In the garden by JintaAksorn
ในสายแดดเขาเห็นเป็นแสงหมอก
จากข้างนอกเข้าใจในหลายสิ่ง
รู้อ่อนแอเขลาขลาดประหลาดจริง
กี่อ้างอิงเท่าทันฉันข้างใน
ท่ามอวลอุ่นที่แท้แย่หนาวเหน็บ
พบป่วยเจ็บมรณาน้ำตาไหล
ไม่ผิวเผินเห็นซึ้งถึงแก่นใจ
ละมุนละไมอยู่บนโลกที่โศกราน
มาจากดาวดวงใด
ดาวดอกไม้อ่อนอวลมวลหอมหวาน
ดาวต้นไม้ เทียนไข ดาวสายธาร
ดาวเจือจาน ภูเขา ดาวกุญแจ
อาจมาจากดาวดวงเดียวกัน
ดวงที่ฝันพักพิงในจริงแท้
มั่นคงอยู่ในท่ามความปรวนแปร
พ่ายแพ้คือยิ่งใหญ่ ในยินยอม
ลมอ่อนโยนกลีบดอกไม้จึงบอบบาง
น้ำค้างพร่างพรมเบาเจ้าสวยหอม
แดดอุ่นอุ่นฝนอ่อนอ่อนรู้ออมชอม
ทนุถนอมจึงคลี่บานอยู่นานเนาว์
ในสายหมอกเขาเห็นเป็นแสงแดด
ในแสงแดดกลับเห็นว่าเร้นเศร้า
คว้าสีทองแตะแต้มแซมสีเทา
นำแสงเช้ามาวางลงตรงประตู
โดย ลมตะวันตก
หอมดอกโมกอวลละไมใต้แดดเช้า
ขาวกลีบแก้วแตะเท้าแต้มเงาแสง
หมื่นดอกไม้พ่ายราบกุหลาบแปลง
ท่ามสันโดษเร้นแฝงคล้ายแกล้งลม
ในอ้อมกอดสีเขียวเรียวใบไม้
สายลมไหวไล้ลูบจูบปลายผม
ตะวันตกหิมะขาวเช้าหมอกพรม
โชยมาดมห่มอุ่นกรุ่นบุษบา
เรามาจากดาวดวงนั้น
ที่ความจริงพิงฝันใช่ปัญหา
มีกุญแจไขรหัสวัดปัญญา
เมื่อผ่านมาจะไม่ปล่อยให้รอยเลือน
บนดาวดวงนี้
น้อยเรามีความต่างมากความเหมือน
จิตสำนึกตอกย้ำนี่รังเรือน
ผ่านปีเดือนเสาะหามานานยาว
เปิดประตูเถิดภิรมย์ชมแสงเช้า
ใต้ร่มเงาตะเบบูญ่าต้นหน้าหนาว
ไม่นานผลัดไบพรูร่วงกรูกราว
และไม่ช้าชมพูพราวราวนิทาน
เปิดประตูปัจจุบันวันนี้เถิด
มาก่อเกิดเรื่องราวไว้เล่าขาน
พันละอองรัศมีนี้ซมซาน
มาผลิบานดอกแสงเช้า เฝ้าประตู
จากข้างนอกเข้าใจในหลายสิ่ง
รู้อ่อนแอเขลาขลาดประหลาดจริง
กี่อ้างอิงเท่าทันฉันข้างใน
ท่ามอวลอุ่นที่แท้แย่หนาวเหน็บ
พบป่วยเจ็บมรณาน้ำตาไหล
ไม่ผิวเผินเห็นซึ้งถึงแก่นใจ
ละมุนละไมอยู่บนโลกที่โศกราน
มาจากดาวดวงใด
ดาวดอกไม้อ่อนอวลมวลหอมหวาน
ดาวต้นไม้ เทียนไข ดาวสายธาร
ดาวเจือจาน ภูเขา ดาวกุญแจ
อาจมาจากดาวดวงเดียวกัน
ดวงที่ฝันพักพิงในจริงแท้
มั่นคงอยู่ในท่ามความปรวนแปร
พ่ายแพ้คือยิ่งใหญ่ ในยินยอม
ลมอ่อนโยนกลีบดอกไม้จึงบอบบาง
