Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


30.8.55

สิ่งที่เชื่อมโยง Fragments of our song



  1.

"มีกี่คนในโลกได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก"

"เป็นคนต้องทำงาน ต้องอยู่ให้รอด ต้องอยู่ให้ได้ ต้องอยู่ให้ดี ความฝันกินไม่ได้
ใคร ๆ ว่ายังงั้น เราก็เป็นไป ด้วยการไปเป็น ... อะไรบางอย่าง
ดูแลความจริง ละเลยความฝัน"

"ละเลยไม่ใช่ละทิ้ง"

"ผมอยากจดจ่ออยู่กับมัน"

"ถ้าคุณมีเวลา คุณจะทำอะไรเป็นสิ่งแรก"

"ลงมือ ตอนนี้ชิ้นส่วนยังไม่ปะติดปะต่อ"

"ไม่ห่วงเลย ชิ้นส่วนที่ไม่ปะติดปะต่อพวกนั้นมาจากคน ๆ เดียว เมื่อมาจากคน ๆ เดียว มันย่อมเชื่อมโยง"


2.


"ว่าวตัวสวยนั่นไม่น่าติดอยู่บนเสาไฟฟ้า"

"แล้วมันควรติดอยู่ที่ไหนล่ะครับ" เขาอยากระเบิดหัวเราะ "ที่ต้นไม้จะดีกว่ามั้ย"

"มันน่าจะติดอยู่กับเชือกป่านที่ม้วนอยู่กับกระป๋องในมือเด็กคนนึง"

"มันเป็นว่าวธรรมดาที่คุณเห็นว่ามันสวยเป็นพิเศษ"

"ว่าวสีสดใส เหมาะจะใช้ตกแต่งระเบียง"

"ไม่ใช่ว่าวตัวนี้นะ"

"โอ ไม่หรอกค่ะ ว่าวตัวนี้เป็นของเสาต้นนี้ไปแล้ว คุณว่าเจ้าของจะเอามันลงมาได้มั้ยคะ"

"ว่าวและเจ้าของมีชะตากรรมเป็นของตัวเอง"

"บังเอิญซะจริงที่มาเห็น"

"บังเอิญจนเหมือนจงใจ"

"อะไรนะคะ"

"ผมได้เห็นฟ้า คุณมองว่าว คุณเห็นท้องฟ้าหรือเปล่า"

"เมื่อกี้ไม่เห็น แต่ตอนนี้เห็นแล้ว"


3.


"ของฝาก" เขาส่งห่อกระดาษเล็กเท่าปลายนิ้วโป้งให้เธอ

แววตาเธอบอกเขาว่าอยากฟังเรื่องเล่า

"ที่หมู่เกาะ เราพบเกาะเล็กมากเกาะนึง
มันดึงดูดผม ผมขอให้แวะ
แปลกนะ ไม่มีต้นไม้เลยซักต้น ตอนเจอแดดเปรี้ยงเลย
ไม่มีใครลงไปกับผม ผมไปกับเด็กลูกเรือ
คุณเชื่อมั้ย เกาะนี้เป็นเกาะสีม่วง
เปลือกหอยเล็ก ๆ สีม่วงอ่อนแก่ไม่เท่ากันปกคลุมหนาจนแทบไม่เห็นทราย
   ผมไม่เคยเก็บของพวกนี้แต่อยากให้คุณเห็น
เปลือกมันบางมาก ผมหยิบเบา ๆ เอากระดาษห่อไว้
เปิดดูอีกครั้ง มันก็ไม่ใช่เปลือกหอยเล็ก ๆ อีกต่อไป"

เธอค่อย ๆ แง้มดู
เม็ดทรายละเอียดเกือบเหมือนผงฝุ่นสีม่วงจางอยู่ในห่อนั้น
เธอเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้ม
"ถ้าเป็นเม็ดทราย มันก็เป็นทรายละเอียดที่สุดเท่าที่เคยเห็น
ถ้าเป็นฝุ่นผง มันก็เป็นฝุ่นผงที่มีสีสวยที่สุด"

