Home Photo

Home Photo
Happy New Year 2019

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
กว่าจะมาสวัสดีได้ก็ผ่านไปถึง 15 วันแล้ว
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
แต่เราก็ยังมีอีก 11 เดือนครึ่งที่เหลืออยู่ให้ได้ทำอะไร ๆอย่างที่ใจปรารถนา
ขอส่งความรู้สึกดี ๆ ส่งแรงกายและแรงใจ และความเบิกบานเป็นสุขถึงเพื่อนอ่านทุกคนค่ะ

ลงภาพวาดหมายเลข 5 ซึ่งเป็นภาพเล็กหรือภาพลองวาดในกระทู้ "บทกวีบนแคนวาส"แล้วนะคะ

จัสมิน
15 มกราคม 2562


26.3.55

บทส่งท้ายไซคี The Happy Pigeon


Psyche by William Adolphe Bouguereau


*(บทกวีบทนี้อิงส่วนหนึ่งของบทกวี "Ode of Psyche" โดย John Keats เขียนเมื่อปี 1820)


โอ้แม่เทพธิดา
ท่วงทำนองเพลงไร้เสียงที่ข้าไม่เคยพานพบ
ความกดดันอันแสนหวานและความทรงจำไม่อาจลืมเลือน


ให้อภัยข้าด้วยเถิดที่นำความลับของเจ้ามาพรรณา
ที่ข้างใบหูอ่อนนุ่มของเจ้าเอง


ข้าฝันถึงเจ้า
หรือว่าข้าเห็น
ไซคีผู้มีปีกและดวงตาฟื้นตื่น


วันนี้ ขณะเตร็ดเตร่ไปในป่าอย่างไร้จุดหมาย
ทันใด ข้าแทบสิ้นสติด้วยอัศจรรย์ใจ
เมื่อเห็นสองร่างงามอิงแอบแนบข้าง

ลึกเข้าไปบนผืนหญ้าหนา
ภายใต้หลังคาใบไม้และดอกไม้เบ่งบาน
ซึ่งสั่นไหว กระซิบกระซาบด้วยสายลม

ช้างห้วยละหาน สายธารรินไหล
หลบซ่อนอยู่ท่ามกลางอาณาเขตหลบเร้น

กลางดงดอกไม้สีผ้า สีขาวเงินยวง ช่อม่วงดอกน้อย
หัวใจเกสรส่งกลิ่นหอมตรลบอบอวล
ทั้งสองนอนอยู่บนเตียงดอกไม้
แขนและปีกโอบกอดกันไว้
ริมฝีปากมิสัมผัสหากมิใช่จากพราก
คล้ายแยกจากกันด้วยความง่วงงุนแสนนุ่มนวล
กระนั้นประหนึ่งจุมพิตที่ไม่อาจนับ
รุ่งอรุณจากแววตาอ่อนโยน ส่องประกายรัศมีแห่งรัก


ชายผู้มีปีกนี้ข้ารู้จัก

หากเจ้าล่ะเป็นใคร แม่นกพิราบแสนสุข

เจ้าคือไซคีของเขาใช่ไหม




*





25.3.55

สุดสายปลายทางและการเริ่มต้น The End and The Begining

Psyche & Eros by William Adolphe Bougureau



ไซคี หญิงผู้ติดตามความรักลืมตาตื่นฟื้นขึ้นมาเห็นเขา

โอใจดวงร้าว ฤดูหนาวแสนนานผ่านพ้น
อาทิตยาสาดลำแสงสีทองบัดดล
สายลมพัดพากระอายหอมจากทุ่งดอกไม้
อมฤตรสแห่งรักทรงพลานุภาพ


"อาไซคี หญิงผู้ซานซม ใยช่างโง่งม
ไม่รู้บ้างหรอกหรือ
ถึงเวลานี้ ไม่ใช่ความงามเจ้าที่ดึงดูดข้าดุจแม่เหล็ก
หากเพราะเจ้าไม่หมดศรัทธา
มุ่งมั่นจักหาข้าจนพบ
รักแท้ไม่มีจุดจบ ... ผ่านแลพบ
ศรัทธาที่ข้ายอมสยบ
วันนี้จึ่งมีเรา

เจ้าได้ทำทุกอย่างที่เจ้าต้องทำแล้วไซคี
ต่อแต่นี้จงอยู่เฉย
วางใจและพึ่งพิงข้าที่เจ้ารักและรักเจ้า
จากนี้จะมีสองเราเป็นเงากันและกันตลอดไป

นิ่ง และจงเฝ้าดู
สิ่งมิเคยบังเกิด จักบังเกิด
เทพแห่งรักจักบังอาจประกาศกร้าว
สะท้อนก้องชั้นฟ้า
สะเทือนแผ่นดินโลก
ปลักนรกจักคลอนเคลื่อนเลื่อนลั่นด้วยเสียงแห่งรัก

ความปรารถนาสูงสุดของข้าครั้งนี้ ข้าจักแลกด้วยน้ำตาล้านหยด !"


