Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


28.11.59

ข่าวใจ


กุหลาบอังกฤษ กลามิส คาสเซิล Glamis Castle Rose

ทุกชั่วขณะสั้น ๆ เมื่อวันคืนใจดีให้ได้มีเวลาว่าง
ฉันถูกดึงทึ้งด้วยสองสิ่ง
เขียนคำประพันธ์ หรือดูแลกุหลาบ
สองทางเลือกระหว่างการนั่งอยู่กับที่กับการเคลื่อนไหวไปมา 
เคลื่อนไหว จากกุหลาบต้นหนึ่งสู่กุหลาบอีกต้นหนึ่ง
..และอีกต้น
โดยไม่รู้ตัว ฉันมักเลือกที่จะเคลื่อนไหว
มันง่ายกว่า เร็วกว่า และดูเหมือนมีประสิทธิภาพกว่าการนั่งนิ่งๆ..
ทว่า การนั่งนิ่งๆ เขียนถ้อยคำจนจบแม้ใช้เวลา
หลายครั้งคราคือการปลีกตัวไปจากมัน..ข้ามวันคืน
แต่นั่นให้ความอิ่มเอมกับฉันเสมอมา ตั้งแต่เริ่มต้นเขียน รอเขียนให้จบ
จนเสร็จสิ้นการเขียน

ช่วงเวลานี้ที่พวกเราจำต้องเผชิญหน้ากับความวิปโยค
เราสูญเสียพระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรม
ดวงพระราชหฤทัยเต็มไปด้วยความรัก เมตตาห่วงใย
พระมหากษัตริย์ผู้ทรงลงมือทำ

ในยามยาก พระองค์ท่านทรงราดรดแผ่นดินมิใช่ด้วยพระอัสสุชล
หากเป็นพระเสโทพรั่งพรู
ที่ของพระองค์คือท่ามกลางพสกนิกร
นาไร่ ป่าเขาลำเนาไพรรกชัฏ
บนถนนหนทางขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ ปลักโคลนหรือร้อนแล้งฝุ่นตลบ

ในช่วงเวลาเช่นนี้
ถ้อยคำของฉันลดน้อยถอยลง
แม้แต่ดอกกุหลาบที่แย้มคลี่ทั่วสวน ที่เคยใช้แทนถ้อยคำ
บัดนี้ดูหมองหม่นจริงแท้

ย้ำบอกตัวเองว่า ดูนั่นกุหลาบ บทกวีที่เขียนไว้ในสวนไม่ใช่หรือ
ดูนั่น ผีเสื้อสีพระจันทร์แวะเวียนกุหลาบมอญชมพู
กุหลาบบลูฟอร์ยูสีชมพูอมฟ้าสะดุ้งเสียงดังจากรถที่ผ่านไป สำลักควันที่รถคันนั้นพ่นออกมา
น่าเวทนานัก
ฉันได้กลิ่นควันเหม็นๆ และไม่ลืมความเศร้าโศกที่กัดกร่อนบั่นทอน
ไม่ลืมทุกความรู้สึกที่รู้สึก

ความคิด บางครั้งพาฉันฉวัดเฉวียนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
อาจเกืดจากการเชื่อมโยงหรือการก้าวข้าม หรือการกระโดดไร้ทิศทาง
หากความรู้สึกคือความจริง
ความจริงที่ต้องรับมือ
รับมือกับความรู้สึกที่ไม่ปรารถนา

บางวันเก่าก่อน 
ความฝันเหมือนเคยท่วมล้นเป็นน้ำตาก่อนตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังๆ
วันนี้
ฉันรินรดหยาดเหงื่อลงบนสวนฝัน แทนการประพรมด้วยหยดน้ำตา
รื้อฟื้นสวนกุหลาบด้วยความรู้สึกดีๆที่เคยมี
เชื่อว่า สวนจะกลับมาสดชื่นเหมือนที่เป็นมา

ไม่นานหรอก ฉันจะมองผ่านหน้าต่างออกไป รับกำลังใจจากดอกใบสดใสขณะเขียนบทกวี

ข่าวใจของวันนี้จึงเต็มไปด้วยความหวังที่เป็นไปได้
ที่ฉันส่งมาถึงคุณ
 
ตัดกุหลาบมาใส่แจกันในบ้าน
เพื่อนำข้างนอกเข้าไปไว้ข้างใน

มีข้างในอยู่ข้างนอก
และมีข้างนอกอยู่ข้างใน
ดังนี้ ทุกสิ่งจึงราบรื่น กลมกลืน สะดวกสบาย
 ใช้ชีวิตง่ายๆอยู่ในความกลมเกลียว
 


กุหลาบอังกฤษ กลามิส คาสเซิล Glamis Castle Rose




*


16.11.59

อภิจิต


อภิจิต จิตที่ยิ่งใหญ่ วันชาวไทยรวมตัวกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี


โอ้องค์กษัตรา
สุริยาแห่งปวงไทย สถิตย์อยู่คู่ไผท
คือดวงใจไปตราบนาน

*    

พระองค์ทรงละทิ้งเพียงสังขาร
ไม่ได้ละทิ้งปวงชน
สู่หาวหนสกลนิรันดร
ส่องแสงในกมลนำทาง

