Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


21.5.55

จากบ้าน ชากัลในสหรัฐอเมริกา มาร์ค ชากัล 7 Marc Chagall 7: United States

The Three Candles: Chagall 1939-1941 


สงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้นในปี 1939 เมื่อเยอรมันเคลื่อนทัพเข้าโปแลนด์
ปี 1940 รถถังเยอรมันบุกเข้าฝรั่งเศส
ชากัลอยู่ไม่ติด ต่างจากเพื่อนๆร่วมอาชีพที่เป็นชาวฝรั่งเศส
เขาไม่คิดว่า การเข้ายึดครองครั้งนี้เป็นแนวคิดทางนามธรรม
สำหรับเขาแล้ว การทำงานต่อไปอย่างไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนดินแดนยึดครอง เสี่ยงต่อการถูกจับเข้าค่ายแห่งความตาย

เขาพาเบลล่าภรรยา เอด้าลูกสาว และภาพวาดหนีออกจากฝรั่งเศสไปที่เมืองกอร์เดส์ก่อนกองทัพเยอรมันจะมาถึง
เมื่อรัฐบาลหุ่นเชิดของฝรั่งเศสสมยอม ยื่นข้อเสนอและให้ความร่วมมือต่างๆต่อเยอรมันมากขึ้นเรื่อยๆ
ชากัลก็ตระหนักว่าอันตรายเข้ามาใกล้ตัวขึ้นทุกที
อันที่จริงเขาถูกจับกุมโดยผู้มีอำนาจ แต่เพราะทางอเมริกากดดัน เขาจึงได้รับการปล่อยตัว


ปี 1941 เขาและครอบครัวเดินทางไปยังมาเซยย์เพื่อโดยสารเรือไปนิวยอร์ค พวกเขาเดินทางถึงนิวยอร์คในวันที่ 23 มิถุนายน 1941
เพียงวันเดียวก่อนกองทัพเยอรมันใช้ยุทธการบาร์บารอสซ่าบุกเข้ารัสเซียบ้านเกิด

ที่สหรัฐฯ ชากัลพักอาศัยอยู่ในเพรสตัน คอนเนคติคัต ไม่ห่างจากตัวเมืองนิวยอร์ค
ต่อมาอีกไม่นาน ทั้งครอบครัวก็ย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง และอยู่ที่นี่ต่อมาอีกห้าปี
ปี 1942 ชากัลเดินทางไปเม็กซิโกช่วงสั้นๆ


 ในฐานะชาวยิวที่เคยอยู่ เคยทำงาน และมีความทรงจำที่ดีต่อเยอรมัน ฝรั่งเศสและรัสเซีย 
สงครามโลกครั้งที่สองส่งผลเฉพาะตัวต่อชากัลอย่างสูง

ความหดหู่ทนทุกข์สะท้อนในงานของเขา 
สีแดงปรากฎขึ้นในช่วงนี้
ภาพ เทียนสามแท่ง (The Three Candles) ในปี 1939-1941
ภาพ ฟังเสียงไก่ (Listening to The Rooster) ในปี 1944
และ ภาพงานแต่งงาน (The Wedding) ในปี 1944


 Listening to the Rooster: Chagall (1944)


The Wedding: Chagall 1944


เกิดเรื่องไม่คาดฝันที่ทำให้ชากัลเศร้าโศกอย่างหนักหนาสาหัสที่สดในปี 1944
เบลล่าเจ็บป่วยจากอาการอักเสบเพราะเชื้อไวรัสจนเสียชีวิต
ทั้งสองอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมาถึงยี่สิบเก้าปี
เธอเป็นแรงบันดาลใจ เป็นจิตวิญญาณที่การุณย์ของเขา


เบลล่าเป็นนักเขียน แม้งานของเธอไม่ได้รับการตีพิมพ์ขณะเธอยังมีชีวิตแต่หลังจากนั้น
หนังสือที่โด่งดังที่สุดคือ เดอะ เบิร์นนิ่ง ไลท์ (The Burning Lights) ที่ได้รับการตีพิมพ์ในปี 1947
เธอยังแปลหนังสือ มาย ไลฟ์ (My Life) ของชากัลเป็นภาษาฝรั่งเศสอีกด้วย

เป็นครั้งแรกตั้งแต่วัยเด็กที่ชากัลวางแปรงและขาตั้งภาพ
เขาไม่สามารถทำงานได้เกือบทั้งปีหลังความตายของเธอ


“ความเงียบของเธอเป็นของฉัน ดวงตาเธอ.. ของฉัน 
ประหนึ่งเธอรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับฉัน วัยเด็ก ปัจจุบัน อนาคต คล้ายเธอมองฉันทะลุ” 
มาร์ค ชากัลพูดถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างเขากับเบลล่า โรเซนเฟลด์ไว้ในหนังสือ “ชีวิตของฉัน” (My Life)




 *
ติดตามตอนสุดท้ายค่ะ





 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น