เขา ผู้เป็นที่รัก ผู้เฝ้าติดตามมิคลาดคลา
เขาผู้ห่วงหา น้ำตารินไหล
โอบหญิงยอดหทัย เผชิญคำพิพากษา


เบื้องหน้าสภาศักดิ์สิทธิ์ ปวงเทพครบครัน
น้ำตาล้านหยดของอีรอส ท่วมท้นสวรรค์ แผ่นดิน และนรก

ไซคีผู้งดงาม สะกดสามโลกตะลึง กระทั่งอโพรไดธ์ยังไหวหวั่น
เดินทางถึงซึ่งที่หวัง เป็นเทพธิดาโดยพลัน
ด้วยไม่ทิ้งฝัน เชื่อมั่นวันหน้าจักเป็นจริง


"เทพธิดาน้อยไซคี เจ้าของปีกผีเสื้อแสนสวย
เจ้าสาวของฉัน
เราจักครองคู่กันตราบนิรันดร์กาล"


ชายผู้เป้นที่รัก เทพแห่งรักและเสน่หา
เจ้าบ่าวของฉัน
เราจักครองคู่กันนิรันดร

นี่ใช่ไหมอีรอสคือที่สุดแห่งรัก"


"ใช่ไซคี เราพากันมาจนถึงที่สุดแห่งรักแล้ว
กระนั้น ยังหาสิ้นสุดไม่"




*












22.3.55

กล่องความงาม The Beauty Box

By John William Waterhouse


ไซคีก้มมองกล่องไม้ในมือ

กล่องความงามจากราชินีแห่งดินแดนใต้พิภพ
ธิดาผู้เทวีอโพไดธ์โปรดปราน อยู่ในมือข้าแล้ว
หลังภารกิจนี้ อีรอส ข้าจักพบท่านหรือไม่
ใช่! หากได้พบท่าน !

ไซคีวิ่งลิ่วสู่สายธาร
ในบานกระจกผิวน้ำ เธอก้มลงเพ่งมองภาพสะท้อน

โอ ดูนั่น ! ดูหญิงผู้น่าสมเพชคนนี้
นี่หรือคือหญิงผู้เป็นยอดดวงใจเทพแห่งรักและเสน่หา
ในสภาพเช่นนี้ ข้าหรือจักเผชิญหน้าท่านได้

ความงามในกล่อง จักเป็นเช่นใดหนอ
คงเพียงพอ แบ่งปันให้หญิงน่าเวทนาคนนี้ได้บ้าง
ข้าปรารถนาความงามเพื่อเขาผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง

เปิดกล่องน้อยพลัน

ควันอึมครึมมัวหม่นพุ่งจากข้างในเข้าครอบคลุมไซคี
เธอหารู้ไม่นี่คือกับดักที่เทวีอโพไดธ์วางแผนไว้กำจัดหญิงงาม
ไซคีคู่แข่งผู้โง่งมไร้เดียงสา

อา นิทราอันสุขสงบ
ข้าจักซุกซบลงในอ้อมกอดอบอุ่น
ละอองไอการุณย์หม่นเทาแห่งง่วงเหงา
ภาวะหลับใหลจำลองมรณา
ให้โอกาสข้ามนุษย์ผู้ไม่ประสีประสาได้ทำความรู้จักกับความตาย
สหายคุ้นเคยผู้จักต้อนรับขับสู้ในวันสุดท้าย

สู่สีดำมืดมิด นิรมิตโดยนิทรา
ไซคีทอดกายลงนอน


หากชักช้า เธอจักวอดวาย !
อีรอสโฉบเข้าปัดนิทรากลับลงไปในกล่องความงาม

กล่องแห่งนิทรา


*





20.3.55

อย่างนั้นใช่ไหม (ไซคีตอนสิบ) Is That So?

By John William Godward (1861-1922)


อนิจจา ความริษยาของเทวีอโพรไดธ์รุนแรงนัก
ความชังแน่นหนักอยู่ในอกเกินแบกรับ
จึงถมทับลงกับข้าผู้สาเหตุ
ขอข้าอย่าได้เฉียดใกล้ความเกลียดชัง
และถูกกักขังอยู่ในกรงแห่งพยาบาท
นางคงไม่ปล่อยวางหากชีพข้ายังคง

ไซคียังคงก้าวเดินแม้อ่อนระโหยโรยแรง
"เห็นแล้ว! ทุ่งหญ้าที่แกะขนทองคำออกมากินหญ้าอยู่ลิบๆนั่นเอง"
เธอเร่งเท้าแล้วออกวิ่ง
เลียงหนึ่งร้องห้าม
"หยุดก่อน!"

เทพแห่งแม่น้ำเมตตาสงสาร
"ช้าๆ อย่ารีบเร่งไม่รู้คิด ชีวิตจักแหลกลาญ
แกะขนทองคำดุร้ายนัก รอให้พวกมันกินหญ้าจนอิ่มหนำ
แล้วย้ายไปนอนพักใต้ร่มไม้ด้านโน้นเสียก่อน
เจ้าค่อยรีบร้อนเก็บขนแกะร่วงหล่นและติดอยู่ตามเปลือกไม้
ทุกสิ่งดำเนินไปอย่างมีจังหวะ เจ้าต้องจับจังหวะนั้นให้ได้
แล้วเจ้าจะปลอดภัย"


*


อโพรไดธ์ เทวีแห่งความงามโกรธเกรี้ยวเมื่อไซคีนำขนแกะทองคำมาบรรณาการ
อื่นใดนางไม่ต้องการนอกจากความเสื่อมทรามตกต่ำของไซคี

"เจ้าจงเดินทางไปยังดินแดนใต้พิภพ รู้จักไหมไซคี
ผู้คนเรียกว่าแดนมฤตยูอย่างไรเล่า
เจ้าต้องไปหาธิดาเรา เข้าเฝ้าเพื่อรับกล่องความงามจากนาง
แล้วนำมาให้ข้า"

ทางเดียวที่จะไปถึงแดนมฤตยูมีทางเดียวคือตาย !
และข้าไซคีจักยอมพลีชีพเพื่อภารกิจนี้
จักได้พบเขาผู้ที่ข้ารักสักที หรือแค่บางที
ขึ้นสู่ยอดหอคอย
จากที่นี่ ข้าจักทิ้งตัวลงไป !

