Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


29.12.58

กุหลาบกับบทกวี / Rose and Poetry


English Rose "Olivia"
ไม่ว่าวันคืนจะเป็นอย่างไร ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังรอคอยอยู่ในสวน

กลิ่นหอมกุหลาบอวล อ้อยสร้อยอยู่ในคล้อยลมนิ่งงัน

หอม ซึ่งฟุ้งกระจายเมื่อสายลมเปลี่ยนผัน

และหอมนั้นพลันสลายไปกับสายลมแรง




 
ซ้อนกลีบเรียงร้อยอ่อนช้อยหนอธรรมชาติ

งามพิสุทธิ์สะอาดในเงาแสง

อาจมีบ้างฤดูร้ายและเหล่าแมลง

ที่แอบแฝงเข้ามา โอ้ชะตากรรม



 

แต่ใครหรือจะทอดทิ้งความรัก

ซึ่งฉันตระหนักด้วยการดำรงอยู่ของเธอแม้ปราศจากถ้อยคำ

วันแล้ววันเล่า เราเฝ้าทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ

วันคืนน่าจดจำ 

บทกวีไร้คำในสวนคือกุหลาบ

สวนอักษรบนกระดาษคือบทกวีที่ฉันเขียน



 
แสงแดด บางครั้งแผดเผาทะลุทะลวงผ่านครีมกันแดดจนผิวแสบร้อน

แต่แสงร้อนไม่อาจทำให้วางมือ เราต่างไม่ละความเพียร

เธอ ด้วยการดำรงอยู เติบโตและออกดอก ส่วนฉัน ด้วยการเฝ้าดูแลและเฝ้าเขียน

มันคือการวนเวียนทำซ้ำที่เกิดจากความรัก 

คือการดำรงอยู่ 

คือชีวิตจิตใจ




หากใครถามฉันอีกว่า ทำไมฉันจึงเขียน

ฉันจะย้อนถามเขาว่า ทำไมกุหลาบจึงออกดอกดีไหม

เราต่างเกิดมาเพื่อทำอะไร ๆ

จิตสำนึกบอกให้วางความรักที่มีต่อบางสิ่งไว้

วางร่องรอยเอาไว้

ระหว่างการเดินทาง

 



ชีวิตและจิตวิญญาณเติบโตผ่านเราเรียนรู้

เช่นฉันเฝ้าดูกุหลาบบาน

บทสนทนาน่าชื่นชมขมหวาน

สุขทุกข์สายธาร

สูญหายตายผ่านเช่นเดียวกับชีวิต

 หากคงอยู่เป็นคู่มิตร หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณนิรันดร์




*
หมายเหตุ*
ภาพข้างบนทั้งหมดเป็นกุหลาบ "โอลิเวีย" โดย เดวิด ออสติน

 *





26.12.58

ฉันท์กุหลาบ อีทิสังค์ฉันท์ ๒๐ / When Morning Light Touches My Rose


กุหลาบอังกฤษ "เอลเลน"

อีทิสังค์ฉันท์ ๒๐


งามละอองละมุนอรุณสมัย
แตะแต้มผะแผ่วกุหลาบกระไร
นะเช้างาม

ปรารถนาจะเอื้อนจะเอ่ยจะถาม
กระนั้นก็เพียงจะตอบและตาม
ฤทัยฉันท์

คำกุหลาบกระซิบวจีประพันธ์
พระคุณอรุณกรุณย์อนันต์
อุษาแสง

แม้มินานตะวันจะร้อนจะแรง
จะต่อจะเติมจะจัดจะแจง
ก็ชีวิต

เช่นรตีรวีสว่าง ณ จิต
พิไลพิลาสประหลาดจริต
เพราะความรัก




*



24.11.58

พันหนึ่งราตรี / A Thousand and One Night

Scheherazade by Sophie Anderson in 19th century / Wikipedia 

จินตภาพ

ทอดสายตาผ่านบานไม้ลายฉลุที่ติดตายกับช่องหน้าต่าง
เธอเห็นท้องฟ้าอาระเบียประดับประดาด้วยดวงดาราคณานับซึ่งแสงจันทร์เสี้ยวไม่อาจบดบัง
ผืนทรายกว้างใหญ่เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด แม้ไม่อาจเห็น
กำแพงข้างนอกนั้นสูงเกินไปจนมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ต่ำกว่า
หากชีวิตใช่แขวนอยู่กับสิ่งที่มองเห็นเท่านั้น
หากตั้งและยืนหยัดอยู่บนผืนดินถมทับด้วยเม็ดทรายที่ขณะนี้มิได้ปรากฏต่อสายตา


เรื่องย่อ
เชเฮราซาด (Scheherazade) หญิงสาวผู้งดงามนึกถึงเหล่าหญิงสาวที่ถูกประหารหลังถวายตัวต่อ ชาร์ยาร์ (Shahryar) กษัตริย์แห่งเปอร์เซียผู้ถูกพระมเหสีที่พระองค์สนิทเสน่หาทรยศคบชู้กับทาสผิวดำ
ทรงสูญสิ้นความเชื่อในความซื่อสัตย์ของสตรี จึงสั่งประหารชีวิตนางเสีย
นับแต่นั้นมา 
หญิงใดเมื่อได้ถวายตัวต่อพระองค์แล้วจะถูกประหารในวันรุ่งขึ้นเพื่อไม่ให้มีโอกาสทรยศต่อพระองค์ได้
ความสพรึงกลัวเข้าครอบคลุมผู้คน คืนนี้หญิงใดจะต้องถวายตัว พรุ่งนี้หญิงนั้นจะต้องตาย

เชเฮราซาด ธิดาของเสนาบดียื่นข้อเสนอต่อบิดาของเธอ
เธอจะถวายตัวและจะพยายามยุติความประหวั่นพรั่นพรึงของผู้คนเสีย
แต่แรกบิดาไม่ยินยอมทว่าเธอยืนยัน