"คุณไม่ไปหามัน ผมเลยพามันมาหาคุณ"

"เรื่องเล่านี้น่ารัก ฉันจะไม่ลืมความรู้สึกตอนฟังเรื่องเล่านี้เลย"

"ความรู้สึกนี้มีชื่อมั้ยครับ"

เธอยิ้ม ปล่อยเวลาผ่าน เธออยากฟังเขา

"ก็แค่เรื่องเล่าอีกเรื่องนึงจากผม บวกความคิดถึง
ไม่ก็ในทางกลับกัน"


*

"จะมีซักกี่คนกันคะที่ได้ทำสิ่งที่อยากทำ"

"คนที่ทำสิ่งไม่อยากทำ มักพบบางสิ่งที่อยากทำในระหว่างทาง"

"งั้นคนที่ทำสิ่งที่อยากทำ ก็ต้องพบสิ่งที่ไม่อยากทำด้วยเหมือนกัน"

"เข้าใจได้เร็ว"

"คุณว่าเราจะปะติดปะต่อสิ่งที่อยากทำและไม่อยากทำเข้าด้วยกันยังไง
มันจะเชื่อมโยงกันมั้ยนะ"

"เมื่อมาจากคน ๆ เดียว ชิ้นส่วนเหล่านั้นย่อมเชื่อมโยง ใครพูดไว้ครับ"




*





23.8.55

เชิญลม Let the fresh air in


1.

ยามสายวันนี้พายุก่อตัวอย่างรวดเร็ว
เสียงหน้าต่างบ้านใกล้ ๆ กระแทกแรง ๆ แล้วเงียบลง

 ใครสักคนปิดมันแล้ว

แต่ไม่ใช่ที่นี่
ชายหนุ่มในห้องเย็นเยียบเดินไปเปิดหน้าต่าง 
หยิบรีโมทคอนโทรล ปิดเครื่องปรับอากาศแล้วนั่งลง
นอกจากผ้าม่านแล้ว สิ่งอื่นที่ปลิวได้ เขาก็ปล่อยให้มันปลิว
พายุขับไล่ความอบอับออกไปทางหน้าต่างอีกด้านหนึ่ง
อากาศที่เข้ามาจะใหม่อยู่ได้สักพัก
ในห้องที่ทึบทึม


2.

ความตื่นเต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ สร้างชีวิตชีวาในวันน่าเบื่อที่เขาเหนื่อยหน่าย
พายุหอบกลิ่นบุหรี่ที่หมักหมมในห้องออกไป
พัดผ่านเส้นผม ใบหน้า ร่างกาย
เขารู้สึกสดชื่นที่พายุเคลื่อนไหวเข้ามาในห้องที่ไม่เคลื่อนไหว
ห้องที่ทึบทึม


3.

พายุมา แล้วพายุก็ไป พายุหอบเมฆไปด้วย
ทิ้งอากาศใหม่ไว้ในห้อง
ฟ้าเปิด เขาลุกขึ้น ก้มลงเก็บกระดาษเกลื่อนกล่นบนพื้น
เหลือบมองใบไม้แห้งที่พายุพาเข้ามา
ปิดหน้าต่าง
หยิบรีโมทคอนโทรล
เปิดเครื่องปรับอากาศ
แล้วนั่งลงในห้องทึบทึม
ที่ไม่อบอับอีกต่อไป


เสียงบ้านข้าง ๆ เปิดหน้าต่าง
เขาหัวเราะหึ ๆ





*


19.8.55

เฟื่องฟ้าสีชมพู ประตูสีขาว / Which side of the door


เสียงกระดิ่งบนเสาข้างประตูรั้วสีฟ้าดังขึ้น
ที่จริงมันไม่ใช่กระดิ่งหรอก แต่เป็นกระดึงผูกคอวัวของชนเผ่านูบาในอัฟริกา
ของตกทอดของบ้านถูกเก็บไว้นานปีจนเธอนำมันมาใช้
เสียงของมันกังวาน ทุ้มลุ่มลึกแตกต่างจากกริ่งไฟฟ้าเพราะน้ำหนักของมัน