"ไซคี อย่า !" หอคอยห้ามเธอไว้
"ยังมีทางอื่นที่ทำได้ เจ้าจงฟังไว้ให้ถ้วนถี่
จงไปอย่างคนมีชีวีและกลับมาพร้อมชีวา
จำไว้ ! อย่าดื่มกินสิ่งใดเมื่ออยู่ใต้พิภพ
มิเช่นนั้นเจ้าจักพบจุดจบไม่อาจหลบพ้น"


*

นี่รอยเท้าระเกะระกะ ใครหรือลอบตามมา
เธอผู้กังขามองเขม้น

ไซคี ข้าอยู่ที่นี่แม้เจ้าไม่เห็น

ใยความรักช่างยากเย็น
กล้ามเนื้อ กระดูกเส้นเอ็น เจ็บปวดสุดทานทน

ไซคี สุดสายปลายทาง ข้ามิเห็นหน

ข้าจักอดทน
โออีรอส
ใช่ไหม ความรักนำมาซึ่งความเชื่อ
ความเชื่ออย่างมุ่งมั่นนำมาซึ่งศรัทธา
ศรัทธาเพียงอย่างเดียว นำมาซึ่งความรัก ความฝันและความหวัง
เหตุและผลของการมีชีวิต
โออีรอส
ศรัทธาใช่ไหมคือที่สุดแห่งรัก




*

16.3.55

ชะตากรรม Face Of Destiny (ไซตีคอนเก้า)

Psyche before Aphrodite Throne


ไซคีหมดแรงทรุดลง คงตายพร้อมโศกเศร้า
หากดวงใจอ่อนล้ากลับติดปีกบินไกล
ผ่านสายธารสีเงินอันกลีบดอกไม้สีทองล่องไหล
อีรอส... อีรอส มารับวิญญาณฉันด้วยหนา
กระซิบโหยหาไม่ทันขาดคำ คะมำทรุดล้ม
สิ้นสติสมประดีบัดนั้น


เขาผู้เป็นที่รัก ชายผู้ห่วงหา น้ำตารินไหล
ร่อนลงประคับประคองอุ้มร่างไซคีสู่สรวงสวรรค์
จากนั้นจำหายตัวไปไม่อาจให้เห็น


ไซคีฟืิ้นตื่น แม้งุนงงยังคงฝืนกายออกเดินทาง

เธอร้องขอความช่วยเหลือจากแพน
เจ้าแห่งป่าเขาลำเนาไพร และการไล่ล่า
เทพแห่งคนเลี้ยงแกะและปศุสัตว์

"เจ้าเป็นคน ส่วนคนที่เจ้ารักนั้นเป็นเทพ
เจ้าต้องพิสูจน์รักให้แจ้งชัด
สวรรค์จักเหลียวมองเจ้าบ้าง"

"ความงามที่ข้าไม่ได้ร้องขอ ต้องชดใช้อีกเท่าไรถึงเพียงพอ
โศกเศร้าที่บั่นทอนกัดกร่อนเจียนตาย ไม่มีความหมายใดหรอกหรือ


แม้เทพดิมิเทอร์ เทวีแห่งธัญพืชและความอุดมสมบูรณ์
ผู้กำหนดฤดูกาลที่มีผลต่อความเป็นความตายของมนุษย์
ยังปฎิเสธไม่ยื่นมือเข้าช่วยด้วยเกรงอโพรไดธ์เทวีแห่งความงาม

เช่นเดียวกับเทวีฮีรา เจ้าแห่งการแต่งงาน

เทพทั้งสองให้ข้าเข้าเฝ้าเทพมารดาของอีรอสเพื่อขออภัยโทษ
ข้าต้องขออภัยโทษเพราะความงามที่ข้าไม่ปรารถนาอย่างนั้นหรือ
โชคชะตา !

ขณะข้าต้องการความช่วยเหลือ กลับได้รับแต่คำแนะนำ !

ไม่มีทางเลือกอื่นใด จำต้องเผชิญหน้ากับต้นเหตุแห่งปัญหา"


...

คิวปิดเฝ้ามอง อา ดูนั่น !
ไซคีที่รักแห่งเรา เข้าเฝ้าพระมารดาผู้แค้นโกรธขออภัยโทษ
ถูกโบยตีกระนั้นยังไม่สาสมพระทัยอาฆาต
มุ่งมาดให้เธอลำบาก รับหน้าที่ยากเย็นเกินกว่ามนุษย์มนาใดจักทำได้

ภารกิจนี้จะนำเธอสู่การลงทัณฑ์น่าครั่นคร้าม !


