.
๒. อุ่ น แ ส ง ใ จ
วันฝนตกตะวันดับรับน้ำฟ้า
.
วันโลกล้าเหน็บหนาวทั่วหาวหน
.
วันมนุษย์ทุกข์ท้นแทบเกินทน
.
วันความจนระบาดขาดเมตตา
.
.
วันที่เห็นความชังสองฝั่งโลก
.
วันแสนโศกกลีสิงเข้าหิงสา
เสียงหัวเราะหายไปในเวลา
.
ความคลั่งบ้าเต็มเมืองเฟืองตัวแปร
.
.
วันที่เสียงร้องไห้ของเด็กเด็ก
.
เป็นเรื่องเล็กต่อหูผู้พ่อแม่
.
วันที่คนฆ่าเข่นตายเป็นแพ
.
ไม่มีใครยอมแพ้แก่ผู้ใด
.
.
จะเหลียวหาเรี่ยวแรงจากแสงจ้า
.
ช่วงเวลาอาบอายประกายใส
.
ส่องผ่านบานหน้าต่างของหัวใจ
ดึงดูดฉันให้เข้าไปเป็นแสงเงา
.
.
ณ ช่วงขณะเวลา ...
ในดวงตาอ้างว้างแสนว่างเปล่า
.
ถึงเห็นมวลหนาหนัก ... บางเบา
.
ต่างคนถาม ... ไหนล่ะเรา เฝ้ารำพึง
.
.
กระนั้น ความคิดอันถวิลหา
.
ยังเดินทางผ่านเวลา ..ฝ่าไปถึง
.
และวิหคหนึ่ง แห่งความคิดคำนึง
.
ก็เดินทางมาถึง เช่นกัน
.
.
นำความอบอุ่นของครุ่นคิด
.
หน้าต่างโลกกระจิริดลิขิตฝัน
.
มืดสว่างเดินทางผ่านสารพัน
.
มาปลอบขวัญ มาเอื้อแรง อุ่ น แ ส งใจ
.
.
ท่ามกลางสิ่งดีและที่ร้าย
.
สบผกายซึ้งซาบอาบธารใส
.
ปลุกปลอบ ยืนยัน อย่าพรึงพรั่น ต่อสิ่งใด
.
เท่านี้นะดวงใจ ที่ต้องการ
.
.
คราใด ฝนหม่น หล่นมาเยือน
..
ยังตรึงเตือน มีใคร ใจผสาน
.
คล้ายเราร้อง-เล่นดนตรี เมื่อวันวาน
.
ในโลกราน เรายังแกร่ง อุ่ น แ ส ง ใ จ
.
.
~
.
.
.
.
.
.
.
วันฝนตกตะวันดับรับน้ำฟ้า
.
วันโลกล้าเหน็บหนาวทั่วหาวหน
.
วันมนุษย์ทุกข์ท้นแทบเกินทน
.
วันความจนระบาดขาดเมตตา
.
.
วันที่เห็นความชังสองฝั่งโลก
.
วันแสนโศกกลีสิงเข้าหิงสา
เสียงหัวเราะหายไปในเวลา
.
ความคลั่งบ้าเต็มเมืองเฟืองตัวแปร
.
.
วันที่เสียงร้องไห้ของเด็กเด็ก
.
เป็นเรื่องเล็กต่อหูผู้พ่อแม่
.
วันที่คนฆ่าเข่นตายเป็นแพ
.
ไม่มีใครยอมแพ้แก่ผู้ใด
.
.
จะเหลียวหาเรี่ยวแรงจากแสงจ้า
.
ช่วงเวลาอาบอายประกายใส
.
ส่องผ่านบานหน้าต่างของหัวใจ
ดึงดูดฉันให้เข้าไปเป็นแสงเงา
.
.
ณ ช่วงขณะเวลา ...
ในดวงตาอ้างว้างแสนว่างเปล่า
.
ถึงเห็นมวลหนาหนัก ... บางเบา
.
ต่างคนถาม ... ไหนล่ะเรา เฝ้ารำพึง
.
.
กระนั้น ความคิดอันถวิลหา
.
ยังเดินทางผ่านเวลา ..ฝ่าไปถึง
.
และวิหคหนึ่ง แห่งความคิดคำนึง
.
ก็เดินทางมาถึง เช่นกัน
.
.
นำความอบอุ่นของครุ่นคิด
.
หน้าต่างโลกกระจิริดลิขิตฝัน
.
มืดสว่างเดินทางผ่านสารพัน
.
มาปลอบขวัญ มาเอื้อแรง อุ่ น แ ส งใจ
.
.
ท่ามกลางสิ่งดีและที่ร้าย
.
สบผกายซึ้งซาบอาบธารใส
.
ปลุกปลอบ ยืนยัน อย่าพรึงพรั่น ต่อสิ่งใด
.
เท่านี้นะดวงใจ ที่ต้องการ
.
.
คราใด ฝนหม่น หล่นมาเยือน
..
ยังตรึงเตือน มีใคร ใจผสาน
.