น้ำค้างพร่างพรมเบาเจ้าสวยหอม
แดดอุ่นอุ่นฝนอ่อนอ่อนรู้ออมชอม
ทนุถนอมจึงคลี่บานอยู่นานเนาว์
ในสายหมอกเขาเห็นเป็นแสงแดด
ในแสงแดดกลับเห็นว่าเร้นเศร้า
คว้าสีทองแตะแต้มแซมสีเทา
นำแสงเช้ามาวางลงตรงประตู
โดย ลมตะวันตก
หอมดอกโมกอวลละไมใต้แดดเช้า
ขาวกลีบแก้วแตะเท้าแต้มเงาแสง
หมื่นดอกไม้พ่ายราบกุหลาบแปลง
ท่ามสันโดษเร้นแฝงคล้ายแกล้งลม
ในอ้อมกอดสีเขียวเรียวใบไม้
สายลมไหวไล้ลูบจูบปลายผม
ตะวันตกหิมะขาวเช้าหมอกพรม
โชยมาดมห่มอุ่นกรุ่นบุษบา
เรามาจากดาวดวงนั้น
ที่ความจริงพิงฝันใช่ปัญหา
มีกุญแจไขรหัสวัดปัญญา
เมื่อผ่านมาจะไม่ปล่อยให้รอยเลือน
บนดาวดวงนี้
น้อยเรามีความต่างมากความเหมือน
จิตสำนึกตอกย้ำนี่รังเรือน
ผ่านปีเดือนเสาะหามานานยาว
เปิดประตูเถิดภิรมย์ชมแสงเช้า
ใต้ร่มเงาตะเบบูญ่าต้นหน้าหนาว
ไม่นานผลัดไบพรูร่วงกรูกราว
และไม่ช้าชมพูพราวราวนิทาน
เปิดประตูปัจจุบันวันนี้เถิด
มาก่อเกิดเรื่องราวไว้เล่าขาน
พันละอองรัศมีนี้ซมซาน
มาผลิบานดอกแสงเช้า เฝ้าประตู
-
อ่านทีไรก็มีความสุขทุกครั้งเลยค่ะจัส
ตอบลบติดใจจังหวะบองบทกวีเวลาอ่านค่ะ
ตอบลบชื่นชมที่จัสถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นบทกวี
มีมิติของเธอ ของเขา และสิ่งที่มีระหว่างกัน
คนสองคนที่ชื่นชมกันและกันอย่างแท้จริง
minmintra
ขอบคุณสำหรับคำชม ฦึกฝนอย่างเดียวเลยค่ะ กว่าจังหวะจะลงตัว นานเป็นปี
ตอบลบแต่...
ชอบประโยคสุดท้ายที่สุดเลย
มันสำคัญ
"ความชื่นชมในกันและกันอย่างแท้จริง"
ทำให้ให้เกียรติกัน
ขอบคุณมินมากค่ะ
ค่ะ กับมิน สำคัญมาก
ตอบลบแต่สิ่งที่อาจตามมาเป็นสิ่งสำคัญกว่า
อาจสำคัญสุด
^^
MinMintra
อ่านบทกวีเขียนร่วมของเวสต์วินด์
ตอบลบเลยแวะมาเยี่ยมยามบ่อยๆ
ยามเฝ้าประตูที่เป็นดอกแสงเช้า
แดดเช้าสวยๆ
ไม่เห็นกับตาไม่เชื่อนะคะ
ความรักทำให้ข้าพเจ้าเขียนบทกวี
เข้าใจแล้ว
^^
ดอกแสงเช้า
ตอบลบตื่น
สาย
เป็นยามไม่ได้หรอกค่ะ
^^
เป็นยามไม่ได้เพราะตื่นสาย ฮ่าๆๆ
ตอบลบหาแว่นดำ แว่นดำอยู่หนาย
บทกวีสองบทนี้ทำให้ศศิสดชื่นรื่นเริงมาก
ไม่พูดเล่น
ไม่ยักเถึยง
ตอบลบ^^
Minmintra
มินคะ
ตอบลบเพราะเถึยงไม่ออกไง
เพราะจริง
^^
*