Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


29.12.53

เดือนดาว เราลากเส้นฟ้าบนแผนที่โลก


ค่ำคืน

ผ่านหมื่นล้านแสงดาว

ประกายระยับ ประดับม่านสกาว

ใคร .. บอกกล่าว

มองดาวดื่นฟ้า

พาคิดถึง


~

คืนแรม

แจ่มเสี้ยวจันทร์แซม

แง้มคำนึง

รำพึง

ซึ้งคืนดาว

ท่ามลมหนาวธันวา


~

คืนผ่าน

ล่วงแสงดาราธาร

ลิ้มหวาน คืนเพ็ญเด่นฟ้า

ผ่านม่านน้ำตา ...

เอื้อมมือแตะจันทรา

..

เอื้อมมือแตะจันทรา

...

มือหนึ่งแตะจันทรา

มือหนึ่งปาดน้ำที่ล้นตา

มาจากใจ


~

เรา

เฝ้ามองเดือนดาว ราวใกล้

ไกล ...

ใจรอน

สะท้อนไป

สะเทือนไหมเดือนดาว


~

ใคร ?

เหม่อมองฟ้าไกล ราว...
ใกล้

ใคร ?

เหม่อมองฟ้าไกล ...ราว

ใจร้าวยึดโยง โค้งนภา


ดารา ...

เรามีตัวตน อยู่กับคนที่ปลายฟ้า

โปรดเถิดจันทรา

โปรดพาเรามา เพื่อกัน


ผ่านจุดประดวงดาว

เราลากเส้นฟ้า

บางดวงล่วงลา ตายังเห็น

มายาเกี่ยวพัน คืนแรม คืนเพ็ญ

ฝัน จริง

สิ่งที่เป็น

สิ่งที่ใจมองเห็น

ดำรง

คงอยู่เป็นความจริง

ของหัวใจ.






~



23.12.53

จิ้มลิ้ม Little Red Lips (Thai Orchid)



ภาพโดย ~ คุณใหม่ ~



จิ้มลิ้ม สาวน้อยปากแดงถูกคุณยายดุ

ใครให้เจ้าเอาชาดแต้มปากเสียแดง

เปล่าเจ้าค่ะ ... มันแดงของมันเอง

พูดพลางยกหลังมือขึ้นเช็ด ยื่นให้คุณยายดู

ยายมองอย่างพินิจพิจารณา ... แล้วพยักหน้า

อือ ... ชาดยุคนี้คุณภาพดี สีไม่หลุดออกมา ...

ไม่ใช่เจ้าค่ะ ... ปากมันแดงของมันเอง ... สาวน้อยเถียง

ยายเอานิ้วป้าย ๆ บนหลังมือเรียว ...

รู้แล้ว ... รู้แล้ว ... ริมฝีปากของเจ้ามันแดงของมันเอง.





19.12.53

เมื่อดักแด้คิดว่ากำลังจะตาย When a caterpillar thinks it's dying


ดักแด้คิดว่ากำลังจะตาย

โอ้ความเดียวดาย...จะพาฉันสู่หนไหน
ดิ้นรนขลุกขลัก รังไหมเคยปกปัก กลับบีบรัดสายใย
ฉันต้องเดินทางไกล ห่อหุ้มด้วยความตาย

สู่ปลายทาง

เจ็บ....ท่วมท้นอณูกาย

ปริแตก... วอดวาย...เค้าลาง

เมื่อไร? สิ้นสลาย ทรมาน ...

คราง

เชื่องช้า อาเงื้อมเงา คืบคลาน

เปลี่ยนแปลกแตกต่าง

สะพรึงพรั่น...สั่นระรัว

เยื่อใย เดิมยืดหยุ่น ผุรูพรุน กรอบแห้ง

หมดแล้วหนแห่ง เรือนรังห่อตัว

ผิวหนังฉีกขาด...หวาดกลัว กรุบกรับขยับตัว

ลอยร่วง

สัญชาตญาณ ! ต่อต้าน ตะกายกอด ความว่างเปล่า

แหนหวง !

ใดเล่าประคอง รึลวง? สิ้นแล้วหนักหน่วง
คู่ปีกนี้ของใคร...

ปีกบาง กางปีกกว้างในแสงใส
งามจับใจ ในแดดสีทอง
ความตาย ... หรือชีวิต...