ในคืนที่ถวายตัว เธอร้องขอต่อกษัตริย์ให้ทรงอนุญาตนำน้องสาวที่รักกันมากเข้ามาด้วย
แล้วเธอก็เริ่มต้นเล่านิทานที่สนุกสนาน ตื่นเต้นเป็นปริศนา
จนรุ่งสางเธอก็ยังเล่าไม่จบ และเล่าค้างอยู่ในตอนที่สนุกที่สุด
ความอยากรู้อยากฟังทำให้ชาร์ยาร์ต้องหยุดโทษประหารในวันรุ่งขึ้น

ในคืนต่อมา เธอก็เล่านิทานต่อ และตัวละครในเรื่องแรกก็เล่านิทานเรื่องต่อมา
มันจึงเป็นนิทานเรื่องเดียวที่ร้อยโยงนิทานหลายเรื่องไว้ด้วยกัน
ดังนี้ โทษประหารจึงถูกเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ จนถึงหนึ่งพันวัน

ในคืนที่หนึ่งพันหนึ่ง
เชเฮราซาดทูลว่า เธอไม่มีนิทานจะเล่าอีกต่อไปแล้ว
ทว่า ชาร์ยาร์ไม่เคยใช้เวลาอยู่กับหญิงใดมากเท่าเธอ
หนึ่งพันราตรีที่พระองค์ฟังนิทานจากหญิงคนนี้ทำให้พระองค์ไม่อาจประหารเธอได้
ทรงสนิทเสน่หาและยกย่องเธอเป็นพระมเหสีและมีโอรสด้วยกันสามพระองค์


แผ่นดินภายใต้การปกครองของชาร์ยาร์เป็นปกติสุขตั้งแต่วันที่ เชเฮราซาดถวายตัว
กับอีกพันหนึ่งราตรี
และนับจากนั้น

เชเฮราซาดใช้ปัญญารักษาชีวิตของผู้หญิงไว้กี่คนนะ


*

หมายเหตุ

ภาพข้างบนวาดในศตวรรษที่สิบเก้า
 
Thanks to Wikipedia
https://en.wikipedia.org/wiki/One_Thousand_and_One_Nights
https://en.wikipedia.org/wiki/Scheherazade

เพราะชิ่อกุหลาบนาฮีม่าแท้ ๆ
ค้นไปที่ ๆ มาของน้ำหอมนาฮีม่า
พบว่าเป็นชื่อเจ้าหญิงในนิทานพันหนึ่งทิวา
ก็เลยได้ค้นเรื่องราวสนุกน่าสนใจมาเขียน
ส่วนเรื่องราวของเจ้าหญิงนาฮืม่าเก็บไว้เล่าในเรื่องราวของกุหลาบนาฮีม่านะคะ





30.10.58

ไนติงเกล และ ดอกกุหลาบ โดย ออสการ์ ไวลด์ / The Nightingale and The Rose by Oscar Wilde

ตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงวันนี้กุหลาบแดงบานหลายดอก
นึกย้อนไปหลายปืก่อน เพื่อนเขียนอ่านคนหนึ่งเคยพูดถึงนกไนติงเกล หนามกุหลาบ
เลือด และความตาย รูปธรรมที่ใช้เล่าถึงนามธรรม...ความรัก

*





 "ไนติงเกลและดอกกุหลาบ"
เป็นเทพนิยายเรื่องสั้นสำหรับเด็กที่เขียนโดยออสการ์ไวลด์ นักเขียนผู้โด่งดังในปีคริสต์ศักราช 1888
ถึงวันนี้ก็มีอายุ 127 ปี
ในหนังสือรวมเรื่องสั้น The Happy Prince and other short tales "เจ้าชายผู้มีความสุขและเรื่องสั้นอื่น ๆ"
มีเรื่องสั้นรวมห้าเรื่องด้วยกัน คือ "เจ้าชายผู้มีความสุข"
"ไนติงเกลและดอกกุหลาบ"
"ยักษ์ผู้เห็นแก่ตัว"
"เพื่อนผู้เสียสละ"
และ "พลุที่ไม่ธรรมดา"


เจ้าชายผู้มีความสุขและเรื่องสั้นอื่น ๆ / The Happy Prince and other short tales

...

แต่แรกตั้งใจว่าจะถ่ายทอดผ่านบทกวี
แต่เมื่อเข้าไปอ่านต้นฉบับแล้วพบว่ามีหลายวรรคตอนที่ไม่อยากปล่อยผ่าน
และอยากให้ได้อรรถรสจากถ้อยคำและวิธีการนำเสนอแบบออสการ์ ไวลด์
จึงลงมือแปล

...

ตัวละคร

ตัวละครหลักในเรื่องนี้คือนกไนติงเกล นักศึกษาหนุ่มผู้ตกอยู่ในห้วงรัก
 ต้นกุหลาบที่ไม่อาจให้ดอกได้ในฤดูหนาว
หญืงสาวที่ถูกรักและตัวประกอบต้นกุหลาบและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสวน


...

เรื่องย่อ

นกไนติงเกลได้ยินนักศึกษาหนุ่มคร่ำครวญถึงหญิงสาวที่เขารัก
เจ้าชายจัดงานเต้นรำ เธอสัญญาว่าจะเต้นรำด้วยถ้าเขามีกุหลาบแดงมาให้
แต่ในสวนไม่มีกุหลาบแดงเลยสักดอก
นกไนติงเกลคิดว่า ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนดีมีรักแท้
มันจึงออกบินเพื่อนำกุหลาบแดงมาให้นักศึกษาหนุ่ม

ต้นกุหลาบใต้หน้าต่างห้องชายหนุ่มบอกไนติงเกลว่า
ถ้าหากไนติงเกลร้องเพลงที่ไพเราะที่สุดตลอดคืนขณะแนบอกกับหนามกุหลาบ
เลือดจากอกของมันจะหล่อเลี้ยงต้นกุหลาบในฤดูหนาวให้ฟื้นตื่นและออกดอก