แยกเมล็ดธัญพืชทั้งหมดออกจากกันก่อนยามเช้าจะมาถึง !
ไซคีงกเงิ่น แม้เป็นไปไม่ได้แต่จักพยายามทำมันไป
เธอค่อยๆแยกเมล็ดข้าวสาลี บาร์ลี่ย์ ไรน์
รวมทั้งเมล็ดถั่วเมล็ดงาจากทั่วเขตคาม ไม่วางมือ

ดึกดื่นหนักหนา ดวงตาไซคีหรี่ปรือ
"ความตายอาจเป็นรางวัลยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคนจนตรอก"
ไม่ช้าดวงตาก็ปิดสนิทร่วงฟุบหลับไปกับน้ำตา สู่นิทราผู้การุณย์

...

หนึ่งหยดอัสสุชลจากดวงตาอีรอสผู้เฝ้ามองตกลงสู่พื้น
ฝูงมดแตกตื่นออกจากรัง

เทพแห่งรักและเสน่หาสะอื้นไห้
ปัญหาอันใด จำหาทางช่วยด้วยสมเพชเวทนา

ฝูงมดไม่รั้งรอ แยกเมล็ดธัญพืชเสร็จก่อนรุ่งสาง



อโพรไดธ์เกรี้ยวกราดตวาดลั่นด้วยผิดคาด
มัวตัวสั่นงันงกอยู่ทำไมไซคี
รีบออกเดินทางสู่ทุ่งกว้างที่แกะขนทองคำออกเล็มหญ้า
เจ้าจงนำขนแกะกลับมาบรรณาการเรา !




*


14.3.55

สิ่งที่เหลืออยู่ Last Thing Left (ไซคีตอนแปด)

Female Head by Leonardo Da Vinci


ไซคีผู้เศร้าหมอง ประคับประคองตนผ่านวันคืนมืดมนสิ้นหวัง
หวาดระแวงระมัดระวัง แผ่นดินนี้มิเคยเหยียบย่าง
เวทนาตนเองนักไซคี ธิดาเจ้าครองเมือง เลื่องลือความงามสามโลก
ผ่านสุขโศกสู่ทรามเสื่อมมิใช่เพราะสิ่งเดียวกันหรอกหรือ
ชีวิตเปื้อนมลทิน ชะตากรรมลิขิตด้วยคนอื่น
กระไรหนอชีวิต รสชาติช่างเฝือนฝาดอนาถนัก!
ในเมืองคึกคัก ผู้คนสำลักความสุข
มีบ้างไหมใครสักคนสำนึกรู้ซึ่งทุกขเวทนาของข้า


อีรอสตัดไม่ขาด ยังคงติดตามและเฝ้ามอง
เจ้าผู้เป็นที่รัก นรก สวรรค์ แผ่นดิน ไม่ได้ยินเจ้าครวญหรอกหนา
หากข้าสิได้ยิน ตามติดมิคลาดคลา
รู้บ้างหรือเปล่า ข้า อยู่ใกล้เจ้าเพียงนี้


สายลมโชยอ่อนสัมผัสใบหน้าไซคี
โอ้ความรัก ต้นเหตุแห่งความเขลา !
ก้านใบต้นไม้อ่อนโอนเพียงสายลมแตะต้องแผ่วเบา
แม้ท่ามกลางพายุแห่งวิบัติ

ข้าสัมผัสความรักในทุกสิ่ง !


อาไซคี ข้า ชายผู้ไม่มีหัวใจ
ด้วยมันได้ติดตามเจ้าไปยังแห่งเดียวที่ต้องการ
ซมซานรานร้าว คืบคลานและแล้วขดนอนอยู่ในดวงใจเจ้า เรือนรักที่พักพิง
จิตวิญญาณข้าร่วงหล่นเป็นละอองธุลี
เกลื่อนกลาดเหนือธรณีที่เจ้าเหยียบย่ำ


อีรอสท่านอยู่ไหน โปรดมารับข้าไปเถิด
คงเพียงความตายเท่านั้นที่อาจนำชัก
จักเปลี่ยนผันชอกช้ำอันดื่มกินอยู่มิรู้เลิกรา
ให้เป็นพรจากสวรรค์


อย่าหวังผู้ใดเมตตาเจ้าเลยไซคี
ความดี ความงาม ความรัก มอบหลายหลากของกำนัล
พลันกระชากพรากทิ้ง
แม้กระนั้น ขอเจ้ารักษาศรัทธา


ด้วยศรัทธาเป็นสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่




*

ตอนเก้า "ชะตากรรม"


*

13.3.55

เทพผู้ไม่อาจตาย ไซคีตอนเจ็ด The Broken Wings

"Lady Clare" by John William Waterhouse


อีรอสก้มลงมองเธอผู้ยื้อยุด

"อา หัวใจข้าจักเจ็บ...จักปวดได้กว่านี้ฤๅไม่
ไซคี จำได้ไหม ใครเคยบอกกล่าว
ในความมืด รักมีชีวิต
ในไม่เห็นหน รักคงอยู่ เป็นลิขิต
ในภักดิ์ ขอเจ้าแน่นหนักอย่าไหวหวั่น"


"ใครเล่าที่บอก หากมิใช่ท่าน
โปรดอย่าลงทัณฑ์ มิใช่ไม่รักษาฝัน
เพียงใคร่รู้ ใคร่เฝ้าดูในแสงคืนแสงวัน"


"โอกาสที่ไม่มีทางมาถึงด้วยลิขิตเบื้องบน
เวลาของเจ้าผู้เป็นคนและข้าผู้เป็นเทพ
จบสิ้นลงแล้ว
แม้รักยังคง
ปล่อยเถิดไซคี"


"ไม่! ได้โปรดอย่าตัดรอน...พันธนาการอันท่านก่อเกิด
แห่งรักบรรเจิด
จำเมินเฉยต่อความต้องการของท่าน
มิอาจปล่อยมือ !"


