(โดย คุณใหม่)
หลังผ่านหลายชั่วคืนอันอุตสาหะ
ท่ามกลางความสงบวิเวกแสนสันโดษ
ชายช่างทำรองเท้านั่งประดิษฐ์ประดอยงานฝีมือชิ้นเยี่ยมของเขา
กลางแสงจันทราและลมหนาว
จากค่ำจันทร์อิ่มดวงถึงคืนดาวพร่างพร้อย
งานที่สวยงามจากใจสวยงามและมุ่งหวังสู่คืนวันที่สวยงาม
ก็สำเร็จลงเมื่อกลุ่มดาวไถเคลื่อนคล้อย
กลุ่มลูกไก่กรูเกรียวไล่จับกันไปลับฟ้า
และแก่ก่ำดั่งโกเมนเอกแห่งดาวพระอังคารโชนดวงขึ้นสูง
เขาหลับไปอย่างเป็นสุข . . .
เพียงส่วนเสี้ยวนาฑีเดียว ก่อนที่ดาวปาริชาติจะชิงดวงดาวพระอังคาร !!
~~~
อรุโณทัยพรายพร่างห่มผืนดินเหมันตฤดู
อย่างยิ้มแย้ม ... ช่างทำรองเท้านำรองเท้าไปผึ่งในแสงแรกบนรั้วไม้
เสียงไอโขลก ๆ จากแม่ผู้ชราดังมาจากในบ้าน
เขาผละไปดูแลแม่ผู้เป็นเพียงดวงประทีปเดียวแห่งชีวิต
"สวัสดีช่างทำรองเท้า"
ชายอ้วนลอดประตูเข้ามาพร้อมเสียงทักทาย
"รองเท้าข้างนอกนั้นโปรดขายแก่ฉันผู้เป็นเจ้าของร้านเครื่องหนังโตใหญ่
และเป็นตัวแทนแห่งเจ้าหญิง
ซึ่งไม่อาจหารองเท้าถูกใจเพื่อสวมใส่ไปงานเต้นรำประจำปีได้
แม้ได้ค้นแล้วจากร้านรองเท้าทั่วแว่นแคว้น
ทรงเกรี้ยวกราดช่างรองเท้าประจำราชสำนักและข้าราชบริพารมาหลายเพลาแล้ว
หวังว่าท่านคงเข้าใจ"
"ฉันมิอาจขายให้ท่านได้
นี่เป็นรองเท้าเพื่อหญิงสาวของฉัน
หญิงสาวผู้เป็นที่รักยิ่งของฉัน
ท่านโปรดเข้าใจ"
"งานเลี้ยงจะเริ่มในอีกเพียงไม่กี่ราตรี
และไม่เคยมีใครขัดพระทัยเจ้าหญิงได้
ฉันจะกลับมาที่นี่อีก
... ท่านเอง น่าจะเข้าใจ"
~~~~
.
... ชายเจ้าของร้านเครื่องหนังกลับมาอีก
มาพร้อมคำบัญชาแห่งเจ้าหญิง
สนธยากาลคลี่คลุมอย่างเศร้าสร้อย
จันทร์ดับ
หมู่ดาวทั้งปวงก็เร้นแสงราวจะพ่ายเงื้อมเงารังสีของดาวมฤตยูจนหมดสิ้น
มืดมนอนธกาลไปหมดทั้งบ้านน้อยและหัวใจ
3.
รองเท้าถูกนำกลับไปแล้ว
รองเท้าที่ตัดตามรูปขนาดเท้าของหญิงคนรัก
รองเท้าคู่สวยที่สุดในเมืองเล็กๆแห่งนี้
ชายอ้วนมอบเงินก้อนโตให้ช่างทำรองเท้า
"อย่าคิดมาก แม่ท่านป่วยเรื้อรังหนักหนา โปรดใช้เงินนี้พาไปรักษาตัว
...และฉันมีเสื้อคลุมสวยงามตัวหนึ่งอยู่ที่ร้าน
ขอมอบให้ท่านเป็นสินน้ำใจ
เพื่อท่านจะได้ผ่านฤดูหนาวแสนเยียบเย็นนี้ไปได้อย่างเป็นสุข"
"นั่นเป็นรองเท้าเพื่อหญิงสาวของฉัน
หญิงสาวผู้เป็นครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณฉัน
ซึ่งพวกท่านไม่อาจเข้าใจ"
... รองเท้าได้ถูกนำกลับไปแล้วพร้อมทั้งหัวใจของเขา
"ลูกรักหายไปไหนมา" แม่เฒ่าผู้ชราถาม
"ฉันไปเช่าเกวียนมา จะพาแม่ไปหาหมอ"
หญิงชราชี้ไปยังเสื้อคลุมตัวหนึ่ง
"คงมีใครมาหาเจ้าตอนที่แม่ยังหลับอยู่แล้วไม่กล้าปลุก
จึงวางเสื้อคลุมไว้บนที่นอนของเจ้า
พร้อมกับดอกไม้
ช่างเป็นเสื้อคลุมที่สวยงามเสียจริง
ใครคนนั้นคงนำเสื้อมามอบให้เจ้าแต่ไม่พบ"
"เจ้าหมูอ้วนสกปรก ! ข้าไม่ต้องการของของเจ้า !!"
ช่างทำรองเท้ามองเสื้อแล้วร้อง
ความโศกเศร้าพลิกกลายเป็นโทสะ
เขากรีดเสื้อเป็นทางยาวด้วยใบมีด
แล้วขยำไปขว้างทิ้งใส่เขรอะโคลนหน้าบ้าน
คล้ายหัวใจเองก็โดนเชือดเช่นกัน
บ่ายจัด ในท่ามฝุ่นควันคละคลุ้ง
ที่คล้ายรอยเกวียนตะกุยทิ้งไว้ด้วยขุ่นมัว
หญิงเย็บผ้านั่งกอดเสื้อคลุมขาดและเปื้อนโคลนไว้แน่นอก
ร่ำไห้
หัวใจแตกสลาย
*