ดอกจ้อยกะจิริดกระจายหอม
ร่อนลงอาบละออง
ภมรท่อง
ล่องไป
ในทาง


ฉันเป็นผีเสื้อ

ฉันคือผีเสื้อ


ผีเสื้อของโลก


เมื่อดักแด้คิดว่ามันกำลังจะตาย มันกลับกลายเป็นผีเสื้อ


.

....


15.12.53

กำไลเฟื่องฟ้า Bougainvillea Bracelet
















ภาพโดย~คุณใหม่~
(ฉบัง ๑๖)

กำไลเฟื่องฟ้ากลีบบาง..............ชมพูสว่าง

เคยพร่างใต้แสงอาทิตยา

บ้างร่วงเกลื่อนกล่นบนหญ้า........พริ้วปลิวเริงร่า

หรรษาระบำสายลม

ใครมองเห็นภาพวาบชม...........เลือกเก็บรื่นรมย์

ใช่ไหมคนร้อยดอกไม้

ดอกน้อยช้อยชดสดใส.............ใครทำกำไล

สวมให้ ใครอุ่นข้อมือ


~

7.12.53

ถ้อยคำน่าอ่านของเลียวนาร์โด ดาวินชี Davinci Words

Female Head 1508 by Leonardo Da Vinci


ความละเอียดละออของมนุษย์

ไม่เคยสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใดที่สวยงามกว่า
เรียบง่ายหรือตรงไปตรงมากว่า ธรรมชาติ
เพราะในการสร้างสรรค์ของเธอ
ไม่มีอะไรน้อยไปหรือมากไป

ความเรียบง่ายคือที่สุดของความช่ำชอง

ความคิดของนักวาดคือสำเนาของความคิดอันศักดิ์สิทธิ์
มันทำงานอย่างอิสระ
ในการสรรค์สร้างเหล่าสัตว์ พันธุ์ไม้ ผลไม้
ทิวทัศน์ ชนบทและสถานที่
แรงบันดาลใจมาจาก...
การให้คำมั่นสัญญาถึงผลงานที่ยังไม่มาถึง

ถอยออกมาจากงานที่ทำเป็นบางครั้งบางคราว
ผ่อนคลายเล็กน้อย
เมื่อคุณกลับมาความคิดเห็นของคุณจะชัดเจนขึ้น
ออกไปให้ห่างเพื่องานที่กำลังทำจะดูเล็กลง
เราจะเห็นได้มากกว่า เมื่อ"เหลือบ"มอง
ความกลมกลืนและสัดส่วนที่ไม่ลงตัว จะปรากฏอย่างชัดเจน

ครั้งหนึ่งที่คุณได้ลิ้มรสของการโบยบิน
คุณจะเดินอยู่บนดินและแหงนมองฟ้า
เพราะที่นั่นคุณเคยอยู่และที่นั่นที่คุณโหยหาการกลับไป

เช่นเดียวกับวันที่ได้ใช้อย่างคุ้มค่านำมาซึ่งนิทราแสนสุข
ขีวิตที่ได้ใช้อย่างคุ้มค่านำมาซึ่งความตายแสนสุข

เหล็กเป็นสนิมเมื่อไม่ใช้
น้ำสูญความพิสุทธิ์เพราะถูกขัง
การอยู่เฉยดูดกลืนพลังความคิด

ข้าพเจ้าประทับใจกับความเร่งด่วนของการทำงาน
ระลึกรู้เสมอว่ายังทำไม่พอ ต้องทำต่อไป
แม้เต็มอกเต็มใจที่จะทำ ก็ยังไม่พอ
เราต้องลงมือทำ.