16 ตุลาคม 2559
วันที่สามหลังจากวันสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัว
หลังวันแดดแรงร้อนรุ่มรุนแรงมาหลายวัน
วันนี้ท้องฟ้าก็หม่นมืดตั้งแต่เช้าจนยามสาย
ก้อนเมฆดำเข้าครอบคลุมเป็นวงกว้างจากทิศตะวันออกเฉียงเหนืออ้อมไปทิศตะวันตกเฉียงใต้
ทว่าท้องฟ้าไม่ได้มืดมนจนเกินไปด้วยแสงสีขาวเจือทองทางทิศตะวันออก
ไม่ผิดความรู้สึกในจิตใจนับจากวันนั้น
วันที่ 13 ตุลาคม 2559


พระองค์ทรงจากไปโดยมิได้ละทิ้งพวกเรา
พระองค์ทรงจากไปสถิตย์อยู่ ณ ดินแดนแห่งนิรันดร
ผลพวงแห่งการลงมือทำด้วยความรักและห่วงใยประชาชนของพระองค์
เจริญงอกงามบนแผ่นดินนี้มาเนิ่นนาน
ยังคงดำรงอยู่ และจะเติบโตแผ่ขยายต่อไปในอนาคต ไม่มีที่สิ้นสุด

ท่ามกลางความทุกข์ยาก
พระองค์ไม่ได้หลั่งน้ำตาแด่วิปโยค
หากทรงตรากตรำราดรดด้วยหยดหยาดเหงื่อขณะทรงลงมือทำ
เพื่อแก้สารพันปัญหาที่ทำร้ายและบั่นทอนประชาชนของพระองค์
น้ำที่รินไหลจากดวงพระหฤทัยไม่ผิดน้ำจากฟ้าที่หลั่งรินรดแผ่นดิน
ให้พฤกษานานาพันธุ์ได้มีชีวิตเติบใหญ่ มีชีวิตรอดอยู่ได้ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่
ที่มีนามว่า ภูมิพล พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่

อภิจิต การรวมกันของจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่
มีครั้งไหนหรือที่จิตวิญญาณของผองไทยจะยิ่งใหญ่ได้เช่นนี้
ทั้งเมื่อยามยังทรงพระชนม์ชีพและทั้งยามจากพราก
จิตวิญญาณแห่งปวงชนชาวไทยยิ่งรวมตัวกันได้แน่นเหนียวและหนักแน่น
ยืนหยัดและยืนยันต่อโลกและสวรรค์ว่า
พระองค์ท่านคือศูนย์รวมจิตใจของพวกเรา
พลังแห่งความรัก ความห่วงใย สู่การลงมือทำของพระองค์
คือพลังอันไม่สิ้นสุดของแผ่นดิน
ไม่ว่าในสภาวะใด
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ




*



ยังคงงอกงาม


25 ตุลาคม 2559

His Majesty The King's photo was taken in 1982 at Chiang Dao, Chiang Mai by Napan Sevikul

ในหลวงของปวงชน
พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย
หากงานของพระองค์ยังคงหายใจอยู่บนแผ่นดิน

"ถ้าประชาชนไม่ละทิ้งข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะละทิ้งประชาชนได้อย่างไร"

พระองค์ทรงไม่เคยทอดทิ้งพวกเราเลย
งานของพระองค์ยังคงหายใจ
พระกรุณาธิคุณยังคงงอกงามอยู่ในจังหวะการเต้นของหัวใจปวงชน
ที่ไม่สั่นคลอน

จัสมิน




https://www.facebook.com/napan.sevikul
หมายเหตุ Napan Sevikul


นภันต์ เสวิกุล ผู้ฉายเล่าว่า "พระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้ ฉายที่บ้านแม่แกน้อย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2525 เป็นภาพที่สะเทือนความรู้สึกมากมาย และจำได้ไม่มีลืม

ในบ่ายวันนั้น อากาศร้อนอบอ้าว บริเวณโดยรอบ เป็นลานดินแดงแห้งแล้ง มีกระท่อมของชาวมูเซอร์แดงปลูกห่างๆกัน
ในวันนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ และ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ โดยเสด็จฯ
ระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรสภาพภูมิประเทศเบื้องหน้า สลับกับแผนที่ในพระหัตถ์ที่ทรงกางออกอยู่นั้น ทันใด ก็มีลมหมุนเล็กๆ หมุนมาตรงที่ประทับยืนอยู่นั้น ฝุ่นแดง กระจายไปทั่ว แผนที่แทบหลุดจากพระหัตถ์ .. เจ้าหน้าที่ต่างตกใจ
แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับยืนนิ่งๆ อย่างมั่นคง ทรงรวบแผนที่ไว้ในพระหัตถ์ ถอดฉลองพระเนตรแล้วเช็ดพระเนตร สักครู่ จึงยกแผนที่ขึ้นจัด และกางออก ทรงงานต่อไปเสมือนหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น ....

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ติดตาช่างภาพตัวเล็กๆ มาตลอดระยะเวลากว่าสามสิบปี โดยเฉพาะภาพความเวิ้งว้างว่างเปล่าของที่ราบเชิงเขาอันแห้งแล้งนั้น"
ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