ไนติงเกลเสียสละยอมตายเพื่อความรักของชายหนุ่ม
มันเชื่อว่าชีวิตคนย่อมมีค่ากว่าชีวิตนกอย่างมัน
มันร้องเพลงจนถึงเช้า เลือดรินไหลหล่อเลี้ยงต้นกุหลาบ
ในที่สุดก็ร่วงตกลงมาตายบนพื้นหญ้า หนามกุหลาบปักคาอยู่ที่อก

หนุ่มนักศึกษาเห็นดอกกุหลาบแดงก็ดีใจ นำไปให้หญิงสาวที่เขารักที่งานเลี้ยง
เธอปฏิเสธไม่เต้นรำกับเขาเพราะชายอื่นนำเครื่องประดับเพชรพลอยที่สูงค่ามาให้
ชายหนุ่มผิดหวัง ออกมาจากงานเลี้ยง โยนดอกกุหลาบที่แลกด้วยชีวิตไนติงเกลทิ้ง
กลับไปศีกษาวิชาอภิปรัชญาที่เขาสนใจ
ความเชื่อในรักแท้ก็สูญสิ้นไป


*

เรื่องนี้เมื่ออ่านจากตัวหนังสือแล้วเศร้ามาก  สงสารไนติงเกล
เศร้าเพราะเรื่องเล่า เศร้าเพราะคำที่ใช้
เศร้าเพราะใจนกแท้จริงกว่าใจคน ทว่าไร้ค่า หาความหมายใดไม่ได้
เรื่องนี้ลึกซึ้งและซ้อนทับเป็นชั้น ๆ เหมือนหน้ากระดาษในหนังสือ
อ่านแล้วรู้เรื่อง

เรื่องสั้นนี้มีทั้งหมดแปดหน้า แปลได้เพียงสี่หน้าก็ต้องหยุดเพราะเศร้ามาก
นำที่แปลมาลงไว้เพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านและเพลิดเพลินกับวิธีเล่าเรื่องนี้ของออสการ์ ไวลด์


*




ไนติงเกล และ ดอกกุหลาบ


- 1 -

"เธอบอกว่าเธอจะเต้นรำกับฉันถ้าฉันนำกุหลาบแดงไปให้" นักศึกษาหนุ่มคร่ำครวญ "ทั้งสวนนี้ไม่มีกุหลาบแดงเลยสักดอก"

จากรังในแอ่งไม้ของต้นโอ๊ค ไนติงเกลได้ยิน เธอมองผ่านใบไม้ออกมาและสงสัย

"ทั้งสวนนี้ของฉันไม่มีกุหลาบแดง" เขาร้อง และดวงตาสวยงามคู่นั้นของเขาก็เต็มไปด้วยน้ำตา
"อา ความสุขขึ้นอยู่กับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เอง ฉันอ่านทุกอย่างที่ปราชญ์เขียน และปรัชญาลึกลับทั้งหมดก็อยู่กับฉัน ทว่ากุหลาบแดงดอกเดียวที่ต้องการ ทำให้ชีวิตฉันน่าเวทนา"

"บัดนี้ในที่สุดคือผู้มีรักแท้" นกไนติงเกลพูด "คืนแล้วคืนเล่า ฉันเฝ้าร้องเพลงถึงเขา แม้ไม่รู้จัก
 คืนแล้วคืนเล่า ฉันเฝ้าเล่าเรื่องของเขาต่อหมู่ดาว และตอนนี้ฉันเห็นเขาแล้ว
สีผมเขาเข้มเหมือนดอกไฮยาซินธ์ที่เบ่งบาน ริมฝีปากแดงเหมือนกุหลาบที่เขาอยากได้
แต่ความเสน่หาทำให้เขาซีดเซียวเหมือนงาช้าง
และความโศกเศร้าก็ได้ประทับตราลงเหนือคิ้ว"

"เจ้าชายจัดงานเต้นรำคืนพรุ่งนี้" นักศึกษาหนุ่มพึมพัม "และหญิงที่ฉันรักจะไปร่วมงานด้วย
ถ้าฉันนำกุหลาบแดงไปให้เธอ เธอจะเต้นรำกับฉันจนรุ่งสาง
ถ้าฉันนำกุหลาบแดงไปให้เธอ ฉันจะโอบเธอไว้ในอ้อมแขน
เธอจะอิงศีรษะกับไหล่ฉัน ฉันจะกุมมือเธอไว้
แต่ไม่มีกุหลาบแดงในสวนนี้ ฉันจะต้องนั่งอยู่คนเดียว และเธอจะเดินผ่านฉันไป
เธอจะไม่สนใจฉัน และหัวใจฉันจะแตกสลาย"

"ที่นี่ในที่สุดคือคนรักจริง" ไนติงเกลพูด
"สิ่งที่ฉันร้องถึงทำให้เขาทรมาน สิ่งที่ทำให้ฉันมีความสุข เขาเจ็บปวด
แน่นอนความรักเป็นสิ่งอัศจรรย์ ล้ำค่ายิ่งกว่ามรกต แพงกว่าโอปอลชั้นดี
ไข่มุกและลูกทับทิมไม่สามารถซื้อหาสิ่งนั้นได้
และสิ่งนั้นไม่ได้ถูกวางไว้ในท้องตลาด
พ่อค้าไม่อาจจำหน่ายและไม่อาจชั่งสิ่งนั้นเทียบกับทองบนตาชั่ง"


- 2 -

"นักดนตรีจะนั่งอยู่ที่เวที" นักศึกษาหนุ่มพูด "และเล่นเครื่องสายของพวกเขา
คนที่ฉันรักจะเต้นรำกับเสียงพิณและไวโอลิน
เธอจะเต้นรำตัวเบาเท้าไม่แตะพื้น
และผู้มาร่วมงานในเสื้อผ้าหรูหราก็จะเข้ากลุ้มรุมรอบตัวเธอ
แต่กับฉัน เธอจะไม่เต้นรำด้วย เพราะฉันไม่มีกุหลาบแดงให้เธอ"
แล้วเขาก็ทิ้งตัวลงบนผืนหญ้า และฝังใบหน้าลงในอุ้งมือแล้วร้องไห้