~
แปลโดยจัสมิน


3.12.53

เคลื่อนไหวในคลื่นกาล With the Wave of Time
















เปล่งประกายสายะยิบระยับรัศมีกระจ่างใสในดวงตาเด็ก ๆ

ฉายเฉิดเจิดจรัสจากดวงใจของหญิงชายผู้รู้จักความรัก


พวงกระดิ่งสั่นไหวท่ามสายลมโชย

เสียงหัวเราะแสนพิสุทธิ์ของผู้อ่อนต่อโลก

เสียงหัวเราะคิกคักของสาวแรกรุ่นผู้แสวงหา

เสียงหัวเราะสะท้อนก้องเพียงในห้วงอกหญิงผู้มีรัก

เสียงหัวเราะหม่นหมองของหญิงชายวัยกลางคน

และเสียงหัวเราะในลำคอของคนใกล้ตาย

ความสุข ความทุกข์

เสียงกรุ๋งกริ๋งของพวงกระดิ่ง

เสียงล้อเกวียนเก่าคร่ำ พึมพำเหน็ดล้า

เสียงสั่นพร่าของผู้สูญเสีย

ดอกไม้คลี่กลีบ ดอกไม้ปลิดกลีบโรยร่วง

ห้วงแห่งความคิดคำนึง

ไหลเลื่อนเคลื่อนผ่านข้ามห้วงจักรวาล

คลื่นแห่งสุขทุกข์ เสียงหัวเราะโหยไห้

เดินทางไป จากแก่นแกนอันเป็นสาระ

ต้นกำเนิดทุกอารมณ์ความรู้สึกมนุษย์สามัญ

หนแห่งนั้นหรือมิใช่ ที่จุดประกายไฟชีวิต

รวงรังแห่งนั้นหรือมิใช่

ที่พักพิงอาศัยของสิ่งไร้นิยาม

ซึ่งถูกเรียกขานในนาม ...

ความรัก


ใจ กูรู ดีวา โอม

จักไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงโลกของเรา

แรงบันดาลใจจาก Across the Universe ของ The Beatles

บทเพลง และ บทแปลเพลงจะตามมาในไม่ช้าค่ะ

~

26.11.53

ขอบคุณชีวิต (ผีเสื้อบินเข้ามาในห้อง) Gracias a la Vida




1.

เธอไม่อาจพูด เธอไม่อาจเงียบ
ผีเสื้อบินเข้ามาในห้อง ระหว่างม่านมู่ลี่ไม้ไผ่กับบานหน้าต่างกระจก

ผีเสื้อตัวนี้เลื่อมลายน้ำเงินฟ้าครามงามแปลกตา

คลับคล้ายคลับคลาคลื่นทะเลซัดเข้าสู่ฝั่งในคืนแรม

ขอบปีกแตะแต้มฟองคลื่นขาว

เพื่อนชาวญี่ปุ่นเคยบอกว่า"ผีเสื้อเป็นตัวแทนแห่งจิตวิญญาณ

เมื่อผีเสื้อบินเข้ามาอยู่ระหว่างหน้าต่างและม่านไม้ไผ่

คนที่รักที่สุดกำลังเดินทางมา...
ไม่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ กำลังจะตาย หรือตายจากไปแล้ว

จัดเตรียมบ้านเรือนไว้ให้พร้อม"

ช่อดอกไม้ใบไม้สดใหม่เพิ่งตัดจากต้นควรเบิกบานอยู่ในแจกัน

น้ำหวานคั้นจากผลไม้ป่า ก็น่าจะเต็มเปี่ยมอยู่ในเหยือกแก้ว

เวลาจะติดปีกบินไปอย่างรวดเร็ว

ไม่ช้า เสียงกระดิ่งหน้าประตูรั้วจะดังขึ้น

คนที่รักที่สุดกำลังจะมา !

หากคำเอ่ยอ้างของเพื่อนเป็นจริง

เธอรู้ดีว่าใคร !


"โอ ที่รักของฉันจ้ะ" เธอพูดกับแม่บ้าน

“ฉันจะออกไปเด็ดดอกไม้ป่ามาเต็มตระกร้า เก็บลูกไม้ป่าหอมหวาน

ทั้งราสเบอร์รี่ ดริวเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ทั้งสีแดงสีดำ มาใส่ไว้ในโถแก้ว

ลงไปเอาไวน์แดงจากห้องใต้ดินมาเตรียมไว้ให้พร้อม

เย็นนี้เราจะทานเนื้อทอด ราดด้วยซ๊อสข้นสีน้ำตาล

กับมันฝรั่งหัวเล็กต้นฤดู”

2.

