the Borderline Between Mexico and the United States, 1932, Oil on metal, 12 1/2" x 13 3/4", Collection of Mr. and Mrs. Manuel Reyero

เดือนตุลาคม 1938 ฟรีด้าได้แสดงงานเดี่ยวของเธอในนิวยอร์ค
มร. กู๊ดเยียร์ ประธานพิพิธภัณฑ์แห่งศิลปะสมัยใหม่ต้องการซื้อภาพวาด"ฟูแลงแชงและฉัน" (Fulang-Chang and I) ฟูแลงแชงเป็นชื่อลิงของเธอ
แต่ภาพนั้นมีคนจองไว้แล้ว
เขาจึงว่าจ้างให้วาดภาพที่คล้ายคลึง
อาทิตย์ต่อมา ภาพ "ตัวเองกับลิง" ก็เสร็จสิ้น


Frida Kahlo, Self-portrait With Monkeyม 1938


Frida Kahlo, The Suicide of Dorothy Hale, 1939, Oil on masonite, 60.4 × 48.6 cm. – The Phoenix Art Museum, Phoenix, Arizona, US
ปี 1939 เธอวาดภาพ"การฆ่าตัวตายของโดโรธี เฮล"ที่ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตึก


ปี 1939 ฟรีด้าและดิเอโก้หย่าขาดจากกัน
เกิดภาพวาด "สองฟรีด้า" (The Two Fridas)

Frida Kahlo, The Two Fridas, 1939, Oil on canvas, 67" x 67", Collection of the Museo de Arte Moderno, Mexico City


"ฉันพบอุบัติเหตุรุนแรงสองครั้งในชีวิต ครั้งแรกเมื่อรถที่ฉันนั่งถูกรถรางชน อุบัติเหตุครั้งที่สองคือดิเอโก้"
"I had two grave accidents in my life, one in which a street car knocked me down, the other is Diago."

หลังจากหย่าร้างกันได้เพียงปีเดียว ทั้งสองก็คืนดีและอยู่ด้วยกันจนเธอตายจากไป
แต่ชีวิตสมรสมีปัญหาตลอดมา ดิเอโก้เป็นชายเจ้าชู้ และฟรีด้าเองก็มีสัมพันธ์กับทรอทสกี้
คอมมิวนิสท์ที่ถูกเนรเทศออกจากรัสเซียมาพร้อมภรรยา

ในปีเดียวกันนั้น เธอได้รับคำเชิญไปแสดงภาพที่ปารีส ฝรั่งเศส
พิพิธภัณฑ์ลูว์ฟได้ซื้อภาพ "เดอะ เฟรม" (The Frame)
เธอจึงเป็นศิลปินเม็กซิกันแห่งศควรรษที่ยี่สิบคนแรกที่งานของเธอได้ขายให้แก่พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของโลก 

เธอวาดภาพทั้งหมด 143 ภาพ เป็นภาพวาดตัวเอง 55 ภาพกับสัญลักษณ์แทนความเจ็บปวดทางกายและทางใจที่เกิดขึ้นในชีวิต
"ฉันไม่เคยวาดความฝัน ฉันวาดความจริงของฉันเอง"


ช่วงสุดท้ายของชีวิต ฟรีด้าอยู่กับความเจ็บปวดอย่างยิ่งยวด ขาขวาถูกตัดออกถึงเข่าเพราะบาดทะยัก
เธออ่อนแอเปราะบางด้วยโรคปอดอักเสบ
 สองสามวันก่อนสิ้นชีวิต เธอเขียนไว้ในสมุดบันทึกว่า
"ฉันหวังว่าทางออกจะรื่นรมย์ และฉันหวังว่าจะไม่กลับมาอีก"
(I hope the exit is joyful and I hope never to return. Frida)

เธอสิ้นใจในวันที่ 13 กรกฎาคม 1954

ต่อมา ดิเอโก้เขียนไว้ในบันทึกประวัติขีวิตว่า
วันที่เธอตายเป็นวันที่เศร้าที่สุดในชีวิตของเขา
และ
เขาได้ตระหนักว่า ส่วนมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตของเขาคือความรักที่มีต่อเธอ

บ้านสีฟ้าหรือ The Blue House บ้านพักอาศัยของเธอตั้งแต่เกิดจนตาย
ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์สถานเพื่อแสดงภาพวาดและงานศิลป์อื่น ๆ ของเธอ





ภาพวาดตนเองในชุดกำมะหยี่ในปี 1926 อายุสิบเก้า
Self-portrait in a velvet dress: Frida Kahlo, 1926



References; http://en.wikipedia.org/wiki/Frida_Kahlo

http://www.pbs.org/weta/fridakahlo/index.html

2.3.56

พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว / Here Comes The Sun


First light February: Bangkok, Thailand

 หลับใหลอยู่ในความมืด
ประหนึ่งดักแด้ขดตัวแน่นิ่งอยู่ในรังที่ทำจากเส้นไหมสีดำ

ตื่นมาพบความมืด
เคยคุ้นละอองไอโอบอุ้มนุ่มนวลมวลอากาศ
วาดจินตภาพวันใหม่ บนฉากหลังน้ำเงินดำแห่งรัตติกาล
 
สดับเสียงนกเช้า
คละเคล้าบรรเลงเพลงแตกต่างตามสายพันธุ์


ณ ที่โล่ง
ราตรีวางกลิ่นกรุ่นดั่งเครื่องหอมบรรณาการดวงตะวัน
เช่นเดียวกันกับราชาวดีและมะลิซ้อน

เงยหน้ารอแสงแรกปรากฏต่อสายตา
สัมผัสทุกสรรพสิ่ง ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิตอย่างเท่าเทียม

ไมว่าคนสุขหรือคนทุกข์
 คนร้อนหรือคนหนาว
แสงตะวันออก บ่งบอกการเริ่มต้นของวันใหม่
ให้แสงสว่างเท่ากันบนพื้นที่เดียวกัน

ท้องฟ้าสีกุหลาบ
อาบแสงอุ่น
บางครั้งแตะต้องหยดน้ำตา
บางครั้งแตะต้องใบหน้าที่กำลังยิ้ม
เสมอกัน
เดินออกมาสู่แสงแรก
แสงแดดที่อบอุ่น
แสงสว่าง
ที่แม้ไม่เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง
กระนั้น เป็นของทุกคน












*