"เขาร้องไห้ทำไม" กิ้งก่าสีเขียวตัวเล็กถามขณะวิ่งหางชี้ผ่านเขาไป
"นั่นซี่ทำไม"ผีเสื้อถามขณะขยับปีกไปมาตามประกายตะวัน
"ทำไมนะ" เดซี่กระซิบถามเพื่อนใกล้เคียงด้วยเสียงนุ่มเบา
"เขาร้องไห้ให้กับดอกกุหลาบสีแดง" ไนติงเกลบอก
"เพื่อกุหลาบแดง" พวกเขาร้องออกมา "ช่างเหลือเชื่อเสียจริง"
แล้วเจ้ากิ้งก่าตัวเล็กผู้ซึ่งคล้ายพวกชอบเยาะหยันก็ระเบิดหัวเราะออกมา
แต่ไนติงเกลเข้าใจความลับแห่งความเศร้าโศกของนักศึกษา
เธอนั่งเงียบอยู่ที่ต้นโอ๊คและนึกถึงความลึกลับของความรัก

ทันใดนั้น เธอก็กางปีกสีน้ำตาลเพื่อโผบิน และทะยานตัวขึ้นไปในอากาศ
บินผ่านป่าละเมาะไปดั่งเงา และเช่นเดียวกับเงา เธอลอยละล่องข้ามสวนไป

ตรงกลางสนามหญ้า มีต้นกุหลาบงามอยู่ต้นหนึ่ง
และเมื่อเธอเห็น เธอบินไปเหนือมัน และร่อนลงเกาะบนกิ่งเล็ก ๆ

"ให้กุหลาบแดงฉันเถิด แล้วฉันจะร้องเพลงที่หวานที่สุดของฉันให้ฟัง"
ต้นกุหลาบสั่นหัว "ดอกของฉันเป็นสีขาว" มันบอก "ขาวเหมือนฟองคลื่นในท้องทะเล
ขาวกว่าหิมะบนภูเขา แต่เธอไปหาน้องชายฉันที่ขึ้นอยู่รอบนาฬิกาแสงอาทิตย์เก่าดูซี
และบางทีเขาจะให้สิ่งที่เธอต้องการ"



- 3 -

ดังนั้น ไนติงเกลจึงบินไปที่ต้นกุหลาบที่ขึ้นอยู่รอบนาฬิกาแสงอาทิตย์เก่า
"ให้กุหลาบแดงฉันเถิด" เธอร้อง "แล้วฉันจะร้องเพลงที่หวานที่สุดของฉันให้ฟัง"
แต่ต้นกุหลาบส่ายหัว
"ดอกของฉันสีเหลือง" มันตอบ "เหลืองเช่นสีผมของเงือกสาวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อำพัน
และเหลืองยิ่งกว่าดอกแดฟโฟดิลที่บานอยู่ในทุ่งหญ้าก่อนเครื่องตัดหญ้าจะมาพร้อมกับใบมีด
แต่ว่าลองไปหาน้องชายฉันที่ขึ้นอยู่ใต้หน้าต่างของนักศึกษาหนุ่มดูซี่
และบางทีเขาจะให้สิ่งที่เธอต้องการได้"

ดังนั้นไนติงเกลจึงบินข้ามไปยังต้นกุหลาบที่ขึ้นอยู่ใต้หน้าต่างของนักศึกษา
"ให้กุหลาบแดงฉันเถิด" เธอร้อง "แล้วฉันจะร้องเพลงที่หวานที่สุดของฉันให้ฟัง"
แต่ต้นกุหลาบส่ายหัว
"ดอกของฉันสีแดง" มันตอบ "แดงเช่นเดียวกับเท้านกพิราป 
แดงยิ่งกว่าปะการังคลี่ที่ใหญ่ที่สุด ที่พัดโบกและโยกไหวอยู่ในถ้ำใต้มหาสมุทร
ทว่าฤดูหนาวได้ทำให้เส้นหล่อเลี้ยงของฉันเย็นยะเยือก
และน้ำค้างแข็งทำให้ดอกตูมชะงักงัน และพายุทำให้กิ่งฉันหัก
และฉันก็จะไม่มีดอกเลยในปีนี้"

"กุหลาบแดงดอกเดียวเท่านั้นที่ฉันต้องการ" ไนติงเกลร้องออกมา "กุหลาบแดงเพียงดอกเดียว"
"ไม่มีทางใดเลยหรือที่ฉันจะได้มันมา"
"มีทางซี" ต้นกุหลาบตอบ "แต่มันแย่มาก ๆ แย่เสียจนฉันไม่กล้าบอกเธอ"

"บอกฉันเถิด" นกไนติงเกลบอก "ฉันไม่กลัวหรอก"

"ถ้าเธอต้องการกุหลาบแดง" ต้นไม้พูด "เธอต้องสร้างมันขึ้นมาจากดนตรีแห่งแสงจันทร์ 
และทาสีมันด้วยเลือดจากหัวใจของเธอ
เธอจะต้องร้องเพลงขณะอกเธอแนบกับหนามของฉัน ตลอดคืนยาวนานเธอจะร้องเพลงเพื่อฉัน
และหนามของฉันจะแทงหัวใจเธอ และเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตเธอจะไหลเข้าสู่เส้นหล่อเลี้ยงของฉัน
และกลายเป็นของฉัน


- 4 -

"ความตายเป็นราคาที่ดีมากที่ฉันจะจ่ายเพื่อกุหลาบแดงหนึ่งดอก" ไนติงเกลร้องออกมา
"และชีวิตมีค่าต่อทุกชีวิต มันสบายที่ได้นั่งอยู่ในป่าสีเขียว 
เฝ้ามองดวงอาทิตย์ในราชรถสีทอง และดวงจันทร์ในราชรถสีไข่มุก
หวานกลิ่นฮอว์ธอร์น และหวานคือดอกบลูเบลที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา  
และเฮทเธอร์ที่ปลิวอยู่บนภูเขา
กระนั้น ความรักก็ดีกว่าชีวิต และหัวใจนกมีความหมายอะไรเมื่อเปรียบกับหัวใจคน

ดังนั้น เธอจึงกางปีก พุ่งเข้าไปในอากาศ โฉบผ่านสวนดั่งเงา
และเช่นเงา เธอลอยล่องผ่านแมกไม้ .....