เธอเดินเร็วผ่านสวนน้อย ข้างนอก ดอกแอ๊ปเปิ้ลส่งกลิ่นหอมหวานชื่นใจ
เสียงกีต้าร์หวานแว่วมาจากบ้านสีขาวหลังโน๊น
“กราเซียส อา ลา วีดา” โดยเมอร์ซีเดส โซซ่า รินล้นเติมเต็มจิตวิญญาณ

ชายโดดเดี่ยวผู้ดำดิ่งด้วยกตัญญูรู้คุณ

ขอบคุณชีวิต ขอบคุณ และ ขอบคุณ

ไม่ว่าชีวิตจักเป็นเช่นไร


ฤดูใบไม้ผลิเริ่มขึ้นเมื่อเกือบสองเดือนมาแล้ว ผลไม้ป่ากำลังสุกงอม

มวลดอกไม้เบ่งบานหอมอวลอยู่บริเวณชายป่าหว่างต้นหญ้าเขียวขจี

โอ กราเซียส อา ลา วีดา ขอบคุณชีวิต


3.

ดอกไม้ป่าสีเหลือง สีส้มและสีฟ้าม่วงแซมด้วยใบสีเขียวสดชื่นอยู่ในแจกันดินเผาสีทราย

เหยือกแก้วใสใส่น้ำสีแดงคั้นจากลูกราสเบอร์รี่

ลูกพลัมป่าและลูกไม้เล็กสีแดงสีดำ ผิวสดเต่งตึงดุจอัญมณีในตะกร้า

ทุกสิ่งที่จัดเตรียมเปล่งประกายสดใสในริ้วสายประกายทองที่ส่องผ่านหน้าต่างกระจกเข้ามา

วันในฤดูใบไม้ผลิยาวขึ้นเสมอ กลางคืนมาเยือนในยามดึกและมีอายุสั้น

เธอนั่งกอดเข่าอยู่บนเบาะนุ่มที่ขอบหน้าต่างหนา สายตาทอดมองสู่ประตูรั้วที่เปิดกว้าง

ปรารถนาเห็นเขาก้าวเดินอย่างสง่างามมาตามทางยาวสู่ตัวบ้าน

ผีเสื้อยังอยู่ที่นั่น คล้ายมันเองก็รอการกลับมาของเขาอยู่เช่นกัน


4.

ร่างที่เดินโขยกเขยกใกล้เข้ามาทำให้นึกถึงต้นหลิวแล้งน้ำเนิ่นนาน
เหมือนเสื้อสักหลาดเก่าขาดซอมซ่อ

รอถูกตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไว้ใช้สอยขัดเครื่องทองเหลือง

เหมือน
....เหมือนขี้ผึ้งละลายจากแท่งเทียนบนเชิงช่อ

เหมือนขี้เถ้าในเตาผิงหลังไฟมอด

โอ...ความฝันของชายเดินทาง

เรือของเขาอับปางลงเสียแล้ว


เธอไม่อาจพูด

เธอไม่อาจเงียบ

"ขอบคุณชีวิต ไม่ว่าจักเป็นเช่นไร"
ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ

ที่เขายังไม่ตาย.




*

*แรงบันดาลใจจากคำว่า"Gracias a la Vida" ในเพลงชื่อเดียวกัน
ร้องโดย Mercedes Sosa
เนื้อร้องและทำนองโดย Violetta Parra
ที่นำมาวางไว้ในบล้อก
 Follow link below for Spanish Lyrics with English & Thai translations.
เนื้อเพลงภาษาสเปน คำแปลภาษาอังกฤษและไทยอยู่ที่ลิงค์นี้ค่ะ
http://jasminemoment.blogspot.com/2011/12/gracias-la-vida-thank-you-to-live.html

ต่อไปจะนำเนื้อร้องทั้งภาษาสเปน อังกฤษ และที่แปลเป็นไทยโดยจัสมินมาลงนะคะ ^^

13.11.53

ปราสาทเก่าและงานศิลปะร่วมสมัย Castle in Malmo & Contemporary Art Exibition

photos by J.V.W.



วันนี้พวกเราพาไปดูปราสาทเก่า
มาถึงแล้วเคยรู้สึกยังไงตอนเด็ก
ก็ยังคงรู้สึกยังงั้น
ปราสาทนี้อยู่ในเมืองมาลเมอ
พอดีมีงานแสดงศิลปะร่วมสมัย
เราเลยได้ชมงานด้วย