เสียงกระดิ่งวันนี้ดังเพียงสองครั้ง
เสียงเบา ๆ ก้องสะท้อนแทรกความเงียบสงบยามเช้า
เธอลืมตาตื่น เสียงคุ้นหูที่เจนใจ
เธอขับไล่ความงัวเงีย ลุกขึ้นคว้าเสื้อคลุมมาสวม เนื้อผ้านุ่มกร่อนบางเพราะเป็นตัวโปรด
ก้าวเท้ารวดเร็วลงบันได เธอเปิดประตูออกมาหยุดรอที่ระเบียง

เขา เดินสบาย ๆ อย่างคนคุ้นเคยกับสถานที่
ส่งรอยยิ้มในแววตามาถึงก่อน รอยยิ้มที่มาพร้อมเงาจาง ๆ ของความเศร้า
"ยังเช้ามาก ผมจะคอย" เขานั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมที่เคยนั่ง
นอกจากระเบียงนี้ เขาไปทุกที่ในสวน แต่ไม่เคยเข้าไปในบ้าน


"คุณจำได้ คุณจำได้ คุณจำได้"
เธอกล่าวเสียงใสเมื่อกลับออกมา
"จำได้ ? "
"คุณจำได้ ฉันรู้ คุณมาเพราะคุณจำได้"
เขานิ่ง
"เดือนนี้ วันฝนปรอย คุณอยู่ที่นั่น ฉันอยู่ที่นี่"
"ผมอยู่ที่ไหน"
"คุณเดินทางมากจนคุณเองก็จำได้ไม่หมด"
"เรา จดจำช่วงเวลา ไม่ใช่วันเวลา"
"ความรู้สึกในช่วงเวลา เพิ่งนึกถึงเรื่องนี้เมื่อสองคืนก่อน ตอนที่ดูหิ่งห้อย"
"ทิงเกอร์ เบลล์ บอกคุณอย่างที่บอกปีเตอร์แพนหรือเปล่าครับ"
"คิดถึงสิ่งดี ๆ แล้วเธอจะบินได้" เธอยิ้ม "ทิงก์ไม่ได้บอกโดยตรงหรอกค่ะ
แต่คืนนั้น ความคิดก็พาบินไปไกล"
"คุณอยากให้ผมอยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ที่นั่น"
"ตอนนี้ คุณก็อยู่ที่นี่แล้ว"


ตรงที่เขาสองคนนั่งอยู่ไม่เห็นประตูสีฟ้าหรอก
อันที่จริงด้านในของประตูเป็นสีขาวเหมือนตัวบ้าน
คนที่อยู่ข้างนอกเท่านั้นที่จะเห็นประตูสีฟ้า
ไม่ใช่คนที่อยู่ข้างใน


กิ่งเฟื่องฟ้ายื่นช่อดอกสีชมพูเหมือนหมู่เด็ก ๆ กระโดดขึ้น ๆ ลง ๆ ดีอกดีใจอยากร่วมวงสนทนา
แต่พวกมันคงต้องรอ
สายลม แสงแดดอ่อน ต้นไม้ดอกใบและริ้วน้ำร่วมกันบรรเลงเพลงผิวแผ่ว


ขนมปังปิ้ง ไข่ดาว กาแฟดำสำหรับเขา กาแฟใส่นมสำหรับเธอ
มื้อเช้าผ่านไปเงียบ ๆ
บทสนทนา บางครั้งเกิดขึ้นในความเงียบ


"ยังวาดรูปอยู่มั้ยครับ"
เธอพยักหน้า
"ยังอ่านหนังสือ ไปบ้านริมแม่น้ำ คุยกับคนโง่บนภูเขา"
เธอพยักหน้า
"ยังมองฟ้าอยู่"
"ค่ะ ฉันยังมองฟ้า แต่ไม่ได้มองตลอดเวลา เดี๋ยวหกล้ม" เธอหัวเราะ
"ยังเป็นคุณของผมอยู่หรือเปล่า"