 อ่านต่อได้ที่..
http://www.eastoftheweb.com/short-stories/UBooks/NigRos.shtml

ภาพจาก Wikipedia


*

23.10.58

ชวนลมชมมวลมาลี (ฉบัง ๑๖)



ชวนลมชมมวลมาลี ............ ณ สวนน้อยนี้
หลากสายหลายสีคลี่บาน

เชิญลมดมดอมหอมหวาน ....... ประโลมรอนราน
ซึ่งโลกมิอาจผลักไส

รั้วรอบปลอบโยนดวงใจ ... ผู้อยู่ข้างใน
และผู้แวะวนยลเยือน

ร่มไม้มีไว้ให้เพื่อน...........  หน้าหลังรังเรือน
เก้าอี้มีพอรอคอย





พิศพราวขาวปีบดอกน้อย ...ม่วงเช้าดอกจ้อย
คล้ายคล้อยเมฆบางข้างบน

ร่วงกรูลู่แก้วหลังฝน .............. คลุมกรวดเทาหม่น   
พรมขาวเจ้าสาวดอกแก้ว

แดดอ่อนสะท้อนวับแวว ... เม็ดฝนพราวแพรว
 ไหวแก้วน้ำฟ้าตาใคร






ลมเอยเชยหอมดอกไม้ .........  พัดไปใกล้ไกล
กล่อมไฟกล่อมดินหินน้ำ

ปลอบโลกโศกซ้อนย้อนย้ำ ..... เปรียบร้อยถ้อยคำ
รำเพยหอมในสายลม   

คลี่คลายร้ายล้อมจ่อมจม ..... คลายใจขื่นขม
หันชมดมหอมมาลี






 *
 


หมายเหตุ

กุหลาบสีชมพูในภาพแรก "บิชอปส์ แคสเซิล" กุหลาบอังกฤษ
ภาพที่สอง "ดอกปีบ"
ภาพที่สาม "ดอกแก้ว"
ภาพที่สี่ กุหลาบแดง "รูจ รอเยล" กุหลาบฝรั่งเศส
หอมมากทุกดอกเลยค่ะ

*




14.10.58

เปรย / A Monologue

Home Photo
กุหลาบ สปิริต ออฟ ฟรีดอม

แสงร้อนแผดเผากลีบกุหลาบบาง
แล้วฝนก็โปรยลงมาเบา ๆ ในเวลาใกล้กัน
กุหลาบ"จิตวิญญาณแห่งเสรีภาพ" ทำให้เกิดคำถาม
มนุษย์เราปรารถนาเสรีภาพจากสิ่งใด




ลมนิ่งยามเช้าเฝ้าออมหอมกุหลาบ
รอนกกางเขนน้อยร่อนลงเกาะกิ่งเฟื่องฟ้า ร้องเพลงอรุณ





เช้าแล้ว
ฉันออกไปนั่งเงียบ ๆ กับกุหลาบของฉัน
แดดเช้าอ่อนจาง วูบวาบ
สาดส่อง... แล้วจางหาย
แต่ไม่ช้า แสงก็กลับมาใหม่





ดอกม่วงเช้าคลี่บานอยู่ท่ามกลางกออย่าลืมฉัน
ลมคงพาเมล็ดพันธุ์มาหยั่งรากเติบโตในกระถางกุหลาบ
อัศจรรย์ใจที่กุหลาบ อย่าลืมฉัน และม่วงเช้าเติบโตอยู่ในกระถางเดียวกัน





ประตูที่ปิดสนิท
เก็บกันกลิ่นหอมกุหลาบไว้ข้างนอก
และสิ่งอื่นไว้ข้างใน




ประตูถูกปิดลง
กวีออกเดินทาง
ไม่ว่าเขาจะอยู่ข้างในหรือข้างนอก


ดับเบิ้ล ดีไลท์
 
เมื่อประตูปิดลง
เราก็รู้ว่าใครอยู่ข้างนอก และใครอยู่ข้างใน



เล็บมือนางซ้อน

มีม่านในบ้าน และมีม่านในสวน
ม่านในบ้านไม่มีกลิ่นหอมอยู่ในตัวของมันเอง
แต่ม่านดอกไม้ในสวนส่งกลิ่นหอมฟุ้ง



นกเขาหลวง

ผ่านพายุฝนมาก็มาก แต่เราไม่เคยทิ้งกัน



ชบาซ้อนสีชมพูหม่น

ดอกชบามีอายุแค่วันเดียว
และในวันเดียวนั้น เธอก็สวยเท่าที่จะสวยได้
เธอจึงมีที่ทางอยู่ท่ามกลางหมู่กุหลาบ ราชินีของดอกไม้


Home Photo


ความตายเท่านั้นที่พรากเราจากกัน
และเมื่อวันนั้นมาถึง ผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังจักดำรงอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย
แหงนมองท้องฟ้าเวิ้งว้าง
ครุ่นคิดและไถ่ถาม
"เธอมีความสุขโดยปราศจากฉันได้อย่างไร"




*


*หมายเหตุ*
Monologue
หมายถึง บทพูดคนเดียว
บทละครที่มีตัวแสดงเพียงคนเดียว
หรือ บทเดี่ยว เช่นเดี่ยวไมโครโฟน


"There is no such thing as a question that does not have an answer."