"เทพร่อนเหนือฟ่อนฟาง ทะยานสูงขึ้น
ใยจึงยึดยื้อสิ่งซึ่งหลุดลอย ใยเกี่ยวเหนื่ยวถือหรือไซคี"
พายุข้างในโหมกระพือ
เจ็บปวดท้นทะลักหยาดอัสสุชล


เทพบินสูงขึ้น เธอหวั่นหวาด
หัวใจเจียนขาดปล่อยมือ
บนกองฟางเธอร่วงหล่น
ผวาตน ชะเง้อหาผู้อยู่บนฟ้า
มิเห็นหน !
เลือนสิ้น บินหาย


"โอ้ไซคี ดวงใจข้าร่วงหล่นไปพร้อมกับเจ้า
ความสุขสูญสิ้น ไร้ซึ่งวิี่แวว"


โอ้ดวงหทัยข้า
สิขราสิแยกแล้ว
ท้องฟ้าก็ขาดแก้ว
ศศิพินทุ์ถวิลวอน

มืดมนนภานี้
ธรณีจะสุมขอน
แม่น้ำหะเหือดข้อน
ปะทุแตกธุลีทราย

มรณาสิต้องการ
ทรมานจะคลี่คลาย
เถิดมาสิวอดวาย
ทุขะนี้มิขอทน

โศกนาฏกรรมรัก
สิกระอักทะลักล้น
อยากตายมลายชนม์
วิปริตมิอาจตาย


"ไซคีมณีร้าว
เจ้าสาวผู้เป็นหม้าย
ต่อแต่นี้จักพเนจรร่อนเร่ไป
บนปฐพีที่มีแต่กรวดหินดินทราย

อมนุษย์เจ้าบ่าว
ได้ตายไปจากเจ้าแล้ว


ทุกขเวทนาต่อการจากพรากครั้งนี้
ข้าขอชดใช้เจ้าด้วยน้ำตาแสนหยดนะไซคี"




*

ตอนแปด "สิ่งที่เหลืออยู่"

*


12.3.55

รักที่ต้องลาจาก (ไซคีตอนหก) The Turbulence

By John William Waterhouse


บนแผ่นดิน ไซคีตามหาอีรอส
ไม่พบแม้เงา เขา...ผู้สถิตสถานบนสรวงสวรรค์
ผ่านเมืองแน่นขนัด ผ่านน้ำพุผีสิง
ผ่านอุโมงค์มัวหม่น
แหล่งอาบน้ำอบไอร้อน ควันลอยอ้อยอิ่ง
ท่ามกลางโบสถ์ไม้สน
บนภูเขาอาบแสงจันทร์
ณ ที่ซึ่ง ความเงียบเงี่ยฟังเสียงดวงดาว


บนลานโล่งลึกในป่า
ซึ่งฝูงนกพิราบผ่อนพำนัก
หุบเขาฉาบสี
สายลมอวลหอม
เธอยินเสียงแห่งรักก้องสะท้อน
พบเห็นรอยเท้าเขา เจ้าของนามความรักทุกแห่งหน
แม้ไม่เห็นตัวตน
แม้ไม่มี !


"มิใช่เพราะสงสัย เพราะกลัวหรอกหรือไซคี
เพราะหวั่นไหว หวาดระแวงไม่วางใจ
รักจึงบินหนี
ใครสร้างภาพอสูรร้าย ชายผู้นอนข้างกาย
รักจึงห่างหาย
เหลือไว้เพียงรอยบาป หยาดน้ำตา"


"โออีรอส วิญญาณสุกสว่างแห่งอมตะเทพ
ร่างกายไซคีคนนี้ใกล้สิ้นลง
ไม่นานคงสิ้นลม
วิญญาณไร้แล้วที่ไป
เหลือเพียงหัวใจติดปีกอาลัย
ท่านอยู่ไหน โปรดมารับร่างไร้วิญญาณแห่งเรา"

เธอปรายตาขึ้นมอง พร่ำเรียกนามอีรอส
หนอ เสียงไม่พ้นลำคอ เพียงลมกระซิบแผ่วเบา
ฝืนกล้ำกลินก้อนเศร้า
"โปรดยกโทษ อย่าเคืองโกรธ
ด้วยไม่เคยเห็นแม้เงา...
เฝ้ารอเมื่อไรจักได้ยล
เถิดสงสารหัวใจ อย่าทิ้งไปลับเลย"


"เจ้ากล่าวสิ่งใด ข้าไม่ได้ยิน"
เทพหยุดโผบิน ผินพักตร์ร่อนลงมอง

"ท่านผู้ร่วมบรรจถรณ์ ข้าขอวิงวอน
กายและใจนี้ ใครหรือเคยประคับประคอง"
อัสสุชลเนืองนอง
กลั่นกรองจากห้วงหฤทัยระทม
"ปราศจากท่าน
จักผ่านวันคืนไปได้อย่างไรไหวหวั่น"


"ไซคี ยังมีอื่นใดอีกไหมที่เจ้าจักเรียกร้อง
ทั้งจากโลกและจากสวรรค์
ยังมีสิ่งใดอีกที่เจ้าประสงค์"