เธอนิ่ง เขามอง

เสียงสะอื้น มันมาจากเธอหรือเขากันแน่
ไม่ใช่หรอก ทั้งสองไม่อยากร้องไห้ให้กันและกันเห็น
ต่างคน ไม่อยากทำให้อีกคนใจเสียเพราะตัวเองเสียใจ
ที่จริงไม่มีเสียงสะอื้นหรอก
ตะไคร่คงไปติดอยู่ในเครื่องทำน้ำผุดอีกแล้ว


เขายังรอฟัง 
เธอจะพูดสิ่งที่เธอคิดไหมนะ
เธอพูด
"โลกไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษ มีแต่คนที่รักโลกเป็นพิเศษเท่านั้น ที่จะรู้สึกว่า เขาเป็นคนพิเศษของโลก"

เขานิ่งฟัง
"เราเป็นยังไง ก็มักคิดว่าคนอื่นเป็นยังงั้น"
"นานทีก็อยากได้ยิน"
"ไม่ใช่คุณนี่คะที่บอกฉันว่า คำพูดไม่สำคัญเท่าสิ่งที่ทำ"
"ไม่ใช่ผม ไม่มีอะไรสำคัญกว่าอะไร นอกจากผลของมัน"

สายลมโชยผ่าน เสียงเขาบอกเธอเบา ๆ ว่า
"ผมจะไม่ถามคุณอีก ไว้ให้คุณบอกเองดีกว่านะ"
เธอยิ้ม 

เขาลุกขึ้น เธอลุกตาม
ทั้งสองเดินไปด้วยกันในสวน
"บางทีเราจะพบพันธุ์ไม้ใหม่ ๆที่สายลมเอามาฝาก" เสียงเธอสดชื่น
"ผมจำได้นะ"
เธอหยุดเดิน เงยหน้ามองเขา
"ฉันรู้ คุณจำได้"


ประตูสีฟ้า หรือประตูสีขาว ไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นอยู่ที่ คนมองอยู่ที่ด้านไหนของประตู


Pink Bougainvillea and the blue door


*





14.8.55

สถานใด (ในห้วงฉัน(ท์)) Song of the Moment , listen how the music plays


สัทธราฉันท์ ๒๑


ทุกช่วงเวลานภาแสง

ศิริรพิสำแดง

ภาพวิสุทธิ์แห่ง

วิถีจร


ทุกข์ร้อนใดจะถ่ายถอน

ขณะฤดิโรยรอน

ใจสะท้อนย้อน

ประโลมใจ


เป็นไรคือมิเป็นไร

ปะทะและละจากไป

ชื่นสุคนธ์นัย

ระหว่างกาล


ชีวิตยื่นขมระคนหวาน

จะริเลาะรึรุดผ่าน

เก็บ และ ปลูกหว่าน

ก็เราเอง


เงี่ยฟังซึมซับสดับเพลง

ดุริยะจะบรรเลง

ไพเราะ ในวังเวง

สถานใด




9.8.55

ประตูสีฟ้า เฟื่องฟ้าสีชมพู Pink Bougainvillea and The Blue Door


หลังประตูสีฟ้า เฟื่องฟ้าชูช่อชมพูสะพรั่ง
จากระเบียงบ้านยามค่ำ เธอเฝ้ามองหมู่หิ่งห้อยนับร้อยบินอยู่รอบต้นลำพูริมน้ำ
ลำพูต้นเดียวในอาณาบริเวณที่คาดไม่ถึง
ที่นี่เป็นดินแดนสุขสงบของหิ่งห้อย
ในสายตาคนเฝ้ามอง ทิงเกอร์เบลล์อาจโผบินอยู่ท่ามกลางแสงวิบวับที่เจิดจ้าในคืนมืด


นอกประตูสีฟ้าที่มีเฟื่องฟ้าสีชมพู
มีไม่กี่คนที่รู้  คนที่รู้ก็มีไม่กี่คนที่สนใจ
มีไม่กี่คนที่เชื่อว่าที่นี่มีหิ่งห้อย 
นำแสงกระพริบระยิบระยับเหมือนแสงดาวฤกษ์มาที่ต้นลำพู
หลังประตูสีฟ้าบานนั้น