ข้อมูลเล็กน้อยที่น่าสนใจเกี่ยวกับนกเขาหลวงอ่านได้ที่


8.10.58

ของกำนัลในวันฝนโปรย




คอยแดดอุ่นยามเช้าเจ้ากุหลาบ

เคยซึมซาบอาบไล้ใต้แสงฉาย

คราชุ่มโชกโลกหม่นฝนโปรยปราย

ฝนก็คล้ายประดับประดาให้น่าชม


ฉันมองหวานกุหลาบอาบหยดน้ำ

น้อยแสงค่ำนำผกายละม้ายผสม

เห็นความจริงความงามตามเงื่อนปม

เห็นความขมห่มหวานแห่งวารวัน


เจ้าผลิดอกออกช่อหนอดั่งรู้

ใครคอยดูอยู่ใกล้ไม่ห่างขวัญ

 แทนแสงอุ่นลึกล้ำของกำนัล

ที่ให้กันและกันวันฝนโปรย




*





6.10.58

กุหลาบ บลู ฟอร์ ยู / Rose: Blue for You


บลู ฟอร์ ยู กุหลาบอังกฤษ
ขอพูดถึงกุหลาบในฐานะผู้สังเกตการณ์ นักปลูกอ่อนประสบการณ์คนหนึ่ง
รายละเอียดและความรู้เกี่ยวกับต้นกุหลาบสามารถหาอ่านได้จากเว็บไซท์สวนกุหลาบหลายแห่ง
จากผู้รู้ทั้งหลายเพื่อนำมาใช้และเรียนรู้ไปพร้อมกับการดูแลกุหลาบของเรา

บลู ฟอร์ ยู ตามภาพข้างบนจะเห็นว่าดอกที่มีอายุแตกต่างกันจะมีสีสันต่างกัน 
มีกลิ่นหอมเหมือนดอกไวโอเล็ต เว็บไซท์ของเดวิด ออสตินว่าไว้
แต่แรกเมื่อดมแล้วมีความรู้สึกเหมือนดมแอ้ปเปิ้ลเขียวที่มีความเย็นสดชื่นอยู่ในกลิ่นหอมของเธอ
ทั้งสองอย่างนี้เป็นเสน่ห์ของบลูฟอร์ยู
ใบไม่มีปัญหาทั้งที่ไม่ได้ฉีดยาเลย รู้สึกว่าต้านทานโรคได้พอควร




กุหลาบ"บลู ฟอร์ ยู" ต้นนี้เกิดมาจากความพยายามของนักผสมพันธ์ุกุหลาบที่จะทำให้เกิดพันธุ์สีฟ้าขึ้น
"สีฟ้าสำหรับเธอ" ตอนได้มาจะมีสีฟ้ามากกว่านี้ เป็นสีออกม่วงจางที่มาจากชมพูผสมฟ้า
ต่อมาสีกลายเป็นชมพูมากขึ้นจนเป็นสีชมพูสด ทำเอาใจเสียและเสียใจ
อยู่มาวันนึง เหลือบมองกากกาแฟที่บ้าน มันดูดีมากเลย น่าจะใช้โรยต้นไม้ได้
เพื่อความแน่ใจจึงเข้าไปถามกูเกิ้ล "กากกาแฟเป็นกรดหรือเป็นด่าง"
คำตอบที่ได้คือเป็นกรด
กุหลาบชอบดินที่เป็นกรด เลยโรยบาง ๆ ให้กุหลาบต้นนี้
ผลที่ได้คือเมื่อดอกรุ่นต่อมาบานแล้ว สีชมพูก็จางลงมาก ลืมสีชมพูสดที่เคยทำให้ตกใจไปเลย
คิดว่าสักพักจะโรยให้อีก ค่อย ๆ ทำ

ระวัง อย่าใช้กากกาแฟกับต้นไม้ที่ชอบความเป็นด่าง
ถ้าไม่แน่ใจถามกูเกิ้ล ใส่ชื่อต้นไม้ ดูก่อนว่าชอบดินที่เป็นกรดหรือเป็นด่าง
และชอบมากน้อยขนาดไหน





"บลู ฟอร์ ยู" แปลว่า "สีฟ้าแด่เธอ"
แต่อีกนัยหนึ่งก็แปลได้ว่า "เหงาถึงเธอ"
"คิดถึงเธอ" เป็นชื่อที่น่ารักและเหมาะมากเลย





ภาพข้างบนเป็นภาพตอนที่บลู ฟอร์ ยู กลายเป็นสีชมพูสดจนคนปลูกใจเสีย
แต่เมื่อดอกมีอายุมากขึ้น สีก็จางลง

 







To the Birthday Man who is not with any of us today,
Happy Birthday,
We all miss You.








*




26.9.58

กันยายน / September

Home Photo
มะลิซ้อนเดือนกันยา / Rose Jasmine in September

กันยายนจะผ่านพ้นไปอีกปีแล้ว
ฉันเหลียวหลังหันมองเส้นทางทอดยาว
ไม่ได้ใส่ใจหรอกว่า กำลังทบทวนวันวารอยู่หรือเปล่า
ฉันเพียงหันกลับไปมองทางที่อยู่ข้างหลัง
..เท่านั้นเอง

ฉันรู้ดีว่านำพาสิ่งใดมาด้วย
และมั่นใจว่าไม่ได้ลืมอะไรไว้ข้างหลัง
อดีตเคล้าอยู่ในลมหายใจปัจจุบัน
ก่อนอากาศวันพรุ่งจะมาถึง
ฉันยังหายใจ

กวาดตามองไปรอบ ๆ
สัมภาระที่ไม่ต้องลากจูงแบกหามอยู่ในที่ทางของมัน
ฉันพึงพอใจและรู้สึกขอบคุณ
ที่สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น และเรา
...ต่างเดินทางมาด้วยกัน

