23.10.53

ข้ามฟ้าฝากฝั่ง



















เลือนรางจางหายในสายหมอก
ระลอกอากาศพรากฝนหนาว
ใต้ฝนทิ้งฝนที่หล่นกราว
ให้ร่วงพราวใบไม้ได้ต้องตัว

อุ้มน้ำช้ำชอกกลีบดอกไม้
ก้านใบเปียกปอนอ่อนแสงสลัว
ฤดูหล่นฝนมากฟากหม่นมัว
ฟ้าแผดแสงกลัวหลายชั่วครั้ง

ข้ามฟ้าลาไกลไปลิบลิบ
กระซิบคำถ้อย...ร้อยฝากฝัง
น้ำมากหากดินอย่าสิ้นพลัง
เมฆบังตะวันนั้นยังคง

ดอกไม้โชกฝนเมื่อหนก่อน
แสงร้อนสาดส่องพลันล่องผง
เกสรร่อนคล้อยลอยมาลง
ถิ่นเหมาะเจาะจงที่ตรงใจ

เช่นกันฝันใฝ่อย่าได้หมด
เช่นกันจารจดบทสมัย
เช่นอณูเกสรที่ว่อนไกล
เช่นหทัยโบยบินไม่สิ้นทาง

ท่ามกลางพร่างฤดูใบไม้ร่วง
แสงสรวงดวงฟ้ามาหลังสาง
ใบไม้เปลี่ยนสีตามปีวาง
แต่ลำต้นสีไม่จางยังเหมือนเดิม



________________
จัสส่งบทกวีมาจากมิวนิค
ภาพจากลอนดอนค่ะ
ศศิ

3 ความคิดเห็น:

  1. มีส่วนที่เปลี่ยนแปลง และสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไป
    สำคัญที่อะไรเปลี่ยน อะไรไม่เปลี่ยน

    งานหลายชิ้นยิ่งอ่านยิ่งคิด
    ยิ่งคิดยิ่งพบ
    สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปของจัส

    พึงใจ ^^

    ตอบลบ
  2. งานเขียนพี่จัสมีต้นไม้งอกออกมาเสมอ

    ^^

    เห็นแต่ลายอักษร
    คิดถึงเจ้าของหมึกดอกไม้แล้ว

    T T

    ตอบลบ
  3. พี่จัสชักเห็นต้นไม้อ่อนงอกออกมาแล้วค่ะจันทร์

    ดินในยุโรปจะเป็นสีดำ ร่วนซุย สะอาด

    ใบไม้ร่วงเหล่านี้ เป็นปุ่ยและที่กำบังที่ดี

    เมล็ดนอนสงบนิ่งใต้ผ้าห่มหนาใบไม้

    รอเวลางอกออกมา

    ^^


    .....

    ตอบลบ