พวกเรามีกันสามคนค่ะ ^^













ดูภาพปราสาทแล้ว
รู้สึกยังไงกันมั่งคะ

































สาวญี่ปุ่น
อย่าสงสัยว่าผิดงาน
เพื่อนพี่ชาย
มาด้วยกันค่ะ

^^














































รองเท้าคนเดินทาง
นึกถึงบทกวีกลอนเปล่า
ที่จัสเขียนถึง แวน ก๊อห์ก

รองเท้าคนละรุ่นกัน
ของวินเซนท์เจ๋งกว่าเยอะ
ตามไม่ทันก็ดีละ ^^





___________________________________
ทำเสร็จละจัส ศศิชอบ(เกือบ)ทุกรูปเลยจ้ะ
^^

12.11.53

อยู่อย่างไรในสวีเดน 3




วันนี้พาดูห้องนอนห้องน้ำ
อพาร์ทเมนท์พี่ชายใหญ่
ก่อนนี้เวลาไป
มีหน้าที่ถ่ายภาพอย่างละเอียด
ให้แม่ดู

แม่ไม่อยู เก็บไว้ดูแทนแม่






















































เข้าสู่ส่วนอาบน้ำ

ต้นไม้ชมวิว

















บริเวณเชื่อมต่อห้องน้ำห้องนอน

ชอบที่มีต้นไม้ใบเขียว























ห้องนำสุดสะอาด ^^
ไม่ต้องเหนื่อยสักนิด



















สะอาด ... สบาย











































ขยะเอามาเก็บไว้ตรงนี้



















___________________________________________________
เหลือภาพปราสาทเก่าอีกชุดนึงค่ะ
จะลงก่อนจัสถึงบ้าน
ลงบ่ายๆนี้

9.11.53

อยู่อย่างไรในสวีเดน 2

อพาร์ทเมนท์ในเมืองมาลโม สวีเดน
จากห้องนั่งมายังห้องครัว

























โคมไฟที่มุมหนึ่งในห้องครัว
ต้นไม้ใบเขียว



















ห้องครัวแสนสะอาด





















ติดบ้านไว้เสมอเลย
อากาศสุดหนาว
รักษาอุณหภูมิของร่างกาย



















จุดเทียนกลิ่นกาแฟ
หลังมื้ออาหาร
จิบกาแฟกับคอนยัค
หรือ อัมมาเร็ตโต้
เหล้าหวานหลังอาหารในแก้วเล็ก
ทรงเพรียวบางที่เรียกว่าแก้วชแน้ป
ใส่ได้แค่อึกเดียว
แล้วค่อย ๆ จิบ
หอม ช่วยย่อย และอุ่นท้อง
























แซลมอนรมควัน โรยพริกไทยดำ
บีบมะนาว
และควรมีใบดิล ที่เรียกว่าผักชีลาว





















นี่ไงคะใบดิล (ผักชีลาว)
เข้ากันดีมาก
เวลาทานกับซ้อสที่ทำจากมัสตาร์ด
ต้องสับใบนี้ใส่ลงไปด้วย
ชอบซ้อสนี้มากด้วยค่ะ



















มีทบอลหมูหรือเนื้อกับบราวน์ซ้อส
อาหารประจำชาติ
ทานกับมันบด
แตงกวาฝานบางดองน้ำส้มกับเกลือ
แก้เลี่ยน
และลินกอนเบอร์รี่สีแดง
รสหวานนิดหน่อย





*

7.11.53

อยู่อย่างไรในสวีเดน


















พาเที่ยวอพาร์ทเมนท์เรียบง่าย น่าอยู่ ของบิ้คเจ ที่เมืองมัลโม ทางใต้ของสวีเดนค่ะ

ทุกครั้งที่กลับมาเมืองไทยแล้วใช้เวลาอยู่ด้วยกัน บิ้คเจจะบอกเสมอว่า อย่าซื้อของกระจุกกระจิกมาแต่งบ้าน
ให้เก็บเงินไว้ซื้อชิ้นใหญ่ที่มีดีไซน์ที่ถูกใจงานศิลป์ที่ดี ชิ้นเดียวก็พอแล้ว ของแต่งบ้านที่เยอะเกินไปทำให้บ้านรก และไม่มีชิ้นใดที่โดดเด่น
นี่คือโคมไฟห้อยเพดานที่เป็นจุดเด่นในห้องนั่ง ใช้เป็นที่รับแขก




เปิดประตูอพาร์ทเมนท์เข้าไปจะมีห้องข้างหน้า
เป็นที่กำจัดหิมะหรือเม็ดฝน
มุมขวาไปสู่ห้องเล็ก
มุมซ้ายไปยังที่แขวนเสื้อโค๊ต เสื้อฝน ร่ม
เวลาจะออกไปข้างนอกก็คว้ามาสวม
เวลากลับมาก็แขวนไว้พักความชื้น
บ้านทั่วไปจะมีกระจกยาวไว้ให้ตรวจดูความเรียบร้อย
ทั้งผู้มาเยือนและเจ้าของบ้าน


