ความรักไม่อาจเบิกบานและเติบโตได้ในหัวใจที่คับแคบ
และมันก็ไม่ใช่พันธนาการผูกรัดเจียนขาดใจ
ได้รักคือค้นพบ
ได้ทำสิ่งที่รักคืออิสระภาพยิ่งใหญ่
ตัวหนังสือจากความรู้สึกเดินทางตามฉันคิด
และฉัน ก็ติดตามมันไป


- ๒ -

เงินตรามีกลิ่นหอมผ่านดอกกุหลาบจากต้นที่ซื้อหา
กระนั้นฉันให้คุณค่าต่อสิ่งซื้อหาไม่ได้ 
สิ่งจับต้องไม่ได้ที่ให้ความหวังต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อฉันและโลกของเรา
  นี่ฉัน ?
..กำลังชี้ชวนให้มองเต่าที่ก้าวย่างไปอย่างเชื่องช้า ใช่ไหมเล่า

การทำลายล้างเกิดขึ้นในพริบตา
และการสร้างขึ้นใหม่ก็เดินหน้าไปช้ากว่ามาก
 
เรารู้ดี 
เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นแล้ว เราไม่อาจทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว
และบางความเสียหายก็ยากต่อการเยียวยา


- ๓ -

เราปล่อยให้คนที่มีความหมายต่อเราเรียนรู้บางอย่างเพื่อไปให้ถึงบทสรุปด้วยตนเอง
โดยหวังว่ามันจะแตกต่างจากบทสรุปที่เราเก็บกันไว้กับตัว


- ๔ -

 มีอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกาย และมีอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ
นั่นคือการมีชีวิต กับการใช้ชีวิต


ถึงวันนี้ ฉันดีใจที่ในหัวใจมีความรัก
ดีใจที่มีคนรักกัน
ดีใจที่ได้ทำบางอย่างเพื่อความอิ่มเต็มทางจิตวิญญาณ
ดีใจ ที่ได้เขียนและได้อ่าน
และ
ดีใจ ที่ยังมีหลาย ๆ สิ่งที่น่าดีใจในโลกเล็ก ๆ ใบนี้ของเรา


*





14.9.58

กุหลาบกันยา / Roses in September

นาฮีม่า

ขอพูดถึงกุหลาบในฐานะผู้สังเกตการณ์ คนรักกุหลาบ นักปลูกอ่อนหัด ที่อยากบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกุหลาบในบางแง่มุม
รายละเอียดและความรู้เกี่ยวกับต้นกุหลาบ
พวกเราสามารถหาอ่านได้จากเว็บไซท์สวนกุหลาบหลายแห่ง และจากผู้รู้ทั้งหลาย 
ซึ่งเป็นประโยชน์มากและขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้


นาฮีม่า หอมมาก

นาฮีม่า กุหลาบฝรั่งเศสแสนหอม หอมจนใช้เป็นเบสของน้ำหอมเกอแลง
มีตำนานเก่าแก่เป็นเรื่องเล่าของเจ้าหญิงฝาแฝด
เรื่องนี้จะต้องเอามาเล่า

ชารีฟา อัสมา

ชารีฟา อัสมา กุหลาบเจ้าหญิงแสนหอม กลิ่นอ้อยอิ่งอยู่ในลมนิ่งยามเช้า
หอมอยู่ในอากาศ แต่ถ้าลมโชยมาก็หอบกลิ่นหายไป ต้องดม
กุหลาบให้กลิ่นหอมต่างเวลา ตอนเย็นดมเอาจริงเอาจังกลับไม่หอม
แม้ใบแก่จะไม่ค่อยสวยแต่ต้นเธอแข็งแรง ทั้งสูง ทั้งอวบอ้วนเป็นเจ้าหญิงแขกผู้อยู่ดีกินดี
เธอออกดอกทั้งปี สวยที่สุดในฤดูหนาว


ชารีฟา อัสมา

ชารีฟาพอบานแล้วสีจะซีดลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อดินฟ้าอากาศไม่เป็นใจ ร้อนมาก ฝนตกมาก


ชารีฟา อัสมา


เลดี้ ออฟ เดอะ ดอว์น

สุภาพสตรีแห่งยามเช้าต้นนี้แข็งแรงมาก เธอเป็นกุหลาบผสมในเนเธอร์แลนด์
ต้นสูงใหญ่ ใบสวย ออกดอกพวงดกมาก
เคยเอาออกแดดเต็ม แดดแรงแล้วใบไหม้ พอเปลี่ยนที่มาอยู่ด้านหน้าราชาวดีให้กิ่งก้านโปร่ง ๆ ช่วยกรองแสง
ก็ตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว ออกยอด ออกดอก
เธอต้องการน้ำมาก น้ำในดินโปร่ง สังเกตได้เมื่อยอดตก รดน้ำปุ๊บแป็บเดียวกลับสู่สภาพปกติ
 มีกลิ่นหอมอ่อนที่สดใหม่


เลดี้ ออฟ เดอะ ดอว์น กลื่นสดชื่นปลาย ๆ

เคยพยายามถ่ายทอดเธอออกมาเป็นหญิงสาวผู้บอบบางในภาพวาด แต่ไม่สำเร็จ
เธอเป็นหญิงสาวสูงใหญ่ ตอนนี้สูงจะสองเมตรแล้ว แต่ลำต้นไม่ทึบ เป็นทรงโปร่งที่แข็งแรง



เฮอริเทจ

เฮอริเทจออกดอกเป็นพวง หอมกรุ่น
หลังจากคลี่บานแต่ละดอกมีอายุไม่เกินสองวันก็ร่วง
แต่ดอกอื่น ๆ ในช่อก็แย้มบานตามกันมาให้คนปลูกได้ชื่นชมหลายวัน
จากต้นสูงหนึ่งฟุต สองปีผ่านไปต้นสูงสองเมตรแล้ว
เหมาะปลูกที่ทางเข้าเพราะสวยทั้งดอกทั้งใบ ดอกหอม และไม่มีหนาม