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นของผู้เฝ้ามอง มันไม่สำคัญเลย

วันหน้าเนิ่นนานหลังจากนี้ ภาพที่กำลังมองอยู่อาจเลือนราง
เช่นเดียวกับภาพใบหน้าของผู้คนในชีวิตตั้งแต่เกิดมาลืมตาดูโลก
เช่นรายละเอียดที่หายไปจากใบหน้าเหล่านั้น
เช่นการหายไปของบางเหตุการณ์ที่เคยคิดว่าสำคัญ
เช่นเรื่องราวในหนังสือบางเล่มที่ลืมเลือน
แท้จริง สิ่งที่ทำให้จดจำได้ก็คือบางความรู้สึกที่ประทับล้ำลึกสุดใจ
สะท้อนภาพผู้คน เหตุการณ์ เรื่องราว ถ้อยคำ ที่ตราตรึง


เวลาคิดถึงแม่ หัวใจก็พอง ความรักเดิม ๆ เต็มปรี่
ความพองฟูของหัวใจกลบกลืนความโหวงเหวงในอกของลูกไม่มีแม่ในวันนี้
แต่ยังมีบางวันที่หลุดปากพึมพัมออกมาว่า ความคิดถึงนี่มันฆ่าคนได้
นี่ละความจริง


ความจริง นิ่งสงบอยู่ในตัวของมันเอง
ไม่มีท่าทีใด ๆ ไม่มีบทพิสูจน์
ผู้ครอบครองต่างหากที่ส่งเสียง
บางคนตะโกน บางคนพูด บางคนเขียน

ความจริงไม่ต่อว่า ไม่ห้าม ไม่ยุยง
เช่นเดียวกับผู้ให้ความเคารพต่อความจริง
ต่อความรู้สึกที่เกิดขี้นเมื่อเฝ้ามองฝูงหิ่งห้อย
ส่งแสงวิบวับอยู่รอบ ๆ ลำพูต้นนั้น 
ด้วยความเงียบ
หลังประตูสีฟ้าที่มีเฟื่องฟ้าสีชมพู





*
ทิงเกอร์ เบลล์ เป็นตัวละครใน บทละคร ปีเตอร์แพน เขียนโดย เจ.เอ็ม.แบร์รี่ ในปีค.ศ.1904
บทพูดที่จดจำได้คือ "คิดถึงสิ่งดี ๆ ซี แล้วเธอจะบินได้"

การนิ่งมองหิ่งห้อย ไม่ได้ทำให้บินได้
กระนั้น ความคิดในระหว่างนั้น ก็โผบินไปด้วยความเร็วที่เร็วกว่าการเดินทางของแสง
ความนิ่งสงบให้อิสรภาพต่อความคิด
เสมอ

*





1.8.55

เพลงจากบ้านขาว Prelude to A Song



เดินทางไกลคราวนี้ มีคำใดมาฝาก
ชั่วขณะที่จากพราก มีอะไรมาเล่า
แม้คาดหวัง กระนั้นไม่อาจคาดเดา
ใจมันฟู ๆ เบา ๆ
เหมือนสำลี


เพิ่งรู้
การจากพรากที่ดีนั้นมีอยู่
มีไว้ให้เหลียวดู ไม่ใช่เบือนหน้าหนี
วงกลมบนปฏิทิน เห็นแล้วยิ้มได้บางที
พรุ่งนี้เปลี่ยนชื่อทุกที
...ที่ตื่นมา


คราวเดินทางไกล
จำได้ตรึงใจ ใครห่วงใยห่วงหา
สายลมวกวนพัดพา
ต้อนรับกลับมา
สู่รวงรัง


เช่นกัน สายลมรำเพย
 ถ้อยเอื้อนเอ่ยจากคนข้างหลัง
 เรือน้อยลอยเลียบฝั่ง

อีกครั้ง อีกกี่ครั้ง

ยังเยือน




*