"ข้าจักไม่ร้องขอสิ่งปรารถนา ทั้งจากโลกและจากสวรรค์
แต่จากท่านเท่านั้นอีรอส

ห้องมืดมิดปริศนาที่อาศัย
นิทราเคียงข้างใครไม่เคยรู้
ความวิตกสงสัยให้พรั่งพรู
จึงจุดไฟส่องดูผู้ข้างตน"


"ไม่มีใครจักได้ทุกสิ่งอย่าง
ต้องอำพรางจำเพาะเพราะเหตุผล
เพียงเงื่อนไขหนึ่งข้อขออดทน
ยังไม่พ้นอับปางกลางธารรัก"


ไซคีจนใจ ร้างไร้คำอธิบาย
"อย่าให้เหลือเพียงเปล่าดาย เสียดายนัก
อย่าไปเลย เพียงยกโทษ"


เทพเบือนพักตร์ สงสารเธอผู้ยอดรัก
ถ้อยคำใดมิอาจเอ่ยออกจากโอษฐ์
เกิดการปะทะในพระอุระ ระหว่างรักและพิโรธ
ขัดแย้ง กล่าวโทษ
หากท่วมท้นอาดูร
เทพแห่งรักโลภโกรธหลง จนมุมเสียแล้วหรือนี่!
มิมียอม !!!

กระพือปีกจะโบยบิน เธอโผเข้าเกาะ
สุดอดสุดทน ซานซมตรมตรอม




*

ตอนเจ็ด "มณีร้าว"

*

10.3.55

ลมหายใจแห่งรักและปรารถนา (ไซคีตอน 5)

Psyche by William Adolphe Bougureau


แรงพิษริษยาจากคนใกล้ตัว
ใจไหวระรัว เพียงเสียงเขาที่เจ้าได้ยิน
ชายข้างกายอาจเป็นอสูรร้าย
ห่างหายในแสงทิวา คืนกลับมายามราตรีกาล
มืดมิดเช่นดวงมาลย์
ไซคีนงคราญไม่รู้อยู่กับใคร


ดึกดื่นคืนนี้ ไซคียกตะเกียงน้ำมันเหนือเตียง
มือหนึ่งกำด้ามมีดกระชับมั่น
ไว้ป้องกัน หากเขาเป็นปีศาจร้าย

โอใคร ชายผู้หลับใหลอยู่บนมัทนอาสน์
งดงามประหลาดเหลือแสน

หยดน้ำมันร้อนกระดอนกระเด็น
โดนกายชายผู้เจ้าของ
เขาสะดุ้งตื่นลืมตามอง
ขุ่นแค้น

"หญิงผู้ไม่หนักแน่น เจ้าไม่รักษาสัญญา
จุดไฟลอบมองตัวข้า!
ลาแล้วหนาไซคี หญิงผู้โยกโยนโอนไหว!"

"ข้าเพียงอยากรู้ว่าท่านเป็นใคร"

"ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องรู้ไซคี!"

เทพกางปีกบินไกล

"โอท่านโปรดอย่าทิ้งไป เห็นใจไซคีคนนี้
โอ้ท่านผู้เป็นเจ้าของ ข้าน้ำตานอง โปรดอย่าล่องลี้หนีหน้า
โปรดบอกแก่ข้า..." แหบพร่าเธอถาม
"ท่านเป็นใคร"


"ข้าอีรอส เทพแห่งรักและปรารถนา
ข้ากับเจ้า พบเพียงเพื่อผ่าน
นับจากนี้จวบกาลนาน
.. จักไม่พบพาน

ลาแล้วหนาไซคี
ดวงมณีแห่งเรา"




*

ตอนหก "รักที่ต้องลาจาก"



*

7.3.55

กล่อมนาง (อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑) ไซคีตอนสี่ Cupid's Love Song



"Sleeping Psyche" by Kinuko Y. Craft via Bossini Burr


งามไซคีเป็นที่บูชา บุรุษบนพสุธาฤๅอาจเอื้อม
ใครครอบครองต้องทรามเสื่อม
พวกเขาจึงแห่แหนเธอมาบรรณาการแด่ทวยเทพ ณ เชิงเขา

ตัวคนเดียว ไซคีหวาดหวั่นพรั่นพรึง.. ลึกซึ้งซึ่งความหมาย
ความงาม ข้าไม่พึงประสงค์ ข้าประสงค์ความตาย
ดินแดนแสนเดียวดาย
รอบกายเพียงกรวดทรายและก้อนหิน
รัตติกาลอ้างว้างครอบงำ
สพรึงกลัว! หม่นมัวมืดมิด
เช่นชีวิตเรา
ควันดำค่ำคืนจู่โจม โถมทับไซคี


กล่อมนาง (อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑)