ยัง ไลซีดัส หอมมม ดอกดก ออกดอกบ่อย


กลามิส แคสเซิล กลื่นไม้หอมอ่อนที่ไม่ค่อยได้กลิ่น

กลามิส แคสเซิล รักทั้งที่กลิ่นอ่อนมากคงเป็นเพราะดมแล้วดมอีกหากลิ่นไม้หอมจนสนิทสนมมากเป็นพิเศษ
กลามิส แคสเซิลเป็นชื่อพระราชวังที่ควีนมัม หรือพระราชมารดาของควีนอลิซาเบธทรงใช้ชีวิตในวัยเยาว์
และเป็นฉากในละครแมคเบธของเช็คสเปียร์



จู้ด ดิ ออบสเคียวร หอมเหลือเกิน

เธอคือใคร ใครคือเธอ สั่งกุหลาบ Jude the obscure สองครั้งแต่เหมือนไม่ได้มา
ครานี้เธอคลี่บาน สวยแสนหวาน ทั้งที่ต้นและใบไม่ค่อยสมบูรณ์
รีบเข้าไปดมเพราะได้ยินว่า กุหลาบพันธุ์นี้หอมมาก
ดมแล้วถึงกับอึ้ง หอมฟุ้งจนมึน เป็นกลิ่นหอมมีรางวัล
หอมแรงและกลิ่นหอมมีตัวตนและเป็นของตนมาก



การ์เด้น ไทม์

การ์เด้น ไทม์ บานใหม่ ๆ สีเหลืองอ่อนแสนสวย แล้วสีจะสดขึ้นและเปลี่ยนไปตามอายุดอก
การ์เด้น ไทม์ กับ ดับเบิ้ล ดีไลท์ เป็นแม่ลูกกัน
แต่ดับเบิ้ล ดีไลท์ เป็นกุหลาบรางวัลเพราะมีกลิ่นหอมหวานมาก
ถ้าจำไม่ผิด พ่อคือ กรานาดา
สองต้นนี้วางไว้ใกล้กันเหมือนเป็นพันธ้์เดียวกันเลย


การ์เด้น ไทม์ กับ ดับเบิ้ล ดีไลท์


การ์เด้น ไทม์


การ์เด้น ไทม์


ดับเบิ้ล ดีไลท์ หอมมาก

สองต้นนี้เจ็ดเดือนที่ผ่านไปเหมือนเลี้ยงยาก คงอยู่ด้วยกันไม่นานเป็นแน่
พอเอาวางที่ระเบียงใต้หลังคา รับแดดเช้าเต็ม ๆ แต่ไม่โดนฝน เธอก็เปลี่ยนไป
แสดงความพึงพอใจออกมาอย่างชัดเจน แม่ลูกไม่ต่างกันเลย



ทาโมร่า หอมแปลก

ทาโมร่า เป็นกุหลาบที่เดวิด ออสตินผลิตมานานแล้ว มีกลิ่นหอมแรง หอมแปลก
เขาว่าเป็นกลิ่นผสมระหว่างไลแลคและมิโมซ่า
ต้นนี้เป็นกุหลาบพุ่มไม่ใหญ่นัก
ได้ชื่อมาจากบทละครของเช็คสเปียร์ "ไททัส แอนโดรนิคัส"


บิชอป แคสเซิล หอมฟุ้ง

บิชอป แคสเซิล หอมกลิ่นกุหลาบโบราณฟุ้งอากาศ ต้นที่มียังไม่งาม หากงามแล้วละก็จะออกเป็นช่อเลยทีเดียว
สำหรับที่นี่คงต้องรอต่อไป



ฮันติงตั้นโรส หอมอ่อน

กุหลาบนี้ต้นที่บ้านออกดอกไม่ขาด พอได้กลิ่นหอมเมื่อดมใกล้ ๆ
ต้นยังไม่สมบูรณ์ เรื่องเล่าระหว่างเรายังน้อยเกินไป
ยังทำความรู้จักกันอยู่


กุหลาบตัดดอกสีชมพู หอมนิดหน่อย

กุหลาบสีชมพูต้นดั้งเดิมเมื่อสองปีที่แล้ว ไม่เคยหยุดให้ดอก
ดอกดก ก้านยาว ใบเขียว ไม่มีโรค ต้นนี้เลย
ได้มาในนาม ยี่สุ่น แต่ไม่ใช่หรอก คิดว่าเป็นกุหลาบตัดดอกสีชมพูที่มีขายทั่วไป
สวนไม่เคยขาดสีสันเพราะเธอ ตอนนี้สูงเมตรครึ่งแล้ว
เดือนพฤศจิกายนจะตัดแต่งให้เหลือเมตรถึงเมตรยี่สิบ



รูจ โรเยล กลิ่นหอมฟุ้งน้ำหอมฝรั่ง
ต้นนี้หอมฟุ้งเหมือนใส่น้ำหอม แข็งแรงมาก ใบใหม่สีแปลกติดใจ คล้ายสีช็อกโกแล็ต
กำลังออกดอกใหญ่แล้ว


รูจ รอเยล

ช่อนี้ดอกไม่สมบูรณ์แต่กลิ่นหอมระทึกใจ



กุหลาบสบาย ๆ ยังอยู่ดี ตอนแรกว่าไม่หอม ดมใหม่ตอนเย็นหอมอ่อน ๆ


บลู ฟอร์ ยู หอมสดชื่น ผสมเย็นซ่า ๆ


เอาร เลดี้ ออฟ กัวดาลูป หอมหวานบางเบา ดอกดก


กุหลาบทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของกุหลาบที่บานในเดือนกันยายน
เดือนที่ทั้งร้อน ทั้งชื้น แดดแรง เปียกแฉะ และ เปียกโชก
แต่กุหลาบก็ยังคงออกดอก


*