นี่ก็ที่แขวนเสื้อโค๊ตค่ะ
เสื้อที่แขวน
เปลี่ยนไปตามฤดูกาล
















สปอร์ตไลท์ให้แสง
ทำให้ห้องน่าสนใจขึ้น
ก่อนก้าวเข้าสู่ห้องรับแขก
เห็นมั้ยคะ
เธอเขียนอะไรไว้เหนือประตู
Ho, Ho, Ho

เสียงหัวเราะของซานต้า


จัสเห็นก็ยิ้มแฉ่งเลยค่ะ
เห็นท่าหัวเราะงอหาย หงายหน้าของเจ้าของอพาร์ทเมนท์เลย
ตอนไปถึง ยังไม่กลับมา











ที่นี่ก็เข้าสู่ห้องรับแขก
มีโคมไฟห้อยลงมาเป็นจุดเด่นห้อง

บ้านเราเป็นพวกต่อต้านแสงนีออน
ที่เริ่มต้นการใช้แสงกับแผงโฆษณาในอเมริกา
แสงนีออนเป็นแสงเย็น
เราชอบแสงสีเหลืองที่ทำให้อบอุ่น ให้ความเป็นบ้าน
ที่เรียกว่าแสงอุ่นค่ะ
แต่แสงเย็นให้ความสว่างเหมือนแสงกลางวัน
จึงต้องมีบ้าง




















เห็นแล้วง่วงสบายไหม

อยู่คนเดียวนาน ๆ ก็เหงาถึงตายได้เหมือนกันนะคะ
คิดถึงบ้านแย่
โอย.. อยู่ได้นะ











มุมอ่านหนังสือค่ะ
อ่านหนังสือแล้วก็ผ่านเวลาไปได้
บิ้คเจเป็นนักอ่านตัวยง
สะสมไว้ไม่น้อย
หนังสือไปหยิบยืมจากห้องสมุดได้ง่าย ๆ














__________________________________________

จากประตูห้องเข้าสู่ห้องโถง แขวนเสื้อโค๊ต เข้าไปในห้องนั่งเล่นแล้ว
ต่อไปจะเป็นห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนค่ะ


ศศิ


5.11.53

ภาพหลงเหลือจากในเมือง มาลเมอ สวีเดน Malmo, Sweden

Malmo, Sweden
All photos by J.V.W.





คราวหน้า จัสจะพาชมงานศิลปะร่วมสมัย

แสดงในปราสาทเก่า เมืองมาลเมอ














รถบัสสีเขียวน้ำทะเลแบบยาว

เหมือนรถสองคันเชื่อมต่อที่ตรงกลาง

ข้างหลังป้ายรถเมล์นี้เป็นสุสาน












รถบัสแบบคันเดียว
ไม่มีพลาดเวลาแม้แต่นาที ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีคนรอรถเมล์กันแน่นขนัด ไม่ต้องรอกันหน้าดำหน้าแดง แต่อย่าลืมว่า คนทั้งประเทศมีจำนวนใกล้เคียงกับประชากรเฉพาะในกรุงเทพเท่านั้น ประชากรสิบเปอร์เซนต์ของบ้านเรา
ที่นี่ใช้จักรยานกันมากจนคุ้นชิน
พระราชินีซิลเวีย
ก็ขี่จักรยานไปพาร์คเหมือนกัน






ภาพมอลล์ที่อยู่ใจกลางเมือง



















ภาพข้างในมอลล์





















มอลล์อยู่ใกล้กับโรงแรมฮิลตันที่อยู่ทางด้านขวา
ที่พี่ชายพาสาวออกเดท

คราวหน้าไปปราสาทเก่ากันนะคะ
เคยไปมาหนนึงแล้ว แต่ตอนนั้นยังเด็กมาก














คิดถึงทุกคนที่คิดถึงกันค่ะ ^^



จัสมิน


_______________________________
เก็บรูปจากมาลเมอเท่าที่หลงเหลือ
ยังเหลือจากเยอรมันและอังกฤษ
เอาไว้ให้จัสเติมในกระทู้เก่าดีกว่า

ศศิคิดว่าจะลงรูปอพาร์ทเมนท์พี่ชายก่อน
แล้วค่อยลงชุดปราสาทเก่า อิ
จัสพาเที่ยว ไม่ได้พาชิม ^^
ศศิเลยไม่หิว




3.11.53

หอสมุดมหาวิทยาลัยลุนด์ ใบไม้ร่วง Library, Lund University, Sweden

ภาพถ่ายชุดใบไม้ร่วงจากเมืองลุนด์ เป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่สวยงาม
เมืองคุ้นเคย อยู่ใกล้เมืองมาลเมอ



Photo by J.V.W.