คล้ายเราร้อง-เล่นดนตรี เมื่อวันวาน
.
ในโลกราน เรายังแกร่ง อุ่ น แ ส ง ใ จ
.
.
~
.
.
.
.
.
.
.
ยืนหยัดยืดอกไม่สะทก
ตอบลบฟ้าหม่นฝนตกไม่หวั่นไหว
สหบาทามาจากแหล่งแห่งหนใด
ยืนหยัดไว้ด้วยใจที่เมามึน
มาแจมครับอิอิ หวังว่าคงไม่ไปทำลายความงามบทกวีข้างต้นมากนักนะครับ สกัดดาวรุ่งครับ เอิ๊กๆ
ดีใจที่เจอมึนแมน
ตอบลบอัดอั้นมาก มาทีโพสใหญ่เลย
มาเยี่ยมมึนแมน
และเจ้าของบ้าน
ตัวใหญ่..
เมื่อไหร่บ้านลิญจะเปลี่ยนสี
ตอบลบขอสีดำได้ไหมครับ เดี๋ยวผมจะเปลี่ยนเป็นสี 'ขาว'
:))
เขียนดีนะคะน้องมีน .. จังหวะดี :)
ตอบลบดีใจ น้องมีนมาเยี่ยมหลายกระทู้เลย
...
ตัวพองค่ะพีเจ มีนแมนมาเยี่ยม
...
ติสต์แปลว่าอะไรน่ะ ?
"เมื่อไหร่จะเปลี่ยนสี ขอเป็นสีดำ
เดี๋ยวผมจะเปลี่ยนเป็นสี'ขาว'"
ลิญงงงงงงงงงงก่ะ :(
...
มาแก้ไขให้ดีขึ้น
อีกแล้ว
..
.
ช่วยแปลให้หน่อยครับ
ตอบลบ"ความโกรธ ฝังลึกอยู่ในจิตใจของคนทุกคน
การควบคุมความโกรธแค้นไม่ได้ นั่นคือ ความอ่อนแอ
ครั้งหนึ่งเราทุกคนล้วนเคยอ่อนแอ ...
แต่ไม่มีใครบอกผมให้เข้มแข็ง และผมจะไม่บอกใครให้เข้มแข็ง
หาก ความอ่อนแอ ทำให้หลายๆอย่างมันดี จงอ่อนแอครับ
แต่หากทำให้ทุกสิ่งยิ่งเลวร้าย จงลุกขึ้นเข้มแข็ง เท่าที่คุณจะทำได้!"
Anger is rooted in the heart of us all,
ตอบลบthe incapability to control anger is weakness.
Once we're all weak,
nobody tells me to be strong
and I won't tell anybody to be strong.
If weakness can improve many things,
be weak,
but if it make things worse,
stand up and be strong
เสร็จแล้วค่ะติสต์
...
as much as you can.
เข้าใจละ
ตอบลบจัสชอบพูดว่าตัวพอง
คนอื่นพูดว่าตัวใหญ่
ฮ่าๆ
ไพเราะ ..
ตอบลบมีพลังที่อ่อนโยน
อ่านอย่างซีเรียส
อุ่น
หวาน ..
ในเนื้อ
ขอบคุณศศิ ที่ดึงขึ้นมา คิดถึงน้องมีนแมน superwin
ตอบลบดีที่วางบางถ้อยคำไว้ที่นี
นึกถึงตอนต่อบทกวีกันสด ๆ ห้าคน
:D
.
ตอนนี้ไม่ต้องแล้วเนอะคะ มีลิสท์ให้เห็น
ตอบลบอ่านแล้วศศิชอบก้ออยากให้หาง่ายๆ
ดึงขี้นมา ของพีเจก็เหมือนกัน
คนอื่นจะได้อ่านด้วย
ศศิใจดี
อิ
บทกวีเขียนร่วม ใน*อุ่นแสงใจ*
ตอบลบไหววิบพริบพรายคล้ายรกเรี้ยว
กลางดวงตาคือป่าเปลี่ยวมหาศาล
เรื้อรกดุจรอบริมหิมพานต์
โอบตระการอโนดาตพาดพฤกษ์ไพร
หลั่งไหลพลุ่งพรายนั้นสายธาร
เนิ่นนานซุกแอบกับแมกไม้
เบื้องนอกอาจดิบดำอันตราย
ภายในยังหวั่นไหวเช่นสายธาร ฯ
ไหววิบพริบพรายคล้ายรกเรี้ยว
ตอบลบกลางดวงตาคือป่าเปลี่ยวมหาศาล
เรื้อรกดุจรอบริมหิมพานต์
โอบตระการอโนดาตพาดพฤกษ์ไพร
หลั่งไหลพลุ่งพรายนั้นสายธาร
เนิ่นนานซุกแอบกับแมกไม้
เบื้องนอกอาจดิบดำอันตราย
ภายในยังหวั่นไหวเช่นสายธาร ฯ
บทกวีเขียนร่วม ใน*อุ่นแสงใจ* โดยคุณ *ใหม่*