เลือนรางจางหายในสายหมอก
ระลอกอากาศพรากฝนหนาว
ใต้ฝนทิ้งฝนที่หล่นกราว
ให้ร่วงพราวใบไม้ได้ต้องตัว
อุ้มน้ำช้ำชอกกลีบดอกไม้
ก้านใบเปียกปอนอ่อนแสงสลัว
ฤดูหล่นฝนมากฟากหม่นมัว
ฟ้าแผดแสงกลัวหลายชั่วครั้ง
ข้ามฟ้าลาไกลไปลิบลิบ
กระซิบคำถ้อย...ร้อยฝากฝัง
น้ำมากหากดินอย่าสิ้นพลัง
เมฆบังตะวันนั้นยังคง
ดอกไม้โชกฝนเมื่อหนก่อน
แสงร้อนสาดส่องพลันล่องผง
เกสรร่อนคล้อยลอยมาลง
ถิ่นเหมาะเจาะจงที่ตรงใจ
เช่นกันฝันใฝ่อย่าได้หมด
เช่นกันจารจดบทสมัย
เช่นอณูเกสรที่ว่อนไกล
เช่นหทัยโบยบินไม่สิ้นทาง
ท่ามกลางพร่างฤดูใบไม้ร่วง
แสงสรวงดวงฟ้ามาหลังสาง
ใบไม้เปลี่ยนสีตามปีวาง
แต่ลำต้นสีไม่จางยังเหมือนเดิม
________________
จัสส่งบทกวีมาจากมิวนิค
ภาพจากลอนดอนค่ะ
ศศิ
มีส่วนที่เปลี่ยนแปลง และสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไป
ตอบลบสำคัญที่อะไรเปลี่ยน อะไรไม่เปลี่ยน
งานหลายชิ้นยิ่งอ่านยิ่งคิด
ยิ่งคิดยิ่งพบ
สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปของจัส
พึงใจ ^^
งานเขียนพี่จัสมีต้นไม้งอกออกมาเสมอ
ตอบลบ^^
เห็นแต่ลายอักษร
คิดถึงเจ้าของหมึกดอกไม้แล้ว
T T
พี่จัสชักเห็นต้นไม้อ่อนงอกออกมาแล้วค่ะจันทร์
ตอบลบดินในยุโรปจะเป็นสีดำ ร่วนซุย สะอาด
ใบไม้ร่วงเหล่านี้ เป็นปุ่ยและที่กำบังที่ดี
เมล็ดนอนสงบนิ่งใต้ผ้าห่มหนาใบไม้
รอเวลางอกออกมา
^^
.....