หอสมุดของมหวิทยาลัยอยู่อีกที่หนึ่งแยกจากมหาวิทยาลัยอย่างสิ้นเชิง
ใหญ่มากลองนึกถึงจำนวนหนังสือจากทั่วโลก
ว่ามีมากมายแค่ไหน


Photo by J.V.W.

ปลายฤดูใบไม้ร่วง
ร่วงมากมายกระทั่งเหลือเพียงลำต้น และกิ่งก้าน
บางคนเรียก naked trees ต้นไม้เปลือย
ปลิดใบก่อนผ่อนพักยาวนานในฤดูหนาว


Photo by J.V.W.

มีความหนาวเยือกอยู่ในทุกอณูอากาศ
ซึ่งจัสเรียกว่า อากาศกรอบเย็น
*
บางวันอย่างวันนี้ ฟ้าหม่น
บางวันมีแดด
แดดคือความรุ่มรวยอย่างสูงสุด
คนถึงถึงรักแสงแดดนัก



Photo by J.V.W.
ถนนสุขสงบ
ความเงียบ
ยิ่งใหญ่
อย่างเงียบ ๆ


Photo by J.V.W.


บิ้คเจยอกว่าเวลามาอ่านหนังสือที่นี่
ต้องถีบจักรยานมา ขับรถมา
หรือขึ้นรถเมล์มา
รถเมล์ที่นี่ตรงเวลาเป็นวินาทีเลย




น่าเสียดายที่ไม่ได้ภาพบ้านของครอบครัวที่รู้จักกันมานาน
ที่บิ้คเจพักตอนมาเรียนสองปีแรก
บ้านในฝัน
เก่าก่อนมันคือคอกม้าขนาดใหญ่
หน้าบ้านมีกุหลาบเลื้อยสีเหลือง อายุร้อยกว่าปี
กุหลาบเลื้อยไปออกดอกพรูถึงชั้นสองของบ้าน
สวยจนลงปกแมกกาซีนหลายครั้งหลายหน




*

30.10.53

ฤดูใบไม้ร่วงในเมืองลุนด์ Lund, Sweden

All photos by J.V.W.


ภาพถ่ายชุดนี้มาจากเมืองลุนด์ เมืองมหาวิทยาลัย

อยากดูใบไม้เปลี่ยนสีในยุโรป
อยากได้กลิ่นฤดูใบไม้ร่วง ทัมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

เหมือนกลิ่นฝนใหม่ตกลงสู่ดินร้อน ๆ ในเมืองไทย

คิดถึงฤดูที่คุ้นเคย










ต้นเมเปิลเปลี่ยนเป็นสีแดง






ใบไม้เปลี่ยนสีไม่พร้อมกัน
สีที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนกัน

แต่ต้นสนเขียวสดอยู่เสมอ
ไม่เปลี่ยนไป
^^











แถบนี้ยังเขียวอยู่ สวยจริง ๆ




















หลากหลายสีใบไม้

สงบ ... เงียบ ... สะอาด และ งดงาม

ตามธรรมชาติ








สวยจริง
สวยกว่าดอกไม้บางชนิดอีก

สวย...

ก่อน...

ร่วง














สวยจนซึม
เงียบจนเหงา
ซึ้งจนเศร้า
เหงาจับใจ















________________________________________
รูปเมืองลุนด์เพิ่มเติมและเรื่องเล่าของจัส ศศิจะลงต่อ
ลงไม่ครบ ลงยาก จัดยากค่ะ
จัสพาดูใบไม้ร่วง
แล้วยังพาเที่ยวอพาร์ทเมนท์บิ้คเจ หนุ่มโสดยอดเท่ของศศิ
พาถึงห้องนอนเลย อิ ... ปลื้ม


ขอบคุณจัส ^^

ศศิ

*