อ้าองค์อนงค์อร

ดนุวอนอนรรฆนาง

มอบให้หทัยวาง

ทนุนุช พิสุทธิ์ดวง


ฝันเพ้อละเมอหา

วนิดาพะวงหวง

มาดแม้นจะหนักหน่วง

ดฤถี มิหวั่นเกรง


ยลพักตร์ผกายพร่าง

ดุริยางค์ก็บรรเลง

เงี่ยฟังสิเสียงเพลง

รจนา ณ หนใด


หากเธอมิรับรัก

ก็มิหักตระหนักใน

จวบกาลอสงไขย

รตินี้มิมีเลือน


เนืองนองนะอกข้า

ชลนาสิกล่นเกลื่อน

ราตรีก็ฟั่นเฟือน

ทวิทบทวีกาล


ไฟหวังสิช่วงโชติ

รุจิโรจน์นิรันดร์นาน

แม้จิตจะพลุ่งพล่าน

ทรมานและรานรน


แตกต่างและห่างไกล

กลนัยสิอึงอล

อัดอั้นสะท้านทน

สละได้รึใจเรา


นวลเอยเถอะอยู่ก่อน

มธุศรสนิทเนาว์

รื่นล้นระคนเศร้า

หฤหรรษ์คละอาดูร


นางเอยนะอยู่ดี

ดนุนี้จะเกื้อกูล

ที่มีจะเพิ่มพูน

ปฏิพัทธิ์ พิทักษ์นาง


ไซคี... เธอผู้เป็นที่รัก

ขอจงรู้จักไว้วาง

แทบเท้าทุกอย่าง ข้าวางไว้ให้

อย่าได้คลางแคลงใจเลย

ในความมืด รักมีชีวิต

ในความสว่าง แม้เจ้าจักไม่เห็นหน

กระนั้นรักจักคงอยู่ เป็นลิขิต

จิตภักดิ์

ขอเจ้าแน่นหนักอย่าไหวหวั่น


*

ตอนห้า ลมหายใจแห่งรักและปรารถนา


*


4.3.55

คิวปิดรำพึง The Cry Of Cupid

ต่อจากตอนหนึ่ง"ไซคี ปฐมบท" และตอนสอง "น้ำตาคิวปิด" ข้างล่างนี้ค่ะ


Psyche by William Adolphe Bougureau


คิวปิดรำพึง


นามเรา รักและปรารถนา
นามเธอ ความคิด จิตวิญญาณ
เบื้องโพ้นฟากฟ้า...เรามีวิมาน
เธอ... ณ สถานปราสาทบนดิน


ไซคี หญิงสาวผู้หันหน้าสู่แสงตะวัน
ความสว่างโลมไล้ใบหน้านี้ด้วยจิตปฎิพัทธิ์
แม้แสงตะเกียง แสงเทียนแสงโคมยังคลั่งไคล้
เฝ้าส่องประกายวิบไหว
ด้วยใคร่เห็นวาบวับแห่งนัยนา


ต่อแต่นี้ คราราตรีกาลมาเยือน
เจ้าคงเบือนหน้าหนีความมืดน่าหวาดหวั่น
กระนั้นเจ้าไม่อาจเลี่ยงหนี
กำมะหยี่สีดำแห่งรัตติกาลอ่อนโยน

ในความมืด เจ้าจักรู้จักชายผู้เจ้าไม่อาจรู้จัก


รู้หรือไม่คนงาม
ข้า...โอรสต่ำทรามแห่งเทพมารดาอโพรไดธ์
ยามนี้ท่านแล้งไร้คนบูชาเพราะความงามเจ้า
เฝ้าก่นด่าริษยาอาฆาตเจ้า
ศูนย์กลางใหม่ของความชื่นชมบนแผ่นดิน
มอบหน้าที่ให้แก่ข้า ลูกผู้ทรงไว้วางพระทัย
กำชับหนักหนา จงทำลายเจ้าให้ตกต่ำ
หากข้า .. กลับทรยศ ขัดคำสั่งคลั่งบ้า
ติดตามเจ้ามาด้วยหลงรัก .. ทั้งต้องห้าม


โอ สามโลกโปรดทบทวน
ใครเล่าจักฉีกทึ้งความรู้สึกนี้ไปจากข้าได้
มีไหม !


หญิงสาวผู้นี้ คือดวงมณีที่โลกไม่อาจแตะต้อง
มนุษย์จึงนำเธอมาทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยว ณ เชิงเขา
เพื่อเป็นจ้าสาว บรรณาการแด่ทวยเทพผู้ปรารถนา
ข้าจึงนิรมิตปราสาทนี้เพื่อเป็นเรือนหอแห่งเรา


เทพแห่งรักแลปรารถนาต้องร่ำไห้
อัสสุชลหล่นไหลดั่งสายธาร
อัปยศยิ่งนักอีรอส !


สมเพชเวทนาน่าสงสาร
เทพประทานรักระคนขมและหวาน
จักประสบเคราะห์กรรมย้อนบันดาล
ทรมาน ซานซุกถูกจำจอง


มาหลงรักหญิงสาวชาวมนุษย์
ต้องยื้อยุดซ่อนเร้นเป็นเจ้าของ
ที่สุดสายปลายรุ้งคุ้งละออง
ท่ามเมฆหมองม่านดำกระหน่ำภัย


แม้ปราสาทเรือนหออันโอ่อ่า
ล้วนมายาเงาควันเสกสรรไว้
ไม่มี...ไม่จริง...ทุกสิ่งไป
จริงก็เพียงฟอนไฟไอละมุน


หยดน้ำตาหล่นลงบนหญ้าเขียว
เกาะอยู่ปลายโค้งเรียวราวเกี่ยวหนุน
กระทบแสงคล้ายเพชรเกล็ดอรุณ
ทิพย์พิรุณแม้งุนงงจงก้าวตาม


รู้หรือไม่ไซคีมณีโลก
หยดแห่งโศกบ่งทิศอย่าคิดขาม
เถิดอย่าได้พรั่นพรึงถึงนิยาม
จงติดตาม...
อัสสุชล
ที่หล่นวาง

ให้ความรัก..นำทาง..เราไป


*

ตอนสี่ "กล่อมนาง"


*

2.3.55

น้ำตาคิวปิด (Cupid's Tear)

Cupid by Jasmine

เกิดโกลาหลขึ้นกับข้า...
ซึ่งคลั่งบ้าพัดกระหน่ำพายุโหม
คลื่นทะเลภายในกระแทกหินครืนโครม
ซึ่งขัดแย้งเข้าจู่โจมกระทันหัน

โอ...สาวน้อยผู้งดงาม
เจ้าหรือคือผู้ข้าจักลงทัณฑ์ ตามบัญชาพระเทพมารดร
ลูกธนูแหลมคม ปลายอาบหวานขม
จักแล่นจากแหล่ง ทิ่มแทงหฤทัย
เพื่อเจ้าจักคลั่งไคล้ หลงใหลชายโฉดอัปลักษณ์
ความงามนี้หรือสมควรแลกริษยา
อันสถิตสถาน ณ เบื้องลึกแห่งเทพมารดาอโพรไดธ์เทวี


ไซคี นามนี้ความหมายล้ำลึก นามเจ้าเหมาะสม
ลมหายใจสุดท้าย...ก่อนตาย
ปราศจากเจ้า...
ข้าไร้ชีวิตแม้ดำรง
หากปราศจากเจ้า
ข้า ร้างชีวาแม้ยังคง
ทำไม่ลง!
สู่เส้นทางอัปยศ!
ข้าจักไม่ส่งเจ้าไป!
ตระหนกตกประหม่า ปลายศรทิ่มแทงองค์เอง
ข้าคงตั้งใจมิได้กลัวเกรง จิตไร้สำนึกบงการให้บุ่มบ่าม
ผลีผลามด้วยฤทธิ์รักซาบซ่าน สะท้านฤดี...
ไซคี ข้ามีชีวิตโดยปราศจากเจ้าไม่ได้

เล่นตลกใยโชคชะตา
พระเทพมารดาทรงไว้วางพระทัย หากลูกทรยศ
กบฎต่อหน้าที่ ทรพีจัญไร ปฎิเสธภารกิจมอบหมาย
ลูกประสงค์ความตาย หายนะจักมาถึงมิช้า
ความรัก
หญิงตรงหน้า
ข้า...มืดบอดแล้วถูกผิด
สิ้นคิด! ต่อแต่นี้จักต้องชดใช้ ตราบนิรันดร์กาล

ไซคี
มีหรือละทิ้งเจ้า
ปีกแห่งรัก จักติดตามดุจเงา
พิภพโลก! นรก! สวรรค์!
ข้าจักติดตามเจ้าไป
ด้วยอสงไขยแห่งรักและเสน่หา
แม้เจ้าไม่อาจเห็นข้าด้วยดวงตา
แต่เจ้าจักยลรอยเท้าข้า เจ้าของนามความรัก
จากที่นี้จนสุดแผ่นฟ้าแผ่นดิน

ในยามสงบสงัด...
เจ้าจักสดับเสียงปีกแห่งรัก กระพือสบัดอยู่ไม่ห่าง

โอ พระเทพมารดร ลูกสะท้อนในอก
ช้ำชอกฟูมฟก สะทกหวั่นอุปสรรค
จักก้มหน้าก้มตา รับโทษานุโทษมหันต์
แม้สุดไหวหวั่น บูชายัญรัก
โง่เง่า! มัวเมา! เขลาขลาด!

ขณะลูกติดตามไซคี
ปีกดำแห่งอกตัญญูู จักติดตามลูกไป
เช่นเงา

น้ำตาข้า ตกต้องร่างไซคี
เบื้องอุระเธอเปียกโชกด้วยหยดเศร้า
จากดวงตาเฝ้ามองแห่งเรา
สาวน้อยลืมตาตื่น
...ไฉนเจ้าจักรู้...
ไฉนแลดูจักเห็น
ผู้ใดจักบอกกล่าว ข้าหรือจักบอกเล่า...

ความรักที่ข้ามีต่อเจ้า
เริ่มต้นด้วยน้ำตาหมื่นหยด ไซคี


~
ตอนสาม"คิวปิดรำพึง"ค้นคว้าจากตำนานเทพปกรณัมกรีกและโรมัน
ขอบคุณคนวางแรงบันดาลใจให้เกิดงานเขียนชุด"ไซคี"

*

1.3.55

ไซคี Psyche

Psyche & Eros



1. ปฐมบท


วันวารก่อนเก่า

พวกเขาถักทอเทพนิยาย

ระบายสรรพสีจินตนาการผ่านความนึกคิด

ลิขิตลงบนปีกหงส์ขาวหน้ากระดาษ

สิโรราบต่อจริงลวง กลืนกลับลับหาย

ภายใต้สายน้ำล่องไหลเหนือพื้นทรายสีทอง

กรองร้อยบทกวีรำพึงถึงแดนสวรรค์อันลึกลับ

ขับขานเรื่องราวหญิงสาวแสนหวานและเงียบขรึม

ผู้มีหัวใจนักเดินทาง

ความฝันนำทางเธอไป

ไซคี

หญิงผู้บูชาความรัก



*

ตอนสอง "น้ำตาคิวปิด" (Cupid's Tear)

ค้นคว้าจากตำนานเทพปกรณัมกรีกและโรมัน
ขอบคุณคนวางแรงบันดาลใจให้เกิดงานเขียนชุด"ไซคี"

*